综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

มาร์ค ไม่รอด ไปสวนลุมฯยังเจอแดงป่วน

“มาร์ค”หาเสียงสวนลุมฯเจอแดงชูเบอร์1 ผวาเข้าใจผิดเห็นกองเชียร์ตามมาแช่ง เจ้าสัว-อาม่าหนุนสุดตัว…
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 มิ.ย.ที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) หน้าสวนลุมพินี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปช่วยเดินสายหาเสียงในพื้นที่ กทม.ช่วงโค้งสุดท้าย
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้สักการะถวายพวงมาลัยพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 ก่อนที่จะไปทำพิธีปล่อยขบวนหาเสียง โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวกับอาสาสมัครที่ช่วยหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ตนถือว่าเป็นอีกครั้งที่มีการตอบรับอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะคน กทม.อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า คนที่เข้าใจถึงสถานการณ์ความยากลำบากที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าเป็นธรรมดาที่มี 2 ปัจจัยที่ทำให้เราต้องทำงานกันหนัก คือการที่ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีให้ผู้สนับสนุนแสดงออกในลักษณะที่ฮึกเหิม
ดังนั้นทำให้บางครั้งการแสดงออกดูจะรุนแรงเป็นพิเศษคนที่ดูเฉพาะจุดนั้นอาจจะเข้าใจสถานการณ์ไม่ตรงกับสถานการณ์ทั่วไปที่คนส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของการตัดสินใจหรืออาจจะตัดสินใจแต่ไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใครก็ไม่ได้แสดงออก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่าเวลาบ้านเมืองยังคงมีปัญหาอยู่ เช่นที่ผ่านมามีปัญหาของแพงแม้ว่าราคาสินค้าหลายตัวเริ่มคลี่คลายแล้วตรงนี้เป็นธรรมดาคนก็ต้องหงุดหงิดกับรัฐบาลบ้างแต่ในภาพรวมตนมั่นใจว่าเมื่อคามแตกต่างมีทางเลือกที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ที่มุ่งมั่นในการทำงานแก้ปัญหาของประชาชนก็จะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ประชาชนหันมาสนับสนุนเรา
ดังนั้นขอให้ทุกคนมีความมั่นคงและทุ่มเทอย่างเต็มที่ อย่างที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯย้ำเสมอว่าทุกวินาทีทุกคะแนนมีความหมาย ขอให้เดินหน้าทุ่มเทอย่างเต็มที่ ในระยะเวลาที่เหลืออยู่และขอบคุณที่ได้อาสาเข้ามาทำงานเดินสายพบปะพี่น้องประชาชน ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จตามความตั้งใจ
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินแยกเข้าไปตระเวนยกมือไหว้พบปะประชาชนในสวนลุมพินี ซึ่งมีบรรดาประชาชนที่พากันมาออกกำลังกายตอนเช้า มีทั้งกลุ่ม เต้นแอโรบิก ชมรมรำมวยไทเก็ก และชมรมน้ำชาที่มีผู้สูงอายุชาวไทยเชื้อสายจีน พากันตั้งวงจิบน้ำชา
