综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

ผบ.ทบ.แนะอย่าเลือก’คนไม่ดี’เข้ามาบริหารประเทศ

ผบ.ทบ.แนะอย่าเลือก'คนไม่ดี'เข้ามาบริหารประเทศ

จวก 2 สื่อทำชาติแตกแยก ‘แก้วสรร’ ราวี ‘เจ๊ปู’ อีกรอบ

‘บิ๊กตู่’ ออกทีวีช่อง 5-7 เตือนประชาชนอย่าเลือกนักการเมืองไม่ดีหลัง ‘เทพเทือก’ แอบย่องเข้าหาคุยกันตัวต่อตัว ชี้ชัดหมิ่นสถาบัญโยงต่างชาติ จวกสื่อเหลือง-แดงต้นตอปั่นคนไทยขัดแย้งกัน ด้าน กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 ยังไม่ให้ใบแดงผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ อ้างหลักฐานยังไม่ชัดเจน ให้ฝ่ายสืบสวนไปหาเพิ่ม ด้าน “ยิ่งลักษณ์” ใจถึงลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สาวมุสลิมแต่งแดงรอรับเพียบ ลั่นเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเสนอเป็นเขตปกครองพิเศษแบบพัทยา พร้อมพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้าน “กรณ์” จวกนโยบาย พท.ขายฝันทำไม่ได้จริงเพราะต้องใช้เงินมหาศาล ข้องใจจะหาเงินจากไหน ส่วน “เทพเทือก” เตรียมกลับไปล่อเป้าที่ปากน้ำอีกรอบ “ชุมพล”เหน็บให้ฝึกฝีมือไว้รับไข่ให้แม่น ๆ “แก้วสรร” โชว์แมนขู่ร้อง ป.ป.ช. อสส. ดีเอสไอ เล่นงาน “ยิ่งลักษณ์” อีกรอบ เผยธาตุแท้ทำไปเพราะกลัวนิรโทษกรรมให้ “แม้ว” ส่วน “ขุนค้อน” ฉวยโอกาสชี้ช่องให้เล่นงาน ก.ล.ต. ขณะที่เด็กเพื่อไทยสวนกลับเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่จะสอยคนปล่อยข่าวปั่นหุ้นขายดาวเทียมไทยคมโกยเงินเข้ากระเป๋า  

“ปู”ใจถึงลงชายแดนใต้
   
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกวาดที่นั่งในภาคใต้ 53 เขตว่า แม้ว่าภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงใหญ่ของพรรค แต่พรรคเพื่อไทยเป็นคนไทยเหมือนกันจึงขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนชาวใต้ให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปนำเสนอนโยบาย และไปให้กำลังใจพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง
   
เมื่อถามว่า ประเมินว่าในภาคใต้จะได้กี่ที่นั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ได้มอง เพราะวันนี้ไปให้กำลังใจมากกว่าและดูว่าพี่น้องมีความเป็นอยู่อย่างไรและจะทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุข เมื่อถามต่อว่า ได้พกของดีติดตัวเพื่อความปลอดภัยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มี แต่ได้พรจากพระมาแล้ว ส่วนพระนั้นห้อยปกติอยู่แล้ว

เสนอเป็นเขตปกครองพิเศษ
   
“ดิฉันจะลงไปให้กำลังใจพี่น้องประชา ชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะคนไทยด้วยกันและจะนำนโยบายของพรรคไปเสนอให้รับทราบ การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่พรรคอยากเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองท้องถิ่นพิเศษเหมือนกับ กทม.หรือพัทยา แต่รายละเอียดการดำเนินการคงต้องหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพี่น้องในพื้นที่ก่อน ที่สำคัญเราไม่เน้นเรื่องความรุนแรง จะใช้วิธีพูดคุยส่งเสริมและพัฒนามากกว่า” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
   
ต่อมาที่ท่าอากาศยานนราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะเดินทางมาถึง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคและประชาชนที่สนับสนุนได้มารอต้อนรับ และภริยาของผู้สมัครได้นำผ้าคลุมผมหรือ “ฮิญาบ” สีแดงสดใสมามอบให้คลุมผมเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชาวมุสลิมในพื้นที่ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พบปะทักทายกับมวลชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมกว่า 1,000 คน อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเดินทางไปยังบ้านพักของนายอับดุลเร๊าะห์มาน อับดุลสมัด อดีตประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 14 จังหวัดภาคใต้

