อภิสิทธิ์
ลัดคิว "จัดหนัก" ให้ก่อนเลย
ตามปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์ที่ "น้องใหม่" ของวงการ ภายใต้ยี่ห้อสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยการมีส่วนร่วมของนิสิต ทั้งภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และภาควิชาอื่น โปรยแถลงการณ์ตั้งฉายาสถาบันทางการเมือง
ภูมิใจนำเสนอฉายารัฐบาล "เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว"
ฉายภาพกระทบกระเทียบเปรียบเปรยถึงความเส้นใหญ่ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯเส้นใหญ่ เพราะมีทั้งผู้มีอำนาจวาสนา กระบอกปืนและรถถัง รวมถึงบารมีทั้งในและนอกรัฐธรรมนูญคอยหนุนอยู่เบื้องหลัง
เมื่อนำมาผัดซีอิ๊วที่วัตถุดิบแต่ละอย่างมีสีสันแตกต่างกันออกไป แต่ทันทีที่นำมาผัดเข้าด้วยกัน สีดำของซีอิ๊วก็จะเปรอะเปื้อนไปหมด เสมือนข่าวคาวความฉ้อฉลของรัฐบาลชุดนี้
แม้นายกฯอภิสิทธิ์ พยายามแสดงตนว่าซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชัน แต่การอยู่ร่วมรัฐบาลเดียวกัน นอกจากไม่ห้ามปราม กลับปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างมโหฬาร
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกเหมารวมเปื้อนดำไปด้วย
และสังเกตให้ดี เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วไม่ใช่มีแค่เส้นใหญ่สีขาวกับซีอิ๊วสีดำ แต่ยังประกอบ ด้วยผักคะน้า "สีเขียว" และไข่ไก่ "สีเหลือง" เปรียบเหมือนรัฐบาลที่มีแบ็กอัพคือกองทัพและกลุ่มพันธมิตรฯคอยสนับสนุน แต่เมื่อผัดออกมาแล้วก็เป็นสีดำด้วยกันหมด
"เอื้อก" ฟังแล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คงต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่ใช่ เพราะหิวหรือนึกอยากกิน
แต่เกิดจากอาการฝืดคออย่างแรง
นั่นก็เพราะ "เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว" เสิร์ฟมาในห้วงที่บรรดากองเชียร์กำลังอวยชัยให้ "อภิสิทธิ์" เป็นดุจ "พยัคฆ์ติดปีก" ภายหลังโชว์ความหนังเหนียวรอดบ่วงคดียุบพรรค โบยบินติดลมบน นาทีนี้อะไรก็ฉุดรั้งไม่อยู่
กระแสกำลังไหล ก็มาโดนขัดคอซะอย่างนั้น
ที่สำคัญ เถียงไม่ออกซะด้วย
ทั้งหมดทั้งปวง ต้องยกนิ้วให้ "ความใจถึง" ของสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ในฐานะหน่วยงานทางวิชาการ ตัวแทนสถาบันการศึกษาแรกๆที่กล้าทวนกระแส ไม่แคร์พ่อยกแม่ยกของ "อภิสิทธิ์"
แหกวงล้อมออกจากมโนภาพที่ฝ่ายคุมเกมอำนาจ "พราง" ไว้
เพราะในคิวเดียวกัน นอกจากฉายารัฐบาล "เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว" ยังมีคิวของรัฐสภาที่ถูกตั้งฉายา "สภามวยโลก" ตุลาการ "ไม้บรรทัดคู่สู้สิบทิศ" พรรคภูมิใจไทย "ห้อยเนรวิน" พรรคเพื่อไทย "พรรคเพื่อใคร" พรรคประชาธิปัตย์ "อิเหนาหุ้มเกราะ" องค์กรอิสระ "สากกะเบือดิน" และกองทัพ "ทัพไทยหมื่นล้าน ประสานงานปราบม็อบ"
แสบๆคันๆ เหน็บแนมกันตามเนื้อผ้า อยู่ที่ว่าจะยอมรับความจริงกันได้แค่ไหน
จากรัฐบาลที่ตั้งกันในค่ายทหาร จนมาถึงคิวทำสงครามใหญ่ กับม็อบเสื้อแดง นายกฯอภิสิทธิ์ก็ยังไปซุ่มหลบภัยในกรมทหารราบ ที่ 11 รักษาพระองค์ และก็เป็นไปตามเกมยุทธ์ของฝ่ายเสนาธิการ-ทหารที่เดินหน้า "กระชับพื้นที่" จนมีคนตายเฉียดหลักร้อย
เป็นผู้นำคนอื่นอย่าว่าแต่อยู่บนเก้าอี้นายกฯต่อลำบาก อยู่ประเทศไทยยัง ไม่ได้ แต่ "อภิสิทธิ์" สบายๆ กลายเป็นแกนนำฝ่ายต่อต้านที่โดนขังลืมในคุก
มุกแบบนี้ ต้องสงวนสิทธิ์เฉพาะคน "เส้นใหญ่" เท่านั้น
ขณะที่กระแสทุจริตคอรัปชันก็เบ่งบาน ถึงขั้นที่องค์กรภาคธุรกิจแถลงโชว์ผลโพลประจาน โดนคนของรัฐบาลรีดค่าหัวคิว 25-30 เปอร์เซ็นต์ โกงกัน ไม่เว้นแม้แต่งบฯซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ "กฎเหล็ก" ของนายกฯอภิสิทธิ์ ก็แค่น้ำลาย
รายการโกงยังดำเนินต่อไป นัยว่าจ่ายเป็น "ค่าจ้าง" ในการอุ้มขึ้นเป็นนายกฯ
และก็หนังเหนียวซ้ำซากจนผิดธรรมชาติมนุษย์พันธุ์นักเลือกตั้งด้วยกัน กับปรากฏการณ์คดียุบพรรค ค่ายอื่นโดนทุบบ้านง่ายๆภายในไม่กี่อึดใจ แต่ถึงคิวของยี่ห้อประชาธิปัตย์ ได้เวลาลากยาวเกือบครบปี สืบพยานหลายสิบปาก ยื้อกันแล้วยื้อกันอีก
แต่สุดท้ายก็หลุด เพราะมุก "คดีหมดอายุความ" ชนะฟาวล์ กันดื้อๆ
มันจึงเป็นอะไรที่ฟ้องด้วยภาพ โดยองค์ประกอบหลายๆอย่างที่ปรุงจนได้รัฐบาล "อภิสิทธิ์ชน" หนุนให้ลากเกมอำนาจมาถึงวันนี้ วันที่ "เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว" คลุกเคล้าส่วนผสมจนดำสนิทได้ที่
ดำปี๋ซะจนคนจะกินไม่ลงแล้วด้วยซ้ำ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
未经允许不得转载:综合资讯 » เบื่อ ‘เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว’