ตำรวจพิษณุโลกตามรวบ 2 สามีภรรยา อ้างนสพ.ไทยรัฐ หลอกลวงหาคนมาทำงาน พร้อมเรียกเก็บเงินค่าสมัคร รวมทั้งปลอมวุฒิการศึกษาด้วย มีเจ้าทุกข์กว่า 10 รายยืนยันเคยถูกหลอกลักษณะเดียวกัน…
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.ชาญวุธ ไชยรุ่งเรือง สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก, ร.ต.อ.บัญชา เอมเปีย รอง สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันจับกุมตัวนายโสภณ หรือนิว เปี่ยมบำรุง อายุ 29 ปี และน.ส.อรุณศิริ อินเอี่ยม อายุ 24 ปี 2 สามีภรรยา ซึ่งทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 8 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีของกลางเป็นเอกสารการทำข่าวของผู้สมัครงานเป็นนักข่าวจำนวนหนึ่ง ก่อนนำตัวทั้งคู่พร้อมของกลางส่งมอบให้กับ ร.ต.อ.มนตรี แดงดี พงส. (สบ 1) สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา นายปัญญา น้อยงาม อายุ 25 ปี พร้อมกับพวกรวม 6 คน ได้เข้าแจ้งความว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกว่าจะให้ฝึกงานเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำจ.พิษณุโลก โดยนายปัญญาให้การว่า เมื่อประมาณเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนทำงานเป็นหัวหน้าเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก นายโสภณได้ไปนั่งดื่มกิน และพูดคุยพร้อมอ้างตัวว่าเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ตำแหน่งหัวหน้าสายงานอาชญากรรมและบันเทิงท่องเที่ยว ประจำ จ.พิษณุโลก กำลังเล็งหานักข่าวหน้าใหม่ให้ไปร่วมทำงานด้วย ตนหลงเชื่อจึงยอมลาออกจากงานที่ร้านอาหาร พร้อมสมัครเข้าทำงานเป็นนักข่าวด้วย โดยเสียค่าสมัครให้นายโสภณไป 1,000 บาท หลังจากนั้นนายโสภณให้ตนหาเด็กฝึกงานร่วมทีม ตนจึงชักชวนเพื่อนอีกหลายคนให้มาร่วมงานด้วย ต่อมาได้นัดพวกตนให้ไปประชุมและฝึกงานทำข่าวที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดจุฬามณี เมื่อไปถึงพบว่ามีกลุ่มชาย-หญิงรุ่นเดียวกับตนเองอยู่ภายในบ้านหลายคน ซึ่งบางคนมีงานทำแล้ว แต่ได้ลาออกเพื่อมาเป็นนักข่าวไทยรัฐ สาขาพิษณุโลก
นายปัญญา ยังกล่าวอีกด้วยว่า นายโสภณบอกในที่ประชุมนักข่าวที่สมัครเข้ามาใหม่ว่า จะต้องมีวุฒิปริญญาตรี หากใครไม่มีก็สามารถปลอมวุฒิการศึกษาให้ได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 6,000 บาท และจะมีนายมอส ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้จัดการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ สาขาพิษณุโลก โทรศัพท์สั่งการมาอีกที โดยที่นายมอสไม่ยอมเปิดเผยตัว หากใครตั้งใจทำงานก็จะได้บรรจุเข้าทำงานกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีเงินเดือนๆ ละ 13,000 บาท พร้อมค่าล่วงเวลาอีก 5,000 บาท พวกตนทั้งหมดจึงต่างทุ่มเทกันทำงานตามที่นายโสภณสั่งให้ทำ แต่เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา นายโสภณได้นัดพวกตนไปที่บ้านหลังเดิม พร้อมแจ้งว่าทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐรู้เรื่องการปลอมวุฒิการศึกษา พวกตนทั้งหมดจำเป็นต้องย้ายไปอยู่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนสูงกว่า พวกตนจึงหลงเชื่อ แต่ตลอดเวลา 3 เดือนกว่าที่พวกตนทั้งหมดทำงานกับนายโสภณในนามนักข่าวไทยรัฐ ยังไม่เคยได้รับเงินเดือนแม้แต่บาทเดียว กลับต้องเสียเงินให้กับนายโสภณและน.ส.อรุณศิริมาโดยตลอด เป็นเงินไม่ต่ำกว่าคนละ 10,000 บาท และเริ่มสงสัยในพฤติการณ์ของทั้งคู่ รวมไปถึงนายมอส จึงตัดสินใจเข้าไปสอบถามจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จึงทราบว่าไม่มีนโยบายรับผู้สื่อข่าวในลักษณะนี้ หลังจากรู้ว่าถูกหลอกแน่ จึงได้มาแจ้งความกับตำรวจ
ด้านนายโสภณและน.ส.อรุณศิริ ให้การกับตำรวจว่า ตนทั้ง 2 คนมีอาชีพขายเครปญี่ปุ่นอยู่ที่ตลาดสดบ้านคลอง โดยก่อนหน้านี้นายโสภณจะขายปาท่องโก๋อยู่หน้าวัดจุฬามณี นายมอสซึ่งรู้จักกันอ้างว่าเคยฝึกงานที่สำนักงานไทยรัฐ สาขาพิษณุโลก จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ ต้องการ หานักข่าวมืออาชีพไปร่วมงาน โดยให้ตนทั้ง 2 คน หาผู้ที่ต้องการจะเป็นนักข่าวไทยรัฐสายงานอาชญากรรมและบันเทิงท่องเที่ยวมาร่วมงาน ตนกับภรรยาจึงติดต่อนายปัญญาและผู้ที่ต้องการทำงานอีกหลายคนมาร่วมทีม จนถึงขณะนี้พวกตนทั้งสองคนก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน เพราะยังอยู่ระหว่างถูกหักเงินที่หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารให้กับนายมอส จำนวน 1 แสนบาท เพื่อปิดบังและทำเอกสารปลอมในการสมัครงาน
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหากับนายโสภณและน.ส.อรุณศิริว่า ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ฯ ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวออกไปสู้คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกัน มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สีแดง พงส. (สบ 3) สภ.เมืองพิษณุโลก เพิ่มเติมอีก 10 ราย โดยทั้งหมดแจ้งว่าได้ถูกผู้ต้องหาทั้งคู่หลอกเหมือนกัน ส่วนการติดตามตัวนายมอส ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
未经允许不得转载:综合资讯 » รวบ 18 มงกุฎอ้างเป็นไทยรัฐหาผู้ร่วมงาน