เฉียดใกล้ความจริงเข้าไปอีกนิด
กับหนังสือที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นมอบหมายรองนายกฯ ปฏิบัติราชการแทนในช่วงที่บินไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้
ตามคิว "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนในวันที่ 28 ตุลาคม เพียง 1 วัน ส่วนอีก 2 วันที่เหลือ เป็นหน้าที่ของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เหมาไป
มันก็เป็นอะไรที่จังหวะลงล็อกพอดี ทั้ง "บิ๊กป้อม" และ "เสธ.หนั่น" ที่ต่างก็มีชื่อติดอยู่ ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต่อคิวจากนายกฯอภิสิทธิ์ แล้วก็ได้โอกาสรักษาการเบอร์หนึ่งทำเนียบรัฐบาล แม้จะห้วงสั้นๆ คนละวันสองวัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้มีนัยอะไร
โดยกระแสที่ไม่ได้น่าตื่นเต้น ในปรากฏการณ์ที่น้ำเจิ่งนองไปทั่วทุกหัวระแหงของเมืองไทย ประชาชนตื่นเต้นกับข่าวน้ำทะลักเข้าจังหวัดนั้น อำเภอนี้ สื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ก็เปิดพื้นที่ ให้น้ำหนักไปกับข่าวน้ำท่วมเป็นหลัก
การเมืองต้องรอหลังน้ำลด "ตอผุด"
ตามคิวนับเป็นจังหวะดีของนายกฯอภิสิทธิ์ที่ได้ทีเบี่ยงตัวหลบชั่วคราว เปลี่ยนฉากไปเล่นบทลุยน้ำ ลงพื้นที่ตรวจวิกฤติอุทกภัย
อาศัยน้ำท่วมกลบกระแส ไม่ต้องโดนไล่บี้ไล่ต้อน ตอบคำถามนักข่าวรายวัน ในปมร้อนๆว่าด้วยเรื่องของการปรับ ครม. ปมทุจริตคอรัปชันในรัฐบาล ไปยัน "คลิปฉาว" ล็อบบี้ไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ทำท่าจะจนมุม "อภิสิทธิ์" ก็มีตัวช่วยโผล่มาทุกที
แต่ในโอกาสดีๆ ก็ชักจะเริ่มมีเสียงทัก กับชั้นเชิงบริหารการจัดการของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ยอมนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานกู้ภัยน้ำท่วมแบบบูรณาการทุกหน่วยงานด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสั่งการ
กลับโยนให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะที่ปรึกษานายกฯ นั่งเป็นโต้โผใหญ่ คุมคิวกู้วิกฤติอุทกภัย
ทั้งๆที่ไม่มีอำนาจชี้นิ้วสั่งหน่วยราชการได้แบบเต็มมือเต็มไม้
ถึงแม้จะลากเอานายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ มานั่งเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เพื่อให้ดูมีอำนาจอย่างเป็นการเป็นงาน
โดยตำแหน่งหน้าที่และตัวบุคคล ก็ไม่ค่อยถูกหลักการบริหารยามฉุกเฉินสักเท่าไหร่
เอาเป็นว่า นอกจากลงทุนถอดรองเท้าบูตลุยตรวจน้ำท่วมรายวัน รับรู้อารมณ์ความลำบากของผู้ประสบภัยด้วยตัวเอง แต่ในแง่ของเนื้องานแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ยังไม่ได้แสดงศักยภาพในเชิงบริหารจัดการสักเท่าไหร่
ทั้งๆที่โอกาสเปิดให้โชว์ฟอร์มเต็มที่
และก็เป็นอะไรที่ลอกข้อสอบ ดัดแปลงคำตอบกันกรายๆ กับมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
โดยให้เงินเยียวยาประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ครัวเรือนละ 5,000 บาท ผ่านธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ตามเกณฑ์สำหรับประชาชนที่มีบ้านเรือนน้ำท่วมฉับพลัน และโดนน้ำท่วมเกิน 7 วัน
ตัวเลขคร่าวๆ 590,000 ครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 2,900 ล้านบาท
ตามจังหวะที่รัฐบาลออกตัวช้ากว่าทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่ชิงเสนอก่อนหน้าแล้ว 4-5 วัน ให้รัฐบาลจ่ายเงินสดหรือเช็กเงินสด 5,000 บาท
เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเร่งด้วยเฉพาะหน้า ตามความจำเป็นจริงๆของคนที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเข้ารับรักษาตัว เงินลงทุนค้าขาย เงินจ่ายให้ลูกหลานไปโรงเรียนในช่วงเปิดเทอม
คิดเร็วทำไวกว่า โดยยี่ห้อของ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ส่งโปรแกรมผ่านทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ชิงตัดหน้ารัฐบาลว่าด้วยแนวทางบรรเทาวิกฤติน้ำท่วมเฉพาะหน้า
แสดงความเป็นเจ้าตำรับโคตรประชานิยมตัวจริง
ตรงกันข้ามกับยี่ห้อ "อภิสิทธิ์" ที่สอบผ่านแค่หลักสูตรการตลาด ในฉากถลกขากางเกงลุยน้ำ สร้างภาพชิงกระแสฉาบฉวยพอได้
แต่ในเชิงบริหารยังต้องซ่อมอีกเยอะ.
ทีมข่าวการเมือง
未经允许不得转载：综合资讯 » เฉียดใกล้ความจริงเข้าไปอีกนิด