ที่อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านริมแม่น้ำตาปีและคลองพุมดวง ระทมทุกข์ต่อ ต้องอาศัยเชิงสะพานซุกหัวนอน บางพื้นที่น้ำเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ขณะที่จ.กระบี่ เร่งเทปูนยกเสาเอกสร้างบ้านให้ “น้องบอล-น้องบิล” 2 หนูน้อยเหยื่อดินโคลนถล่มพ่อแม่ตาย กรมอุตุฯเตือนภาคเหนือ-ภาคกลางระวังฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้ทะเลมีคลื่นสูง…
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ส่วนใหญ่ระดับน้ำเริ่มลดลงสู่ภาวะปกติ คงเหลืออีกเพียงไม่กี่พื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังล่าช้า และไม่ทันต่อความต้องการของผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือน้ำท่วมครอบครัวละ 5,000 บาท ที่รัฐบาลบอกให้รอไปหลังสงกรานต์ถึงจะแจกจ่ายได้ สวนทางกับกระแสทุจริตคอรัปชันเงินช่วยเหลือที่มีข่าวฉาวดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนในพื้นที่ริมแม่น้ำตาปีและคลองพุมดวง เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำลงทะเลที่ปากอ่าวบ้านดอนได้ช้า ผู้ประสบภัยเกือบ 20 ครอบครัวต้องอาศัยอยู่ในเพิงพักชั่วคราวที่เชิงสะพานจุลจอมเกล้า 2 ต่อไป ซึ่งกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องดันน้ำไฟฟ้า 5 เครื่อง เร่งดันน้ำออกทะเลที่ ต.บางใบไม้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่บางพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง น้ำเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น
นางหงส์ พรหมพันธ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/6 ชุมชนบ้านล่าง เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน กล่าวว่า ชุมชนที่อยู่แนวใต้สะพานข้างล่างถูกน้ำท่วมหมด อพยพขึ้นมาอยู่เชิงสะพานร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ชีวิตลำบากมาก เครื่องใช้ในครัวเรือนถูกกระแสน้ำพัดหายไปเกือบหมด เหลือโทรทัศน์เพียงเครื่องเดียวที่ต้องซื้อคืนจากคนที่ว่ายน้ำ ไปเก็บมาในราคา 400 บาท
ด้านนางนิภา แก้วนิคม อายุ 66 ปี ชาวชุมชนบ้านล่าง เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม กล่าวว่า ย้ายมาอยู่ข้างสะพานกับหลาน 2 คน และบุตรสาวอีก 1 คน ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชัก ซึ่งวันสงกรานต์ทุกปีจะมีลูกหลานมารดน้ำดำหัวขอพร แต่ปีนี้คงไม่มีโอกาสอยู่พร้อมหน้าครอบครัว จึงได้แต่ภาวนาให้น้ำลดลงเร็วๆจะได้กลับไปอยู่บ้านตามเดิม
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เดินทางด้วยรถยนต์ไปตรวจดูการซ่อมถนนที่ถูกน้ำป่าพัดขาดที่ หมู่บ้านปากฮาย หมู่ 10 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมไปยังบ้านปากลง ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยพบอุปสรรคต่อการซ่อมแซมเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำพัดเปิดคลองกินบริเวณกว้างกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทั้งนี้ ทหารช่างได้นำท่อคอนกรีตสี่เหลี่ยมมาวางพาดต่อให้ชาวบ้าน สามารถสัญจรไปมาได้ก่อน โดยในวันที่ 14 เม.ย.นี้ จะเสริมเส้นทางเพื่อเปิดให้รถยนต์ผ่านได้และใช้รถแบ็กโฮขุดเสริม คันดินยกผิวถนนให้สูงขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวอีกว่า การสร้างบ้านพักใน จ.สุราษฎร์ธานี 300 หลัง จ.นครศรีธรรมราช 200 หลัง และจ.กระบี่ 145 หลัง จะใช้เงินบริจาคของรัฐบาลและกองทัพบก ทหารช่างจะเข้ามาก่อสร้างให้ โดย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งใจจะให้เพื่อนฝูงและผู้ใจบุญจัดงานระดมทุนซื้อวัสดุ ก่อสร้าง ตกหลังละ 240,000 บาท ใช้อาสาสมัครร่วมก่อสร้างด้วยน้ำใจ เชื่อว่าใน 90 วัน คนสุราษฎร์จะมีบ้านอยู่
ด้านนายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช เผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียง 3 อำเภอ คือ เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง และเชียรใหญ่ รวมถึง ต.ท่าไร่ ต.บางจาก ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ยังมีน้ำท่วมขังสูงราว 1 เมตร คาดว่าจะยังท่วมขังอีกนานเพราะน้ำทะเลยังหนุนสูง อำเภอที่เสียหายมากสุดคือ อ.นบพิตำ และอ.สิชล โดยอ.นบพิตำ เสียหาย 4 ตำบล 38 หมู่บ้าน 4,700 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 24,500 คน เสียชีวิต 2 คน บ้านพังทั้งหลัง 32 หลัง เสียหายบางส่วน 130 หลัง ถนนเสียหาย 256 สาย มูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท
ในส่วนของอ.สิชล ได้รับความเสียหาย 9 ตำบล 110 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 2 หมื่นครอบครัว 6 หมื่นคน มีผู้เสียชีวิต 5 คน บ้านพังทั้งหลัง 120 หลัง เสียหายบางส่วนจำนวนหนึ่ง ถนนเสียหาย 440 สาย พื้นที่เกษตรกว่า 1 แสน 7 หมื่นไร่ มูลค่าความเสียหาย 320 ล้านบาท การให้ความช่วยเหลือ หน่วยกำลังทั้งในและนอกพื้นที่ ร่วมกันเร่งดำเนินการบูรณะซ่อมแซม ถนน สะพานต่างๆ ให้สามารถเชื่องโยงเส้นทางการสัญจรได้เกือบครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว ส่วนการมอบเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพได้ดำเนินการจ่ายไปแล้วส่วนหนึ่ง และให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เร่งรัดจ่ายเงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 26 ราย ส่วนการมอบสิ่งของช่วยเหลือนั้นได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคไปแล้ว 5 แสน 9 หมื่นชุด
ผวจ.นครศรีธรรมราช เผยต่อไปว่า ในเรื่องความเสี่ยงพื้นที่โซนป่าเขา โดยเฉพาะ อ.สิชล และ อ.นบพิตำ ซึ่งมีรอยแยกปรากฏอยู่หลายจุดบนพื้นที่ในเขตภูเขา จ.นครศรีธรรมราช ได้กำหนดจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังประสานกรมทรัพยากรธรรมชาติ กรมทรัพยากรธรณี กรมป่าไม้ นักวิชาการ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันทำแผนรองรับกรณีฉุกเฉิน และกำหนดพื้นที่ปลอดภัยรองรับการอพยพ ทั้งนี้ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า แผนปฏิบัติการฟื้นฟูจะออกมา จะมีแผนรองรับใน 3 ส่วนคือ การเยียวยาสภาพจิตใจ การเร่งฟื้นฟูสภาพแวดล้อม สาธารณูปโภคต่างๆ และเรื่องของอาชีพ ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่ประสบอุทกภัยของ จ.นครศรีธรรมราช รวม 19 คณะ อาทิ คณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาด้านพื้นที่ทางการเกษตร เป็นต้น