สตรีมุสลิมแต่งแดงรอรับ
   
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาที่สาขาพรรคเพื่อไทย พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยมีประชาชนประมาณ 2,000 คน ร่วมต้อนรับ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีในพื้นที่ต่างสวมเสื้อและผ้าคลุมสีแดงเต็มหอประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงนโยบายของพรรคที่จะช่วยเหลือชาวมุสลิมว่า จะมีการสร้างที่พักให้ผู้เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองเมกกะประเทศซาอุดีอาระเบีย ทุนการศึกษา กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร 3 ปี รวมทั้งโครงการบ้านหลังแรกในชีวิตให้กับผู้ยากจน และเร่งแก้ไขความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กลับมาสงบสุขโดยเร็ว
   
ด้าน นายดาโต๊ะสุธิพันธ์ ศรีริกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นราธิวาส พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล้าลงมาในพื้นที่มีผลต่อคะแนนเสียงของผู้สมัครมาก หากพรรคได้จัดตั้งรัฐบาลโดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ชาวไทยมุสลิมจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ทุกคนต้องมีงานทำ ต้องได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ทั่วถึง ความยุติธรรมทางสังคมต้องเกิดขึ้น รวมทั้งขจัดการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้หมดสิ้นไป

น้ำตาคลอถูกถามถึง “พี่แม้ว”
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ อยู่บนเครื่องบินเช่าเหมาลำ เดินทางไปหาเสียง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้เดินมาทักทายและพูดคุยกับสื่อมวลชนที่ร่วมคณะ โดยได้กล่าวถึงการถูกโจมตีทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า กระแสกดดันต่าง ๆ ไม่ได้ทำให้เหน็ดเหนื่อย แต่ไม่มีอะไรทำให้เหนื่อยใจเท่ากับสิ่งที่พี่ชายโดนอยู่ เมื่อถามว่า กองทัพเกรงว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะทำให้กองทัพลำบาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มันไม่มีอะไรแย่กว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาแล้ว ตนใจกว้างพอการเมืองหลังจากนี้จะต้องใจกว้าง ไม่อย่างนั้นปัญหาไม่จบ อย่าไปกลัวเลยให้เขาทำงานไป ใครมีงานอะไรก็ทำไปตามหน้าที่
   
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรื่องอะไรทำให้หนักใจมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบกลับว่า ทุกเรื่อง เมื่อถามต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ชายรู้สึกอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ นิ่งเงียบไม่ตอบคำถาม ทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีโอกาสกลับประเทศไทย หลังการเลือกตั้งปี 2550 แล้วก้มกราบแผ่นดินนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ พูดอะไรกับครอบครัวเป็นอย่างแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ นิ่งเงียบอีกครั้ง และเริ่มมีน้ำตาซึมบริเวณขอบตา ก่อนพูดตัดบททันทีว่า ไม่เอาแล้วไม่คุยเรื่องนี้ดีกว่า จากนั้นได้ขอตัวออกจากวงสนทนาไปทันที

“มาร์ค”เตรียมเคลียร์ “ชุมพล”
   
ทางด้านทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการประชุม ครม.ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานพร้อมให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสที่พูดคุยกับนายชุมพล ศิลปอาชา ฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงความหมางใจกันจากบทความในเว็บไซต์เฟซบุ๊กเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า จะต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า แล้วนายชุมพลจะเข้าร่วมประชุม ครม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวยิ้ม ๆ ว่า ไม่ทราบครับ
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุมพลได้ให้คนสนิทประสานมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อแจ้งขอลากิจ ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. โดยจะไปหาเสียงกับผู้สมัคร ส.ส.ย่านบางแค

เจ้าตัวลาหาเสียงบางแค
   
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงการไม่ได้เข้าประชุม ครม.ว่า ไม่ได้หนี คนอย่างตนไม่เคยหนีใคร แต่ตนลาล่วงหน้ามานานแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นจบแล้วไม่มีปัญหาเข้าใจกันดี ส่วนที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจนั้น ตนไม่ถือสา 100 คน ก็ต้องมีคนรักคนเกลียด เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มาทำความเข้าใจกันหรือยัง นายชุมพลกล่าวว่า ให้ไปหาเสียงกับชาวบ้านดีกว่า ไม่ต้องมาหาเสียงกับพรรคชาติไทยพัฒนา
   
