พ่อคูณหายแล้ว กลับวัด22พย. ให้กราบห่าง1ม.
หลวงพ่อคูณ หายแล้ว เดินออกกำลังได้สองรอบ ฟิตร่างกายพร้อมเตรียมกลับวัดบ้านไร่วันจันทร์ที่ 22 พ.ย.นี้ แพทย์สั่งห้ามนิมนต์ไปไกล เตือน ลูกศิษย์ต้องกราบห่างอย่างน้อย 1 เมตร…
ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ทางระบบทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้กรวยไตอักเสบ ทำให้มีอาการสับสนจำอะไรไม่ได้ และได้พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้(18 พ.ย.)ที่ห้อง 9821 หอพักผู้ป่วยพิเศษ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 รพ.มหาราชนครราชสีมา พระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธเป็นวันที่ 7 ได้ตื่นจากจำวัดพร้อมกับให้ลูกศิษย์เช็ดตัว เช็ดหน้า เสร็จก็บ่นพึมพำกับลูกศิษย์ว่า อยากกลับวัดบ้านไร่ กูหายแล้ว กลับวัดบ้านไร่ได้แล้ว พร้อมลุกเดินในออกเดินออกกำลังในเวลา 07.00 น. เพื่อให้แพทย์ พยาบาล รวมทั้งญาติโยมได้เห็นว่า หลวงพ่อคูณฯหายดีแล้ว
โดยหลวงพ่อคูณ สามารถเดินได้ไกลกว่าทุกวันเล็กน้อย โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเข้าห้องพักนั่งให้ลูกศิษย์นวดขา และฉันยา จากนั้นได้ฉันภัตตาหารเช้าโดยสามารถฉันข้าวได้ครึ่งจาน อาหารที่โปรมปรานประกอบด้วย น้ำพริกปลาป่น ผักต้ม , ปลานิลทะเลทอด , แกงจืดเตาหู้ผักกราดขาว , แกงเลียง และผลไม้มะละกอ , ขนมครก , ลูกพลับ
ต่อมาเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ภายหลังจากฉันภัตตาหารเสร็จก็ได้ลุกเดินออกกำลังรอบที่ 2 ระยะทางเดินไปประมาณ 20 เมตร ให้นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณฯได้ยืนดูสังเกตอาการ โดยหลวงพ่อคูณฯสามารถเดินเองได้ช้าๆ เป็นปรกติ แต่มีการเดินเซบ้างเล็กน้อย โดยมีญาติโยม ผู้ป่วยห้องข้างเคียงได้ออกมานั่งยกมือไหว้และถวายปัจจัย ถวายสิ่งของให้หลวงพ่อคูณฯ พร้อมกับบอกว่า เอ่อ หายดีเด้อ จากนั้นได้เข้าห้องเพื่อให้นายแพทย์พินิศจัยฯ และคณะแพทย์ตรวจอาการ
โดย นายแพทย์พินิศจัย กล่าวภายหลังตรวจอาการว่า วันนี้อาการโดยรวมก็ดี ไม่มีไข้ ฉันได้เกือบปรกติแล้ว วันนี้หลวงพ่อออกมาเดินออกกำลังสองรอบ ตื่นตอนเช้าเดิน 1 รอบ และหลังฉันอีก1 รอบ ซึ่งการรักษาเราเดินมาถูกทางแล้ว ซึ่งจากผลตรวจที่รวบรวมเมื่อวานทั้งของจุฬาฯด้วยและเอ็กซ์เรย์ถือว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปรกติ และทางคณะแพทย์ได้วางแผนไว้ว่า ถ้าไม่มีปัญหาอะไรในวันพรุ่งนี้(19 พ.ย.)จะเปลี่ยนยาปฏิชีวนะจากยาในรูปฉีดเป็นยาในรูปรับประทาน และต้องฝ้าสังเกตอาการหลวงพ่อไปอย่างน้อยอีก 48 ชั่วโมงหรือ 2 วันเต็ม
ส่วนการพิจารณาการกลับวัดบ้านไร่จริงๆแล้วทางเราอยากให้หลวงพ่อพักอยู่ใกล้แพทย์ให้นานที่สุด แต่ว่าอย่างที่ตนเคยเรียนว่า ถ้าหลวงพ่อรู้สึกตัวเองว่าดีเมื่อไหร่ ท่านจะขอร้องกลับวัดบ้านไร่ ซึ่งเรารู้สึกว่าได้ยินเสียงแว่วๆมาแล้ว อย่างไรก็ตามอาการโดยรวม ถือว่าเบาใจขึ้นได้มาก แต่ยังไงก็ยังต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เช่น เวลาเปลี่ยนจากยาฉีดเป็นยาในรูปรับประทานว่า จะไม่ไข้ขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะประสิทธิภาพยาฉีดยังไงก็เหนือกว่ารับประทาน
ส่วนจะสามารถกลับวัดบ้านไร่ ได้อย่างช้าเมื่อใด นั้น นพ.พินิศจัยฯ กล่าวว่า คงต้องขอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะว่าที่คณะแพทย์ วางแผนไว้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างเร็วที่สุดคงเป็นวันจันทร์ที่ 22 พ.ย.53 ที่หลวงพ่อจะกลับวัดบ้านไร่ได้ และถ้ากลับไปวัดแล้วหลังจากที่ท่านมานอนโรงพยาบาลด้วยอาการติดเชื้อค่อนข้างรุนแรงภูมิต้านทานของหลวงพ่อลดลงไปมากมาย หมายถึงว่า ท่านมีแนวโน้มที่จะรับเชื้อใหม่ค่อนข้างสูง ฉะนั้นก็คงต้องรบกวนทางศิษยานุศิษย์ในการที่จะดูแลหลวงพ่อ โดยเฉพาะ 2 สัปดาห์นับจากนี้ไปหลวงพ่อคูณฯไม่ควรรับกิจนิมนต์ไปไกลๆ และถ้ามีใครเข้ามากราบท่านก็ควรจะห่างท่านอย่างน้อย 1 เมตร ใครที่รู้ว่าตัวเองไม่สบายก็ไม่ควรไปกราบท่าน นพ.พนิศจัยฯกล่าว.
未经允许不得转载:综合资讯 » วันพฤหัสบดีที่ 18