ด้านนายเดชา กังสนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้ปิดศูนย์ประสานช่วยเหลือผู้ประสบภัยชั่วคราวที่ ร.ร.นบพิตำวิทยา อ.นบพิตำ ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำเร็จไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมสะพานและถนนสายหลักในเขต ต.กรุงชิง จนสัญจรไปมาได้ตลอดสายแล้ว แม้จะปิดศูนย์ฯแล้ว แต่ยังมีกำลังพลทหารช่าง เจ้าหน้าที่แขวงการทางนครศรีธรรมราช ทางหลวงชนบท และ นพค.43 ปฏิบัติหน้าที่ซ่อมแซมสะพาน และถนนในพื้นที่ ต.กรุงชิง ต.นบพิตำ อยู่ต่อไปจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น โดยจะซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับราษฎรอีกหลายหลังต่อไป
ขณะที่พ.ต.อ.สิงหนาท สีกาแก้ว ผกก.ตชด.42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดุลย์ เง๊าะ ผบ.ร้อย.ตชด.424 ในฐานะ ผอ.ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัย ตชด.424 อ.สิชล ร่วมกับ พ.ต.ท.จอมภพ เสียงเพราะ ผบ.ร้อย ตชด. 435 นำชุดช่างสนาม กก.ตชด.42, 43, 44 จำนวน 1,000 นาย ออกช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายจากอุทกภัย รวมทั้งกุฏิวัดในพื้นที่ ต.เทพราช ต.เสาเภา ต.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โดยซ่อมแซมกุฏิเสร็จ 1 หลัง และร่วมกันทำความสะอาดตัวอาคารปรับพื้นที่รอบบริเวณวัดชนสังขรณพิจิตร หมู่ 4 ต.เปลี่ยน อ.สิชล ซ่อมแซมบ้านของนายชำนาญ พรหมคีรี หมู่ 8 ต.เสาเภา อ.สิชล แล้วเสร็จจำนวน 1 หลัง
ที่บ้านต้นหาร หมู่ 7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผวจ.กระบี่ เป็นประธานเทปูนเสาเอกบ้านถาวร เพื่อเตรียมก่อสร้างบ้านให้ ด.ช.จักรกฤษณ์ หรือน้องบอล ชูศรี อายุ 11 ขวบ และ ด.ช.ดนุเดช หรือน้องบิล ชูศรี อายุ 3 ขวบ 2 พี่น้องที่รอดชีวิตจากเหตุน้ำป่าดินโคลนถล่ม เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กทั้ง 2 คนต้องสูญเสียพ่อแม่และน้องสาว โดยในพิธีได้ประกอบพิธีทางศาสนาวางเสาเอก ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย สำหรับบ้านถาวรที่จะสร้างให้น้องบอลและน้องบิล เป็นบ้านยกพื้น กว้าง 3.5 เมตร ยาว 7.5 เมตร ปลูกอยู่ใกล้กับบ้านของนางระเบียบ ชูศรี ผู้เป็นย่า และเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คน
พล.ต.ธฤทธิ์ สุนทร ผบ.กองพลทหารราบที่ 5 กล่าวว่า การก่อสร้างบ้านพักถาวรหลังแรก ทางคณะกรรมการมีมติร่วมกันว่า ควรจะสร้างบ้านให้กับน้องบอลและน้องบิลเป็นหลังแรก เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความสูญเสียมากที่สุด นอกจากบ้านเสียหายทั้งหลังแล้ว ยังต้องสูญเสียพ่อแม่และน้องสาวคนกลาง ส่วนการก่อสร้างบ้านถาวรให้กับผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในพื้นที่ จ.กระบี่ มีอยู่ 145 หลัง ในพื้นที่ 5 อำเภอ กับ 1 เทศบาล กองทัพภาคที่ 4 จะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างด้วยการระดมทหารช่างกว่า 500 นาย ก่อสร้างบ้านให้ประชาชนที่ประสบภัยได้เข้าอยู่อาศัยได้เร็ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศของประเทศไทยทั่วไปว่า คลื่นกระแสลมตะวันตก ได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ ภาคกลาง บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และภาคตะวันออก บริเวณ จ.สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด รวมถึง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สลับกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอาจมีลมกระโชกแรงร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขณะที่ภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
未经允许不得转载:综合资讯 » น้ำยังไม่ลด ชาวพุนพินยังซุกหัวนอนบนสะพาน