เมื่อถามถึงกระแสพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ นายชุมพลกล่าวว่า ผ่านมาครึ่งทางกระแสพรรคเพื่อไทยเอาเรื่องกินขาดเหมือนกัน อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบคำถามได้ไม่เบา เอาการเอางาน เมื่อถามว่า มีผลในการจับขั้วในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ต้องรอดูผลเลือกตั้งว่าคะแนนจะออกมาอย่างไรก่อน

แนะ “เทือก” ฝึกจับไข่
   
เมื่อถามต่อว่า นายกฯยังคงชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่าไม่ได้สั่งฆ่าประชาชน นายชุมพลกล่าวว่า เป็นกลยุทธ์ของแต่ละฝ่ายในการหาเสียง เมื่อถามว่า ล่าสุดนายสุเทพไปหาเสียงที่ จ.สมุทรปราการก็ถูกปาไข่ นายชุมพลกล่าวว่า นายสุเทพมือไม่ไวเหมือนตน ต้องไปหัดจับไข่ก่อน ทำไมไม่เอามือรับไข่จะได้นำไปทอดกิน ตอนตนจับเบอร์ไข่จะหล่นยังคว้าได้ทัน ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.ระบุว่าจะแจกใบแดง 2-3 คนก่อนการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง นายชุมพลกล่าวว่า โอมเพี้ยงขอให้ไม่โดนพรรคชาติไทยพัฒนา
   
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวปฏิเสธข่าวแกนนำยื่นขอโควตารัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ เพื่อต่อรองร่วมรัฐบาลว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าวต้องสอบถาม นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรค ตนขอทำงานด้านเศรษฐกิจให้พรรคไปก่อน เรื่องอื่นนั้นค่อยพูดภายหลัง

“เทือก”เตรียมล่อเป้าอีกเที่ยว
   
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงไปหาเสียงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชายแดนภาคใต้ ส่วนกรณีที่โดนปาไข่ระหว่างการช่วยลูกพรรคหาเสียงที่ จ.สมุทรปราการนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเชียร์และไม่เชียร์ คิดว่าคงได้รับการวางแผนกันมา มีชาวบ้านมาบอกตนว่าคนจัดการชื่อสงคราม
   
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ตนจะไปหาเสียงช่วยลูกพรรคที่ปากน้ำอีกแน่นอน ยืนยันว่าไม่ไปล่อเป้าแต่ไปหาคะแนนเสียง และคงไม่ไปร้อง กกต. การหาเสียงให้ประชาชนตัดสินใจเอง และทุกคนก็ยอมรับผลการตัดสินใจ เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงออกมาเพื่อตอบโต้ เพราะนายสุเทพตอกย้ำเรื่องการเผาบ้านเผาเมืองตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่ตนพูดไม่ได้เป็นการตอบโต้แต่พูดความจริง หากประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วยังเลือกพวกเผาบ้านเผาเมืองพวกตนจะได้ทำใจ

ปัดจับมือ ภท.ตั้งรัฐบาล
   
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเป็นที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกับพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลแข่ง นายสุเทพกล่าวว่า พรรคยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือพูดจากับใคร ก้มหน้าก้มตาหาเสียงอย่างเดียว เมื่อได้คะแนนเสียงมากในการจัดตั้งรัฐบาลได้ถึงตอนนั้นก็จะพูดคุยกับพรรคการเมืองต่าง ๆ อย่าไปตื่นเต้นกับสูตรการจัดตั้งรัฐบาลที่มีข่าวการแบ่งโควตารัฐมนตรี ขอให้ตื่นเต้นกับการเลือกตั้งก่อนดีกว่า เรื่องรัฐบาลเอาไว้ให้ถึงวันที่ 3 ก.ค.ก่อนพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเสนอเรื่องเขตปกครองพิเศษของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นแนวทางของแต่ละพรรค ส่วนพรรคมาตุภูมิเสนอเรื่องทบวงความมั่นคง โดยจะให้องค์กรส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โครงสร้างหลักยังคงเหมือนเดิมมี กอ.รมน. และ ศอ.บต. เพียงแต่ให้มีรัฐมนตรีกำกับดูแลทบวงและร่วมประชุม ครม. เพื่อชี้แจงปัญหา

