นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ เรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่กาญจนบุรี ย้ำผู้ประกอบการร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมการลงทุน เล็งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เอาใจประชาชน…
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมจัดทำยุทธศาสตร์และกลุ่มจังหวัด 5 ภาค ครั้งที่ 1 /2554 ที่ห้องประชุมไพลิน โรงแรมเฟลิกซ์ริเวอร์แคว จ.กาญจนบุรี โดยมีคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมด้วย โดยนายกฯ ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างภาครัฐและเอกชน ว่า การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในอนาคต ต้องใช้ความร่วมมือระหว่างภาคราชการและภาคเอกชน ในการพัฒนาแผนงานและยุทธศาสตร์ ที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามการพัฒนาในสังคมโลก ซึ่งขณะนี้ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการเชื่อมโยงกับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดวิกฤตการเงินในทุกภูมิภาค ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และรวมถึงมีภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง ก็สร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน โดยทำให้เกิดความผันผวนในการลงทุน ส่วนในประเทศไทย ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบและภัยพิบัติ ก็ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของไทยเช่นกัน
"บางสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด อย่างเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงสุด ที่ส่งผลต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่กำลังเกิดปัญหาต่อโลกในตอนนี้ ซึ่งในการประชุมครม.เศรษฐกิจ คงต้องขอความร่วมให้ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ช่วยระดมสมองประเมินเกี่ยวกับผลกระทบจากภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำข้อมูลมาร่วมสังเคราะห์ และพิจารณาเพื่อนำไปสู่นโยบายด้านเศรษฐกิจต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยต้องเตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ที่จะบังคับใช้ในปี 2558 จะเป็นการเชื่อมโยงทั้งทางกายภาพและกฎระเบียบต่างๆ สู่การค้าเสรีอย่างแท้จริง เรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน ที่จะเปลี่ยนแปลงทางการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น การเชื่อมโยงที่จะต้องพัฒนาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการลงทุน ในด้านระบบขนส่งทางราง รถไฟราง รถไฟความเร็วสูง ที่จะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ส่วนของการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่ต้องแก้ไข เพราะการพัฒนาอุตสาหกรรมนั้น บางครั้งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสังคมมองว่าเป็นการสร้างปัญหา อย่างที่มาบตาพุด ทั้งที่มีการวางแผนผังเมืองอย่างรอบคอบ แต่หากการปฏิบัติ ทุกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ ก็จะเกิดปัญหาการสร้างผลกระทบต่อฝ่ายที่ขัดแย้งกัน และต้องให้ทางท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ เพราะเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดปัญหามากที่สุด ส่วนการพัฒนาต้องพอดีสมดุล ไม่ก่อปัญหากระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ตอนนี้ประกาศเป็นนโยบายในการหาเสียงแล้ว 25% ในส่วนของนโยบายที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา โดยจะผลักดันนโยบายลดภาษีรายได้ นิติบุคคลที่จะช่วยให้ผู้ประกอบสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสมดุลต่อไป ทุกอย่างต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดความสมดุลกับอัตราเฉลี่ยในการครองชีพใน ปัจจุบัน ซึ่งทางผู้ประกอบการต้องปรับตัวเช่นกัน ทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว ก็จะต้องจัดระเบียบแก้ไขให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง คงต้องคุยกับฝ่ายความมั่นคงให้เข้าใจสภาพปัญหาและตั้งระเบียบปฏิบัติที่สามารถทำได้อย่างแท้จริง
未经允许不得转载：综合资讯 » มาร์คดึงผู้ประกอบการร่วมมือ เล็งขึ้นค่าแรงเอาใจรากหญ้า