"แหกคิว" ประจานกันเลย
กับภาพข่าวพนักงานโรงแรมหรูในซอยสุขุมวิท 31 ตรงข้ามบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถือป้ายประท้วงขอความช่วยเหลือเพราะกำลังเดือดร้อน หลังจากไม่มีแขกมาพัก เนื่องจากแหยงหน่วย รปภ.ชุดดำที่วางกำลังอารักขาอยู่หน้าบ้านนายกฯ
ในอารมณ์ "หักมุม" กับจังหวะก่อนหน้านี้ ที่มีการโหมกระแสข่าวลอบสังหารวีไอพี หลุดออกมาจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เล่นเอาหูตาตื่นไปตามๆกัน
จนบิ๊กสภาความมั่นคงต้องออกมาตีปากกันเอง
ตามปรากฏการณ์ก็เลยจับต้นชนปลายไม่ถูก ข่าวกรอง ข่าวไม่ได้กรอง ฉากจริง ฉากปลอมที่มีการ "เทกแอ็กชั่น" เพิ่มมาตรการคุ้มกันผู้นำ
ที่แน่ๆ ถ้าเอกชนไม่เดือดร้อนหนักจริงๆ คงไม่กล้ายืนถือป้ายประท้วง โวยวาย
เสี่ยงวัดดวงกับการเจอ "ของแข็ง" โทษฐานประจานนายกฯ
แต่ที่ "ประจาน" กันจนเหนื่อยก็ไม่เป็นผล ล่าสุดก็ยังเกิดปรากฏการณ์ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร "ล่ม" เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์เดียว
ไล่หลังจากคิวที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.ในฐานะตัวแทนวิปรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งออกมาตีปี๊บประจานชื่อ ส.ส.โดดประชุมสภา ทำให้การประชุมร่วมกันของรัฐสภาล่ม ในลีลาโบ้ยให้พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านเป็นต้นเหตุใหญ่
เอาดีใส่ตัว โยนชั่วให้คนอื่นตามมุกถนัด
แต่มารอบนี้ เมื่อสำรวจตัวเลขกันจะจะหลังสภาล่มซ้ำ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะ แกนนำรัฐบาล มี ส.ส.ทั้งหมด 171 คน มาประชุมสภาแค่ 90 คน หายหัวไปครึ่งต่อครึ่ง
"ตบหน้ากันเอง" หน้าม้านไปเลยก็แล้วกัน
แต่มันไม่สำคัญเท่ากับสัญญาณเตือน โดยสภาพเสียงปริ่มน้ำ นับหัว ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลเพียวๆ ประกอบด้วยพรรคประชาธิปัตย์ 171 เสียง พรรคภูมิใจไทย 31 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 24 คน พรรครวมชาติพัฒนา 9 คน พรรคกิจสังคม 5 คน พรรคมาตุภูมิ 3 คน
การันตีได้ที่ 243 เสียง
ไม่ได้นับรวมเสียงเพี้ยนๆในส่วนของพรรคเพื่อแผ่นดินกลุ่มบ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ และตัวเลขที่มั่วๆในส่วนที่นายไชยยศ จิรเมธากร นำไปประกันเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ
เพราะทั้งสองส่วนนี้ไม่ชัวร์ ตัวเลขไม่นิ่ง
แต่ที่แน่ๆต้องตัดเสียงของพรรคเพื่อแผ่นดินในปีกของกลุ่ม 3 พี "พินิจ จารุสมบัติ-ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ" ที่กลับมาดีลกับกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผนึกกำลังกันใหม่
ตามคิวที่ "พี" ไพโรจน์ ประกาศชัดถ้อยชัดคำ พรรคเพื่อแผ่นดินเป็นฝ่ายค้าน ตั้งป้อมลุยแย่งเก้าอี้ ส.ส.โคราชกับค่ายภูมิใจไทย ในฐานะฝ่ายรัฐบาล
"3 พี" เพื่อแผ่นดิน หมดคิวเล่นบท "ไม้กันหมา"
ไม่ประกันเสียงประคองพรรคร่วมรัฐบาลให้นายกฯอภิสิทธิ์อีกต่อไป
ในจังหวะที่มวยกำลัง "เมาหมัด" หลังวิกฤติอุทกภัยใหญ่ กระแสน้ำพัดต้นทุนหน้าตักภาวะผู้นำ "อภิสิทธิ์" หายไปกับสายน้ำ ถึงขั้นต้องสารภาพออกอากาศ รับผิดแต่เพียงผู้เดียว
จนแต้มกับฝีมือการบริหารจัดการที่ล่าช้า
"บ้อท่า" แล้วยังต้องเผชิญกับภาวะ "น้ำลดตอโผล่" มีเรื่องโดนแฉรายการงาบหัวคิวของบริจาคน้ำท่วม นักการเมืองกั๊กของบริจาคสวมสิทธิเป็นเจ้าของแอบอ้างหาเสียง
ฉวยสถานการณ์สร้างวีรบุรุษไม่ได้ จากโอกาสก็พลิกกลับเป็นวิกฤติ
ตามอาการ "ฝ่อ" ลงไปถนัดใจ
นายกฯอภิสิทธิ์ออกตัวเสียงอ่อยๆ จ่อปรับ ครม.แค่ในส่วนของ"เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมานั่งเก้าอี้รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง แค่เก้าอี้เดียว
โดยไม่ข้องแวะโควตาพรรคร่วมรัฐบาล
แม้พรรคภูมิใจไทยจะมีปัญหาลักลั่นในคิวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่จะต้องลาออกจาก
รัฐมนตรีไปลงสมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครราชสีมา กรณีเดียวกับนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม
พรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะต้องทิ้งเก้าอี้รัฐมนตรี ไปลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.อยุธยา
"อภิสิทธิ์" ก็ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปก้าวก่าย ปล่อยให้เล่นไปตามจังหวะ
โดยอาการเหมือนสะดุ้งเสียงตะคอกของมวยรุ่นใหญ่จากพรรคร่วมรัฐบาล ที่สอนมวยคนประชาธิปัตย์ให้มี
มารยาท อย่าเจ้ากี้เจ้าการข้ามพรรค
"อภิสิทธิ์" สำลักน้ำ ฟอร์มเข้มๆหายไปหมดเลย.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
未经允许不得转载：综合资讯 » บทเข้มหายไปกับน้ำ?