“กรณ์”ตั้งหน้าจับผิดเพื่อไทย
   
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า จากการคำนวณงบประมาณตามนโยบายพรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้พบว่า ใช้เงินงบประมาณเฉพาะปีแรกสูงถึง 2.06 ล้านล้านบาท ซึ่งจากประมาณการตามเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 55 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ทั้งสิ้น 1.9 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำและงบลงทุนรวม 2.22 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบ 320,000 ล้านบาท
   
นโยบายที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงครั้งนี้ เป็นนโยบายขายฝัน เหลวแหลก ไม่สามารถเป็นจริงได้ โดยจากการรวบรวม 8 นโยบายเบื้องต้นของพรรคเพื่อไทย ต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 2.066 ล้านล้านบาทใน 1 ปี คือ ลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 23% ใช้งบประมาณ 150,000 ล้านบาท แจกแท็บเล็ตให้นักเรียน โดยสมมุติฐานเบื้องต้น 8.6 ล้านคน เครื่องละ 20,000 บาทใช้งบประมาณ 172,000 ล้านบาท กองทุนตั้งตัวได้ ให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 169 มหาวิทยาลัย วงเงิน 169,000 ล้านบาท

จวกนโยบายขายฝัน
   
นายกรณ์กล่าวต่อว่า เพิ่มเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท โดยคำนวณจากบัณฑิตจบใหม่ปีละ 400,000 คน และการปรับฐานเงินเดือนทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจด้วยใช้งบประมาณ 557,000 ล้านบาท นโยบายจำนำข้าวใช้งบประมาณ 472,000 ล้านบาท แลนด์บริดจ์ทั้งโครงการ 100,000 ล้านบาท 4 ปี เฉลี่ยปีละ 25,000 ล้านบาท โครงการเขื่อนกั้นทะเลมูลค่าโครงการ 900,000 ล้านบาทอายุ 5 ปี เฉลี่ยปีละ 180,000 ล้านบาท และนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งต้องคืนเงินที่ยึดทรัพย์มา 46,000 ล้านบาท ซึ่งต้องบรรจุลงใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 55
   
“เงินที่เพิ่มมา 2 ล้านล้านบาทนี้ เป็นเงินที่อยู่นอกเหนืองบประมาณรายจ่ายที่ผ่านสภาแล้ว ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ นี่ยังไม่รวมโครงการบัตรเครดิตเกษตรกร เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน คืนภาษีรถคันแรก พักหนี้เกษตรกร ฟรีไวไฟ แอร์พอร์ตลิงก์พัทยา รถไฟฟ้า 20 บาท ชลประทานระบบท่อ 25 ลุ่มน้ำ ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่สามารถเป็นไปได้และเป็นนโยบายขายฝัน” นายกรณ์กล่าวและว่าโครงการเหล่านี้อยากตั้งคำถามว่าจะเอาเงินมาจากที่ไหน เป็นการพิสูจน์ว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยทำไม่ได้ เป็นการขายฝันอย่างแท้จริง

ลุ้น กกต.แจกแดงศรีสะเกษ
   

อีกด้านหนึ่งที่สำนักงาน กกต.นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนใน จ.มหาสารคามกว่า 30 คน ร้องเรียนผ่านพรรคเพื่อไทยว่ามีชื่อในบัญชีขอเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร ฯลฯ ทั้งที่ไม่เคยไปลงทะเบียนไว้ว่า กกต.ยังไม่ได้รับรายงานหรือข้อร้องเรียนในเรื่องดังกล่าว จึงขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่หากประชาชนมีข้อมูลหลักฐานก็ขอให้ส่งเรื่องมายัง กกต. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
   
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณาตัดสิทธิผู้สมัครของผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ประชุม กกต. ซึ่งเป็นเรื่องการแจกเงินซื้อเสียง คาดว่าจะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 มิ.ย.

มติ 3 ต่อ 2 ยังไม่แจกแดง
   
แหล่งข่าวจาก กกต.แจ้งว่า สำหรับการประชุม กกต.วันนี้ ได้มีการพิจารณากรณีที่ กกต.จังหวัดศรีสะเกษ เสนอความเห็นให้เพิกถอนสิทธิผู้สมัคร (ใบแดง) เขต 2 หลังจากที่ได้สืบสวนสอบสวนแล้วพบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการทุจริตการซื้อเสียงจริง ซึ่งในการนำเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณานั้น ได้นำคลิปวิดีโอและภาพนิ่งมาประกอบการพิจารณาให้กับ กกต.ทั้ง 5 คน ซึ่งเห็นได้ชัดเจน ซึ่งการพิจารณากรณีดังกล่าว กกต.ได้ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง แล้วมีมติ 3 ต่อ 2 เห็นว่าต้องสอบเพิ่มเติม เพราะเห็นว่ายังมีพยานบางปากที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบ จึงให้นำกลับไปสอบเพิ่มเติมและเสนอกลับเข้ามาใหม่
   
