พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร
ในจำนวนพระพุทธรูปสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองของไทย นอกจากพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้ว ยังมีพระแก้วที่งดงามล้ำค่า….อีกหลายองค์
องค์หนึ่งที่คนไทยไม่ค่อยคุ้น ทั้งยังมีที่มาแตกต่างจากพระพุทธรูปเกือบทุกองค์ คือ พระแก้วมรกตน้อย หรือพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร
หนังสือพระพุทธรูปสำคัญ กรมศิลปากรจัดพิมพ์เผยแพร่ พุทธศักราช 2545 รวบรวมข้อมูลไว้ว่า พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร เรียกกันอย่างสามัญว่า พระแก้วมรกตน้อย หรือพระแก้วประจำรัชกาลที่ 6
ลักษณะศิลปะ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ฐานพระพุทธรูปจำหลักกลีบบัวคว่ำบัวหงาย มีเกสรบัวประดับใต้ฐานจารึกว่า "FABERGE 1914" พระพุทธรูปนี้ประดิษฐานบนฐานไม้จำหลัก ปิดทองเลียนแบบพระแท่นมนังคศิลาบาตร มีบัลลังก์ประดับด้วยมกร สิงห์ และคชสาร
เบื้องหลังมีพระปรมาภิไธยย่อ วปร. เหนือองค์พระพุทธรูปมีเศวตฉัตร 9 ชั้นกางกั้น
วัสดุ หินหยกสีเขียวเข้ม (Nephrite) หน้าตักกว้าง 9.2 นิ้ว สูง 14.4 นิ้ว
ประวัติ…รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระราชดำริว่า พระราชวังดุสิต เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์อีกแห่งหนึ่ง สมควรจะมีพระพุทธรูปเพื่อทรงสักการะบูชา เป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติคุณ
ในฐานะที่ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ดังเช่น พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสด็จทวีปยุโรปในปี พ.ศ.2454 จึงมีดำรัสสั่งให้หาแก้วมรกตขนาดใหญ่ พร้อมช่างฝีมือดี เพื่อสร้างพระพุทธรูปด้วย
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเสาะหาหินหยกสีเขียวได้ในรัสเซีย และโปรดให้ปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช่ เจ้าของร้านเครื่องทองประจำราชสำนักรัสเซีย เป็นผู้สร้าง
แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2457 ดังปรากฏเครื่องหมายที่สลักอยู่ใต้ฐานพระพุทธรูป
ในการอัญเชิญพระพุทธรูปหยกสีเขียวจากประเทศรัสเซียมายังประเทศไทยนั้น ประจวบกับเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในทวีปยุโรป เป็นอุปสรรคในการจัดส่ง
แต่ด้วยเดชะพระบารมี ทำให้การเดินทางเรียบร้อยปลอดภัย สามารถอัญเชิญพระพุทธรูปถึงกรุงเทพฯ ได้โดยสวัสดิภาพ ในปี พ.ศ.2457
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายพระนามว่า พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (แก้วมรกตน้อย)
และโปรดให้ตั้งการพิธีสมโภช และพุทธาภิเษกเป็นพุทธบูชา เพื่อเฉลิมพระราชศรัทธา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ระหว่าง วันที่ 24-25 ธันวาคม พ.ศ.2457
แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ข้าราชการ ประชาชน และภิกษุสามเณร สักการบูชาพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามได้ระหว่างวันที่ 26-28 ธันวาคม พ.ศ.2457
จากนั้นจึงโปรดฯให้อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (แก้วมรกตน้อย) ไปประดิษฐาน ณ หอพระสุลาลัย ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง
ผู้ที่เห็นพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร คงพอจะเข้าใจได้ว่า แม้จะนำภาพพระพุทธรูปไทยให้เป็นต้นแบบ แต่เนื่องจากช่างเป็นชาวยุโรป แม้จะฝีมือเยี่ยมแค่ไหน ก็ยังสร้างพระพักตร์ขององค์พระละม้ายไปทางฝรั่ง
พระแก้วมรกตน้อยองค์นี้ จึงเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในไทยที่พระพักตร์ คล้ายฝรั่ง.
O บาราย O
未经允许不得转载:综合资讯 » พระแก้วมรกตน้อย