ซักฟอก’กษิต’เปลี่ยนสนามค้าเป็นสนามรบ

อภิปรายไม่ไว้วางใจกลางดึก ส.ส. ฝ่ายค้านฉะ กษิต ชอบทะเลาะเพื่อนบ้าน เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ เจ้าตัวยันไม่เคยก้าวร้าว แต่อาจวิพากษ์วิจารณ์ประเทศที่ดูหมิ่นไทย ขณะวิปรัฐบาลเผย เตรียมอภิปราย ‘กรณ์’ ต่อ…

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น.วันที่ 15 มี.ค. นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า พฤติกรรม รมว. ต่างประเทศ ส่อไปทางทะเลาะกับเพื่อนบ้านตลอดเวลา รวมถึงความสัมพันธ์กับไทยกัมพูชา วันนี้ปราสาทเขาพระวิหารเกิดปัญหามาโดยตลอด มีการนำเรื่องการเมืองไปเกี่ยวข้อง รัฐมนตรีคนนี้มีลักษณะก้าวร้าวและรุนแรงไม่เหมาะสมต่อตำแหน่ง ถึงแม้เป็นข้าราชการใหญ่ในกระทรวงมาก่อน แต่แนวปฏิบัติเป็นที่ยอมรับไม่ได้ 
 
ต่อมา นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เหตุผลในการไม่ไว้วางใจนายนายกษิต ว่า 1. บกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากแก้ปัญหาไม่ได้ยังสร้างปัญหา 2. นายกษิต ขาดคุณสมบัติความเป็นผู้นำ ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดคุณสมบัติการเป็นนักการทูต และยังมีคดีติดตัว 3. สร้างศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้าน เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ
จากนั้นนายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคประชาราช อภิปรายว่า รมว.ต่างประเทศเป็นหน้าตาของประเทศไทยนั้นควรปฏิบัติตัวให้เหมาะสม แต่นายกษิตไปพูดในที่ต่างๆ นั้นไม่เคยระวังคำพูดในฐานะ รมว.ต่างประเทศเลย มีการโจมตีดูหมิ่นดูแคลนประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศมหาอำนาจ ต่อมา นางวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นายกษิตมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาล้มเหลว และยังกล่าวหาประเทศมหาอำนาจว่าสนับสนุนกัมพูชาโดยไม่มีหลักฐาน
ทั้งนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้ลุกขึ้นชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ท่ามกลางการประท้วงว่าอย่าอ่านเอกสาร และตอบให้ตรงคำถาม ว่าทำไมปากไม่ดี แต่นายกษิตยังคงอ่านเอกสารชี้แจงว่า การอภิปรายงานต่างประเทศนั้นมี 5 ประเด็นคือ ดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด ตนขอปฏิเสธ เพราะรัฐบาลมีผลงานแม้เผชิญความไม่สงบทางการเมืองก็ตาม หากเป็นเช่นนั้นคงไม่ได้รับเชิญไปร่วมเวทีระดับโลกหลายเวที นอกจากนี้ ผู้นำประเทศต่างๆ 30 ประเทศก็ได้มาเยือนไทย และตนเยือนประเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนมิติความสัมพันธ์ ขณะที่รัฐบาลและตนไม่เคยมีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในของต่างประเทศ ส่วนข้อหาทำมิตรให้เป็นศัตรูนั้น ขอเรียนว่ารัฐบาลนี้แก้ไขปัญหาที่ตกทอดมาแต่อดีต
นายกษิต กล่าวอีกว่า ปัญหาเรื่อง ไทย-กัมพูชานั้น ที่ผ่านมาตนเดินทางไปร่วมประชุมและทำงานร่วมกัมพูชาหลายครั้ง ส่วนความไม่เข้าใจและไม่ไว้ใจของมิตรประเทศ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ แต่รัฐบาลยึดมั่นการเจรจาตรงไปตรงมา ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ประเทศต่างๆขอให้ไทย-กัมพูชาเจรจากันสองฝ่ายในเรื่องความขัดแย้ง ส่วนที่กล่าวหาว่าตนมีนโยบายต่างประเทศที่ก้าวร้าวนั้น ขอปฏิเสธว่าตนไม่เคยใช้ และหากใช้คงไม่ได้ไปประชุมระดับนานาชาติหลายร้อยครั้ง แต่อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์บางประเทศที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีประเทศไทย เช่นก็เกิดความเจ็บปวดของคนไทยในช่วงต้นเดือนก.พ. ตนจะนิ่งเฉยก็กระไรอยู่จึงพูดว่าประเทศอื่นๆ ไม่ควรทำลายประเทศไทย ส่วนข้อหาว่ากล่าวหาต่อประเทศมหาอำนาจนั้น ตนเพิ่งได้รับเชิญจากอินเดียให้ไปบรรยายและเยือนด้วย รวมทั้งไปเยือนจีน และไปประชุมที่รัสเซีย คำพูดของตนที่มีการนำออกไปบางประโยคนั้น ตนไม่มีเจตนาแต่จะเสริมสร้างความเข้าใจกับ ส.ว.เท่านั้น และตนขอโทษไปแล้วว่าสื่ออาจลงข่าวผิด
จากนั้นเวลาประมาณ 02.11 น.นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้สั่งพักการประชุม และนัดประชุมต่อวันที่ 16 มี.ค.เวลา 09.00น. ทั้งนี้วิปรัฐบาลแจ้งว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เป็นคนต่อไป

未经允许不得转载：综合资讯 » ซักฟอก’กษิต’เปลี่ยนสนามค้าเป็นสนามรบ