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับ 3 เสียงที่เห็นว่ายังต้องสอบเพิ่มเติมประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายประพันธ์ นัยโกวิท และนางสดศรี สัตยธรรม จึงทำให้ กกต.ยังไม่สามารถเพิกถอนผู้สมัครได้ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางด้านสืบสวนสอบสวนจะเร่งดำเนินการและจะเสนอกลับเข้ามาใหม่

จับมืออาร์เอสรณรงค์เลือกตั้ง

   
วันเดียวกัน กกต.ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเพลงรณรงค์เชิญชวนเลือกตั้ง ภายใต้สโลแกน “แบบแบ่งเขตเลือกคนที่รัก แบบบัญชีรายชื่อเลือกพรรคที่ชอบ” ร่วมกับบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดยมี กกต.พร้อมกับกลุ่มศิลปินบริษัทอาร์เอสฯเข้าร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม น.ส.ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ หรือ มด นายธนา ลิมปยารยะหรือ เชน นายจารุพงศ์ กล้วยไม้งาม หรือ แจ็ค นายสุทธิราช วงศ์เทวัญ หรือ กุ้ง น.ส.นิภาพร แบ่งอ้วน หรือ กระแต ศิลปินวงโปงลางสะออน วงซีควินท์ วงบลูเบอร์รี่ เป็นต้น
   
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กล่าวว่า เพลงรณรงค์เชิญชวนเลือกตั้งเน้นให้มีการสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการรณรงค์ให้ประชาชนไทยร่วมกันแสดงพลังประชาธิปไตยด้วยการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค. โดยบริษัทอาร์เอสฯได้จัดทำเพลงรณรงค์ประจำโครงการทั้งสิ้นจำนวน 2 เพลงได้แก่ เพลงไทยสากล คือ เพลงเลือกตั้งคือคำตอบ ส่วนเพลงลูกทุ่ง คือ เพลงเลือกคนที่ชอบ กาเบอร์ที่ใช่ เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง

“แก้วสรร”ตามราวีไม่เลิก
   
วันเดียวกันที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. และแกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอร์รัปชั่นทักษิณ (คนท.) แถลงถึงคำชี้แจงกรณีที่ ก.ล.ต.เกี่ยวกับการซุกหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า คนท.เห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายผิดพลาด ต้องทบทวนดำเนินคดีและตั้งรูปคดีใหม่ เนื่องจากมีการทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของชินคอร์ปที่แจ้งต่อ ตลท. เป็นเท็จตั้งแต่ปี 2543-2549 เพราะมีชื่อลูกและน้องเข้ามาบังชื่อตัวจริงไว้ จนถึงขายธุรกิจให้ทุนสิงคโปร์
   
นายแก้วสรรกล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวถือว่ามีการแจ้งขายและซื้อเป็นเท็จ แจ้งโครงสร้างผู้ถือหุ้นเป็นเท็จในหนังสือชี้ชวนและรายงานประจำปี แต่ ก.ล.ต.กลับแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ผิด เพราะไม่ได้เป็นผู้แจ้งขายหุ้นหรือซื้อหุ้น นอกจากนี้ ฐานความผิดที่ก.ล.ต.ต้องใช้ไม่ใช่มาตรการ 246 ที่เอาผิดฐานโอนหุ้นเปลี่ยนมือกันมากกว่า 5% แล้วละเว้นไม่แจ้ง ก.ล.ต. แต่กรณีนี้เป็นการโอนหุ้นกันปลอม ๆ แล้วแจ้งเท็จ ไม่ใช่โอนจริง จึงเข้าข่ายความผิดมาตรา 302 ตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ และมาตรา 278 เพราะออกหนังสือชี้ชวนเป็นเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุกหนักถึง 5 ปี  

