"ผมเป็นเจ้า ผมจะไปเล่นการเมืองได้อย่างไร"
ตามถ้อยแถลงจากปากของ "ท่านใหม่" พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ออกมาปฏิเสธข่าวการเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด
เพราะการพบกับ "บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และ "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่ม ส.ส.กทม. แค่คุยกันเรื่องสปอนเซอร์สนับสนุนทีมฟุตบอลสโมสรราชวิถี และมูลนิธิไทยพึ่งไทย
ขณะที่ต้นตอตามท้องเรื่องอย่าง "บิ๊กจิ๋ว" ก็ออกมาขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่วน "เจ๊หน่อย" ก็รีบบอกปัด ไม่กล้าดึงฟ้าต่ำ
เป็นอันว่า "จบข่าว"
ตามสถานะ "ต้องห้าม" พรรคเพื่อไทย พะยี่ห้อ "ทักษิณ ชินวัตร" ยังคงเป็น "ของแสลง" สำหรับบุคลากรภายนอกที่จะเข้าร่วมงานทางการเมืองต่อไป
แนวโน้มหนีไม่พ้นต้อง "รีไซเคิล" ของเก่าที่มีอยู่ในพรรค แก้ขัดไปพลางๆ
เพราะถึงอย่างไรก็ต้องขายยี่ห้อ "ทักษิณ ชินวัตร" ครองส่วนแบ่งตลาดภาคอีสาน ภาคเหนือ เชื่อขนมกินในโซนเสื้อแดง
ไม่ต้องเสแสร้ง อำพรางข้อเท็จจริงให้ดูพิลึกพิลั่น
ที่สำคัญในสถานการณ์ที่คู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้แสดงว่าจะใช้จังหวะที่ได้เปรียบในเรื่องความพร้อมของบุคลากรออกตัวทำแต้มนำ โดยเฉพาะกับอาการที่สะท้อนออกมาจากปรากฏการณ์โหมกระแส
"ปักเสาไฟฟ้า" สนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.
ตามคิวที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีการคัดเลือกผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 2 ของพรรคประชาธิปัตย์ ในเบื้องต้นคณะกรรมการได้รายชื่อผู้ที่จะส่งลงสมัครรับแล้วประมาณ 10 รายชื่อ ที่เสนอตัวชิงดำ
ทำเสมือนหนึ่งว่า ตีปี๊บแสดงความเป็นเจ้าสนามเมืองหลวง
ตีกินกระแสกรุงเทพฯ แล้วเหมาภาพรวมคะแนนนิยมทั้งประเทศไทย
แต่อีกด้านหนึ่ง คนประชาธิปัตย์ก็ทำเป็นแกล้งลืม พยายามไม่พูดถึงการส่งผู้สมัครลงชิงชัยในพื้นที่อีสาน จุดบอดตลอดกาล
กลบ "ปมด้อย" กันเนียนๆ
อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ จุดบอดในภาคอีสานของยี่ห้อประชาธิปัตย์ กลบยังไงก็ไม่มิด นายกฯอภิสิทธิ์เองก็รู้อยู่แก่ใจ
ที่แน่ๆโดยไฟต์บังคับ ที่สุดเลยพรรคประชาธิปัตย์ก็จำเป็นต้องยืมจมูกพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเจาะช่องพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อโอกาสในการหวนกลับมาเป็นแกน
นำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งรอบหน้า
ตามเกมที่มวยรู้ทางกัน ดักจังหวะอ่านขาด
กับอาการ "แข็งขืน" ของพรรคชาติไทยพัฒนา มีมติให้นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่บังคับให้ลาออกจากเก้าอี้รัฐมนตรี
สวนทางกับประกาศิตของนายกฯอภิสิทธิ์
และโดยเกมก็โยงไปถึงคิวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ของพรรคภูมิใจไทย ที่ผูกเสี่ยวแท็กทีมกันอยู่
"บรรหาร ศิลปอาชา" แตะมือเล่นแต้มกับ "เนวิน ชิดชอบ"
ตามจังหวะกั๊กเกมวัดใจ อย่างน้อยเลยก็ "ย้อนเกล็ด" ต่อรองกับลีลาเขี้ยวๆที่พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยพวกขาเฮี้ยว เล่นคนละบทกับนายกฯอภิสิทธิ์ ออกมาขวางลำคิวแก้รัฐธรรมนูญกลับไปเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
ประชาธิปัตย์เล่นมุก "ตีสองหน้า" เกมแก้รัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาลก็ยื้อด้วยการเปิดแต้มท้าทาย "อภิสิทธิ์" แกล้งยักท่าเข้าใส่ในคิวเลือกตั้งซ่อม
ในจังหวะที่อ่านทางแล้วว่า "ไม่มีน้ำยา" ยังไง พรรคประชาธิปัตย์ก็จำเป็นต้องพึ่งจมูกพรรคร่วมรัฐบาลในการเจาะพื้นที่อีสาน
ตามอาการที่ต้องเรียกหา "แม่นม" มาอุ้มสม
รีบดึง "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมานั่งแท่นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รับหน้าที่ผู้จัดการใหญ่ วิ่งเคลียร์กับพรรคร่วมรัฐบาล หลังบทเข้มๆของนายกฯอภิสิทธิ์ที่โดนน้ำพัด "ภาวะผู้นำ" หายไปกับอุทกภัยใหญ่
เสียงไม่ดัง วาจาไม่ขลังซะแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
未经允许不得转载:综合资讯 » ไฟต์บังคับกับจุดบอด