综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

6 วัน 63 ล้านความคิด สั้นจัง

6 วัน 63 ล้านความคิด สั้นจัง


ปิดฉาก!!! รูดม่านไปแล้ว สำหรับอภิมหาโปรเจกต์ "6 วัน 63 ล้านความคิด" ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขรมตั้งแต่เริ่มโครงการ ระหว่างลงมือเกณฑ์คน เจ้าหน้าที่จำเป็น (อาสาสมัคร) เหล่าบรรดารัฐมนตรีที่สลับสับเปลี่ยนเวียนเทียนกันมาสวมบทเป็นโอเปอร์เรเตอร์ ท้ายสุดก็ออกมาบอกว่า "สายส่วนใหญ่เค้าชมการทำงานของรัฐบาล ให้กำลังใจรัฐบาล"

แต่ข้อเท็จจริงใครๆ ก็รู้ แม้กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มานั่งรับสายเอง ก็ยังถูกด่าจนไปไม่เป็น ได้แค่อ้าปากค้าง พูดได้คำเดียวว่า "ครับ" แล้วก็วางสายไป และ แม้แต่ดาราที่อาสา (ไม่รับค่าตัว) มานั่งรับสาย ยังถูกด่าจนหูชา บอกเลยว่า "มีเสียงเข้ามาฝากบอกว่าให้รัฐบาลไปตายซะ" แม้แต่สิ้นสุดโครงการแล้ว ก็ยังมีเสียงก่นด่าไม่เลิก  

เรื่องของเรื่องเป็นเจตนาที่ไม่เลวที่เดียวของรัฐบาลที่อำนวยการสร้างโดย "น้องเดียว" นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทางโทรศัพท์ผ่านโครงการ "6 วัน 63 ล้านความคิด" แต่เอาเข้าจริงแล้วไอ้ที่ว่า 63 ล้านความคิดนั้น มีเพียงไม่กี่สายที่โทรเข้ามากับอีแค่เวลา 6 วัน ให้โทรเข้ามา 300 คู่สาย จนเป็นที่มาของเสียงแซ่ซ้องมากมายว่า เป็นการจัดฉาก สร้างภาพ ละเลงงบประมาณโดยใช้เหตุ ใช้เวลายืดเยื้อหาเสียง เอาความดีเข้าตัว เป็นต้น

จวนแล้วจวนรอดเข็นครบ 6 วัน ได้มาเพียบ ทั้งสิงห์ สา รา สัตว์ ปัญหาจริง ปัญหาปลอม หลายคนได้หน้า หลายคนได้คะแนนเสียง หลายคนได้ซื้อยื้อเวลา หากินกับโครงการนี้ สรุปได้ว่า มีผู้โทรมาแสดงความคิดเห็นทั้งหมด 55,796 ราย อันดับ 1. เรื่องเศรษฐกิจครัวเรือน เช่น ปัญหาหนี้นอกระบบ สินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง ปัญหาที่ดินทำกิน การประกันราคาพืชผลทางการเกษตร 13,445 ราย อันดับ 2. เรื่องปัญหาทางด้านการเมือง เช่น มาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง การใช้อำนาจในทางมิชอบ ปัญหาเรื่องสองมาตรฐาน 7,015 ราย  

อันดับ 3. เรื่องสวัสดิการสังคม เช่น เรื่องคุณภาพของการให้บริการโครงการเรียนฟรี 15 ปี การให้บริการโรงพยาบาลของรัฐบาลในถิ่นทุรกันดาร  4,618 ราย อันดับ 4. เป็นเรื่อง นโยบายทางด้านการศึกษา เช่น เรื่องการปรับปรุงหลักสูตรทางการด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน การพัฒนาครูตามชนบทจัดให้ประชาชนเข้าถึงระบบการศึกษาได้ดีขึ้นลดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างนักเรียนในเมืองกับนักเรียนในชนบท 4,575 ราย และ อันดับ 5. เรื่องเศรษฐกิจค่าครองชีพ ซึ่งจะเป็นปัญหาค่าครองชีพโดยรวม  2,6143 ราย

ถึงแม้ว่าจะมีคนโทรมาแค่ 50,000 คน ทั้งที่เป้าหมายไว้ที่ 63 ล้านความคิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่า ไม่ล้มเหลว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้คน 63 ล้านคนโทรศัพท์เข้ามา แต่เสียงของคนเหล่านี้สะท้อนการเป็นตัวแทนของประชาชน เพราะมาจากทุกภาคทุกเพศและทุกวัย และปัญหาของหลากหลายมาก   

ในมุมมองของนักวิชาการด้านนวัตกรรมทางสังคม รองศาสตราจารย์ วิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ทัศนะในเรื่องนี้ว่า ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะตั้งใจฟังแล้วนำไปปฏิบัติแก้ไขแค่ไหน มันเป็น 2 อย่าง คือ 1. เป็นการหาเสียง เพราะปัญหาทั้งหมดนั้นรู้อยู่แล้ว แต่ถ้ามองในแง่ดี คือการหาข้อมูลจากประชาชนอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าต้องรวบรวม และหาทางแก้ให้ดี มันถึงจะมีประโยชน์ ไม่ใช่ว่าให้คนระบายเฉยๆ ส่วนระยะเวลานั้นไม่เหมาะสม รัฐบาลนี้ชอบจัดงานแบบอีเว้นท์ ความจริงควรมีช่องทางประจำ มีคนรับฟังประจำหลายทาง เช่น จากอินเทอร์เน็ต ไปรษณีย์ เป็นต้น มีการรวบรวมสรุปทุกสัปดาห์ และติดตาม พร้อมบอกว่าภายใน 1 สัปดาห์นั้นมีใครเสนออะไรมาบ้าง รัฐบาลได้แก้ปัญหาอะไรไปบ้าง มีหน่วยงานคอยแถลงเรื่องให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

"ต้องติดตามและแถลงอย่างจริงจัง ไม่ใช่จัดแบบครั้งเดียวแล้วก็เลิกไป และก็ไม่รู้ความคืบหน้า ดำเนินเรื่องนี้ไปถึงไหนอย่างไร ควรมีหน่วยงานทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทำระยะยาว ไม่ใช่ฉาบฉวย มันตอบโจทย์ปัญหาไม่ได้ เพราะปัญหาจะต้องไปคิดมากขึ้น เชื่อมโยงกับกรรมการต่างๆ ดังนั้นรัฐบาลควรมีคณะทำงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่โยนให้คนอื่นอย่างเดียว" คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ระบุ

รองศาสตราจารย์วิทยากร  วิเคราะห์อีกว่า ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเป็นการหาเสียง สร้างความชอบธรรมให้กับตัวรัฐบาลไปในตัว ให้ทุกคนได้ระบาย ได้โทรศัพท์ไปเจอคนโน้น คนนี้บ้าง แต่พอเสร็จแล้วไม่รู้ว่าประชาชนจะตามได้ที่ไหน เนื่องจากโครงการล้มเลิกไปแล้ว สมมติว่าหากเดินต่อไปเรื่องที่เสนอไปไม่ได้รับการแก้ไข จะตามได้อย่างไร เพราะเบอร์โทรศัพท์เก่าไม่มีคนรับแล้ว แต่ยอมรับว่าทีมงานของรัฐบาลเก่งคิดโครงการในลักษณะอย่างนี้ได้ แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องประจำ อย่าปล่อยทิ้งไว้แค่นี้.

未经允许不得转载:综合资讯 » 6 วัน 63 ล้านความคิด สั้นจัง

赞 (0)
分享到:更多 ()