เผยที่แท้กลัว “แม้ว” กลับ
   
“ในวันที่ 21 มิ.ย.จะเดินทางไปร้องทุกข์กับ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ป.ป.ช. ดีเอสไอ อัยการ และ ก.ล.ต. เพื่อให้กล่าวโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวก กรณียอมให้ใช้ชื่อโอนหุ้นเพื่อปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นของชินคอร์ป โดยยืนยันว่าจะดำเนินการให้คนที่ให้ความเท็จต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ สาเหตุที่ผมต้องออกมาหากพรรคเพื่อไทยไม่ประกาศกฎหมายนิรโทษกรรมและนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ผมคงไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้” นายแก้วสรร กล่าว   
   
ด้าน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การตรวจสอบของ ก.ล.ต.เป็นการทำหน้าที่เพียงผิวเผิน ทำให้สาธารณชนไม่ได้รับทราบความจริง โดยมองว่าความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว การให้การเท็จ ยังมีความผิดอาญาด้วย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-7 ปี

ก.ล.ต.ยันจำเป็นต้องชี้แจง
   
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยังนาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ได้รับการชี้แจงว่า รับทราบเรื่องที่นายแก้วสรรมาร้องเรียนแล้ว ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปศึกษารายละเอียด การออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เนื่องจากมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของ ก.ล.ต. เพราะถูกพาดพิงจึงต้องทำความเข้าใจหรือชี้แจง ยืนยันว่าไม่มีอะไรแอบแฝง วันที่ออกข่าวได้ส่งหนังสือชี้แจงการทำงานของ ก.ล.ต. อย่างละเอียดถึง รมว.คลังแล้ว
   
“การออกข่าวในจังหวะนี้ผมตระหนักดีและก็ระวังมากที่จะไม่ให้เข้าไปมีส่วนหรือมีผลทางการเมือง แต่ในเมื่อมีปัญหาและเมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำงานของ ก.ล.ต.เราต้องชี้แจง ถ้าไม่มีการชี้แจงจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ ก.ล.ต.จึงไม่มีทางเลือก” นายธีระชัยกล่าว

ขุนคลังชี้ช่องเล่นงาน ก.ล.ต.

   
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ก.ล.ต.ชี้แจงไม่ชัดเจนในประเด็นที่ คนท.สอบถามไป เพราะถามถึงเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้การเท็จในคดีซุกหุ้นในบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ไม่ใช่บริษัท เอสซี แอสเซส คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ก.ล.ต.กำลังพยายามทำให้คนสับสน
   
รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ก.ล.ต.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับตรวจสอบมีหน้าที่ในการตรวจสอบการกระทำผิดที่เข้าข่าย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว กรณีดังกล่าวเมื่อศาลฎีกาตัดสินว่าฟังไม่ขึ้น แสดงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้การเท็จ ทำไม ก.ล.ต.จึงไม่ดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งที่หลังจากศาลมีคำสั่งไปแล้ว ตนเคยสอบถามไปยัง ก.ล.ต.เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจง ซึ่งกรณีดังกล่าว ก.ล.ต.จะเข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 ได้ หากมีหน่วยงานหรือบุคคลใดยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.

พท.ขู่เล่นงานพวกปั่นหุ้น
   
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่นาย กรณ์ให้สัมภาษณ์ว่าการที่หุ้นตกและนักลงทุนต่างประเทศเทขายนั้น มาจากการที่พรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสสูงในการชนะการเลือกตั้งและเป็นรัฐบาล ว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจจะทำให้นักลงทุนไทยและประชาชนคนไทยสับสน เหมือนกับกรณีที่ออกมาบอกเรื่องการซื้อดาวเทียมไทยคมที่ไม่ได้มีการซื้อขายจริงแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่คนในตลาดทราบกันดีว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อปั่นหุ้นเท่านั้น
   
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ที่หุ้นตกเป็นเพราะการเทขายหุ้นที่เกิดขึ้นทั้งโลก ส่วนหนึ่งกังวลในอัตราเงินเฟ้อในตลาดที่เกิดใหม่ โดยเฉพาะในประเทศจีน รวมถึงในประเทศไทยด้วยที่รัฐบาลไม่สามารถคุมระดับราคาสินค้าที่แพงได้ ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นออกทั้งโลกเพื่อเฝ้าดู พรรคจะส่งตัวแทนเข้าให้ความรู้และทำความเข้าใจกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้เห็นภาพอนาคตว่าหากพรรคเพื่อไทยเข้าบริหารประเทศ จะเป็นผู้นำในกลุ่มอาเซียนได้ และจะเข้าไปตรวจสอบการปั่นหุ้นที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้อย่างจริงจังเพื่อจะนำคนผิดมาลงโทษ ไม่ให้มีการนำข้อมูลภายในมาใช้เพื่อหาประโยชน์ได้อีก

