總理参加柬埔寨太皇西哈努克送行仪式 并且会见柬埔寨太后莫尼列、国王西哈莫尼和首相洪森

พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “สมเด็จสีหนุ” ยิ่งใหญ่ ชาวเขมรแต่งชุดขาวแห่ ร่วมสักการะ-ถวายความอาลัย ส่งเสด็จสู่สรวงสวรรค์ ขณะที่ “นายกฯ ปู” นำคณะ รมต.บินร่วม พร้อมรุดพบ “ฮุน เซน” ขอบคุณปล่อย “ราตรี” ลดโทษ “วีระ” ยันพร้อมสานสัมพันธ์ไทย-เขมรให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ด้าน “พงศ์เทพ” แจงนายกฯ คุย ฮุน เซน ไร้ปมเขาพระวิหาร เผยเตรียมยกทีมกม.ไทย ถกที่ปรึกษา กม.ต่างชาติ ที่อังกฤษ 6 ก.พ.นี้ ยันต้องเตรียมสู้คดีให้ดีที่สุด ส่วน “ราตรี” น้ำตาคลอ ย้ำถูกจับในแผ่นดินไทย เชื่อเหตุพ้นคุกรัฐบาลมีประโยชน์แอบแฝง หวังลดความตึงเครียดในไทย ก่อนศาลโลกชี้ขาดเขาพระวิหาร

วันที่ 4 ก.พ. เมื่อเวลา 08.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน. 6) เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ พระวรราชบิดาแห่งกัมพูชาในช่วงบ่าย นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาและเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาส่วนจะหารือประเด็นใดเป็นพิเศษนั้นนายกรัฐมนตรีระบุเพียงว่าขอดูบรรยากาศก่อน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 20.10 น. ในวันเดียวกัน

ต่อมาเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยทันทีที่เดินทางถึง นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยัง อาคารสันติภาพ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพบหารือกับ สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงความขอบคุณที่รัฐบาลกัมพูชาได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษแก่ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพิจารณาลดหย่อนโทษให้แก่นายวีระ สมความคิดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งนับเป็นไมตรีจิตที่มีให้รัฐบาลไทยตามที่ได้ร้องขอ พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ได้ช่วยดูแลนักโทษไทยที่ต้องโทษและจำคุกในกัมพูชา จำนวน 51 คนด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาต่างยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและกัมพูชาที่พัฒนาคืบหน้ามาเป็นลำดับ ส่งผลให้ความร่วมมือต่างๆ มีความก้าวหน้า เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ และจะมุ่งมั่นสานต่อความสัมพันธ์ให้แนบแน่นสืบต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันที่จะเห็นความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ และมุ่งมั่นปรารถนาที่จะร่วมมือกับกัมพูชาในการพัฒนาชายแดนเพื่อสันติภาพและความมั่งคั่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยัง พระราชวังเขมรินทร์ เพื่อเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา และพระราชินีนโรดมมุนีนาถ สีหนุ พระราชมารดา ในโอกาสที่ได้เดินทางมาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระวรราชบิดาแห่งกัมพูชา พร้อมแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระราชทานอภัยโทษแก่นักโทษไทยในกัมพูชา และยืนยันถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือที่แนบแน่นของ 2 ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระบรมศพของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ถูกอัญเชิญจากพระราชวังเขมรินทร์ ไปยังทุ่งพระเมรุ(Veal Preah Meru Square) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมถวายพระเพลิงส่งเสด็จสู่สรวงสวรรค์ตามวิถีของชาวพุทธ ประชาชนทั่วประเทศ ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมสักการะและถวายความอาลัยต่ออดีตกษัตริย์ได้ที่บริเวณปะรำพิธี ซึ่งกัมพูชาได้เริ่มพิธีไว้อาลัยแด่สมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทั่วประเทศ รอบที่สอง นาน 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ ซึ่งรวมถึงการห้ามนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เข้าเยี่ยมชมพระราชวังเขมรินทร์ด้วย เนื่องจากต้องการรักษาบรรยากาศให้อยู่ในความเงียบสงบตามพระราชประเพณี สถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกช่อง งดรายการบันเทิงทุกชนิด และให้ลดธงลงครึ่งเสา ประชาชนได้รับการร้องขอให้สวมเสื้อสีขาวและกลัดริบบินสีดำ อันเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพประมาณ 1.5 ล้านคน ภายใต้การอารักขาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 11,000 นาย