“ตู่”ออกทีวีแจงการทำงาน
   
บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม ครม. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. โดยใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาทีจึงกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยการเข้ามาพบของนายสุเทพครั้งนี้แจ้งรหัสวิทยุสื่อสารว่า เป็นวีไอพี ทบ.1 ไม่ได้ใช้รหัส ว.ว่า เป็น สร.2 ซึ่งหมายถึงรองนายกรัฐมนตรีเหมือนปกติ
   
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงได้อัดเทปรายการสัมภาษณ์พิเศษ ชี้แจงบทบาทของกองทัพต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อนำออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5  และ ช่อง 7 โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ภายนอกเข้ามากดดันกองทัพหลายเรื่อง ทั้งด้านการเมือง การทหาร แม้กระทั่งการจัดตั้งรัฐบาล กองทัพถูกกล่าวไปในทางที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ แต่เนื่องจากภัยคุกคามมีมากกองทัพบกจึงจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องการป้องกันยาเสพติด ที่พบว่ามีการแพร่หลายในพื้นที่ตอนใน 35 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เราต้องตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ 315 ในการแก้ปัญหา

อัดสื่อทำให้แตกแยก
   
ผบ.ทบ.กล่าวต่อว่า เราจะสนับสนุนการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ พยายามให้ประเทศผ่านพ้นห้วงเวลาที่ไม่สงบสุขไปได้ สิ่งที่ห่วงคือเรื่องสื่อ เพราะเป็นสิ่งสำคัญทำให้ประชาชนรับรู้ความเป็นไปของบ้านเมือง แต่ปัจจุบันประชาชนถูกชักจูงไปโดยกลุ่มคนบางประเภทที่ปรารถนาไม่ดี และทำให้กองทัพมีปัญหากับประชาชน สื่อต้องช่วยประเทศผ่านวิกฤติให้ได้ ปัจจุบันเรามีทั้งสื่อในระบบและสื่อนอกระบบ ทำให้เกิดความแตกแยกรึเปล่าตนไม่แน่ใจ ถ้าต้องการให้ประเทศชาติปรองดอง คิดว่าสื่อทั้ง 2 ฝ่ายต้องเลิก ต้องหยุดได้แล้ว
     
“วันนี้ต้องไม่มีฝักไม่มีฝ่าย ไม่ใช่ว่าเป็นทหารแล้วมีอำนาจบาตรใหญ่มาห้ามสื่อ บางวันเวลาไม่เป็นธรรมกับผมและกองทัพ แม้ผมไม่ให้ความสนใจแต่ประชาชนเขาฟังอยู่ ผมเคยได้รับโทรศัพท์จากต่างประเทศตำหนิว่าปกป้องดินแดนไม่ได้ ทำร้ายประชาชน ก็พยายามอธิบายแต่ท่านไม่เข้าใจเพราะท่านฟังมาจาก 2 สื่อที่ว่ามา นี่จึงเป็นเรื่องอันตราย แล้วเราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือ สังคมลงความเห็นว่าจะปล่อยให้มีสื่ออย่างนี้ต่อไปหรือไม่ ทั้ง 2 สื่อรู้ว่าถ้าพูดอย่างนี้ต้องมีคนมาโจมตีแน่นอน” ผบ.ทบ.กล่าว

บอกเสียใจที่มีคนตาย
   
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า 6 เดือนนี้กับก่อนหน้านี้มันคนละเรื่อง ท่านผิดหรือถูกก็มาต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่จะบอกว่ากลไกไม่ถูกไม่ได้ เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ใครผิด ใครถูกก็สู้กันไป ขอร้องประชาชนเรื่องการรักษากฎกติกาของบ้านเมือง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเสียใจที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ซึ่งไม่ควรจะเกิดแม้แต่คนเดียว ใครผิดหรือถูกก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย การแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองด้วยการออกมาเลือกตั้งเป็นสิ่งสำคัญ และต้องเลือกคนดี ที่ผ่านมาเราเสียใจและจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้นอีก
   
“จากการติดตามของฝ่ายความมั่นคงเห็นว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับสถาบันมากขึ้น แน่นอนต้องมีคนกลุ่มหนึ่งต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ทหารต้องออกมาเคลื่อนไหวบ้างไม่ใช่ว่าจะผูกขาดจงรักภักดี สถาบันทรงมีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดิน ประเทศไทยเป็นประเทศทุกวันนี้เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ไม่เคยลงไปเกี่ยวข้องอะไรที่ไม่ใช่พระราชกิจ ถึงวันนี้ทรงทำงานมากว่า 60 ปี วันนี้พระองค์น่าจะทรงพักผ่อนด้วยความสบายพระราชหฤทัย แต่มีคนบางกลุ่มไม่ปกติ ซึ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนที่อยู่ต่างประเทศ เช่น นายใจ อึ๊งภากรณ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข ที่พยายามทำให้สถาบันเสียหาย เกี่ยวพันยึดโยงกับคนอีกหลายกลุ่ม ซึ่งเรายอมไม่ได้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผบ.ทบ.ชวนเลือกตั้ง
     
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ทุกคนต้องช่วยกันดูแลพระองค์ท่าน ท่านไม่เคยเรียกร้องความเข้าใจจากใคร ท่านไม่เคยตอบคำถามใครได้ สิ่งกล่าวอ้างทั้งหมดไม่เป็นธรรม ไม่สุภาพด้วยประการทั้งปวง สังคมต้องดูว่าเกิดจากที่ไหนอย่างไร เกี่ยวพันกับเรื่องอะไร ทำไมถึงมากขึ้นทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก หรือสื่อสิ่งพิมพ์ โฆษณาระดมมากขึ้นในช่วงเลือกตั้ง สถาบันไม่เคยสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ไม่อยากให้คนไปละเมิดท่าน กฎหมายมาตรา 112 ก็มีคนจะล้มเลิก สิ่งที่ท่านทรงพระเมตตากลับทำให้คนเหล่านี้ ได้ใจว่า ยังไงก็ไม่โดน พอเจ้าหน้าที่ทำงานกลับต่อต้านมาตรา 112 ฝากคำถามนี้ให้สังคมไปแก้
   
ผบ.ทบ.กล่าวด้วยว่า สุดท้ายขอให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าช่วยไปเลือกตั้ง หากท่านปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นเหมือนเดิม เราก็ได้อะไรแบบเดิม อยากฝากให้ทุกคนเลือกตั้งใช้สติมีเหตุผล รู้จักคิดว่าทำอย่างไรบ้านเมืองสถาบันจึงจะปลอดภัย ทำอย่างไรคนดีจึงจะได้มาบริหารชาติบ้านเมือง อย่าให้คนเขาดูถูกว่าท่านชักจูงง่าย โดยไม่ได้ดูว่าคนนั้นดีหรือไม่ มีคุณธรรมหรือไม่ เขาทำผิดกฎหมายหรือไม่ ตนบอกว่ากิริยาที่นักการเมืองบางท่านใช้ไม่เหมาะสม แล้วจะเลือกเขาเข้าไปทำไม เลือกคนที่ดี คนที่สุภาพ ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเข้าไปทำงานแล้วกัน.

อารักขาเข้ม“มาร์ค”หาเสียง

   
เย็นวันเดียวกันวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง กทม. ได้เดินทางมายังหน้าตลาดโชคชัย 4 เขตลาดพร้าว เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้กับ นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง ทันทีที่คณะของนายอภิสิทธิ์มาถึง ได้มีผู้สนับสนุนมารอต้อนรับกว่า 100 คน และมีคนเสื้อแดงประมาณ 30 คน มารอพร้อมกับมีป้ายข้อความสารพัด ต่อมา นายอภิสิทธ์และคณะลงพื้นที่เขตห้วยขวางช่วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.สเขต 6 หาเสียง
   
สำหรับการลงพื้นที่ดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์ได้มีตำรวจ สน.โชคชัย และพื้นที่ใกล้เคียง มาอำนวยความสะดวกจำนวนมาก เพราะเกรงว่าจะมีการปะทะกัน ทั้งนี้การลงพื้นที่ในช่วงเย็นในซอยเล็กเช่นนี้ทำให้การจราจรยามเย็นของซอยดังกล่าวที่คับคั่งอยู่แล้ว ยิ่งหนาแน่นกว่าเดิม.

未经允许不得转载:综合资讯 » ผบ.ทบ.แนะอย่าเลือก’คนไม่ดี’เข้ามาบริหารประเทศ

赞 (0)
分享到:更多 ()