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่นายอภิสิทธิ์ เดินผ่านประตูใหญ่ของสวนลุมฯซึ่งมีกลุ่มเต้นแอโรบิกส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ได้มีหญิงวัยกลางคนที่สวมเสื้อแดงเกือบ 10 คนได้ตะโกน และชูนิ้วเบอร์ 1 ใส่นายอภิสิทธิ์ทันที ทำให้นายอภิสิทธิ์หน้าเจื่อน ขณะที่กองเชียร์ได้ตั้งสติและตะโกนส่งเสียง“เบอร์ 10” เพื่อกลบเสียงกลุ่มดังกล่าว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้รีบเดินให้ผ่านกลุ่มดังกล่าว พอเดินผ่านมาประมาณ 20 เมตร ปรากฎว่าได้มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อสีฟ้า ชูป้ายขนาดใหญ่สีขาว โดยมีข้อความว่า “ดีแต่พูดความจริง เขาจึงโกรธ เที่ยวกล่าวโทษ “ฆาตกร” ดูน่าขัน ใครกันแน่ที่ยุ คนห้ำหั่นกัน ใช้น้ำมันเผาบ้านเมืองชาติตนเอง” มาชูให้นายอภิสิทธิ์ ซึ่งในครั้งแรกนายอภิสิทธิ์ คิดว่าเป็นป้ายต่อต้านจึงเดินหนี ทางกลุ่มกองเชียร์ได้ต่อว่า และไล่ให้ผู้หญิงคนดังกล่าวออกไป ทำให้หญิงคนดังกล่าวไม่พอใจ จนต้องพยายามชี้แจงว่าตนเองมาเชียร์ มาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ทำไมไม่ดูให้ดีเสียก่อน
นายอภิรักษ์ จึงได้เข้าไปขอโทษ เมื่อรู้ว่าเป็นกลุ่มกองเชียร์ จึงหัวเราะชอบใจ และหันมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เชียร์กันเอง งงกันเอง” และเมื่อนายอภิสิทธิ์เดินเข้าไปอีกระยะหนึ่งก็เจอผู้หญิงสวมเสื้อสีแดง ขี่จักรยาน พร้อมตะโกนเบอร์ 1 อีกครั้ง ทำให้นายอภิสิทธิ์ถึงกับส่ายศรีษะและยิ้มแหยๆ
ต่อจากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมผู้สมัคร เดินไปแวะทักทายคนไทยจีนสูงอายุตามซุ้มนำชาต่างๆ โดยนายอภิสิทธิ์ ได้พูดภาษาจีนเพื่อขอคะแนนเสียงจากชาวจีนว่า “จับผ่อ หน่อเตีย” ซึ่งหมายความว่า ให้เลือกเบอร์ 10 ทั้ง 2 ใบ ทำให้เรียกเสียงปรบมือจากเจ้าสัว-อาม่าที่ออกกำลังกายอยู่ และเมื่อเดินไปถึงกลุ่มรำกระบี่จีน สมาชิกได้ให้นายอภิสิทธิ์ ได้ถือกระบี่จีน ที่มีพู่สีแดงห้อยอยู่ โดยบอกว่าเป็นเคล็ด เพื่อฟันฝ่าสิ่งชั่วร้ายเข้าไปถึงตำแหน่งนายก ฯ และระหว่างแวะซุ้มน้ำชาเจ้าสัวคนหนึ่งได้ขอดูรายมือนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ยื่นมือขวาไปให้ดู แต่เมื่อเห็นช่างภาพกรูกันเข้าไปถ่ายภาพ ก็บอกว่า “ลื้อเป็นคนมือสะอาดนะ”
นอกจากนี้เดินได้และไปเจอกับกลุ่มมารดาของนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.คนสนิท ซึ่งได้เข้าทักทาย และสอบถามถึงนายศิริโชค มารดาของนายศิริโชค กล่าวว่า นายศิริโชค ไม่รู้อยู่ไหน เพราะเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน ต่อมาได้ไปเจอกลุ่มมารดาของนายปัญญา นิรันดร์กุล หรือ”เสี่ยตา” พิธีกรรายการทีวีชื่อดัง เจ้าของบริษัทเวิร์คพอยท์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งได้ประกาศตัวว่าเป็นหัวคะแนนให้ หากไม่มาทักกันจะเห็นดี นายอภิสิทธิ์เข้าไปทักมายจิบน้ำชาอย่างเป็นกันเอง ระหว่างทางยังเจอกลุ่มคนเสื้อแดง และผู้ไม่ชอบนายอภิสิทธิ์ เป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างเดินหาเสียงนายอภิสิทธิ์ โชว์สเต็ป การวิ่ง โชว์ความฟิตให้ช่างภาพถ่ายภาพ พร้อมบอกว่า เวลาเหลือน้อยต้องวิ่งบ้าง โดยก่อนที่จะออกจากสวนลุมพินี ปรากฎว่า มีนางเสาวลักษณ์ เชี้ยวสิริขจร อายุ 60 ปี ได้ปั่นจักรยายด้วยความเร็ว มาดักพบนายอภิสิ์ทธิ์ พร้อมถอดสร้อยสามกษัตริย์ ที่แขวนหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง ให้นายอภิสิทธิ์ ด้วยอาการมือสั่นๆ พร้อมบอกว่า “รักมากเป็นพิเศษ จึงมอบให้เพื่อเอาไว้ปกปักรักษาและคุ้มครอง” นายอภิสิทธิ์ได้รับไว้ และกล่าวขอบคุณ ก่อนจะยื่นให้ทีมงานเก็บไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหาเสียงที่สวนลุมฯ ของนายอภิสิทธิ์ นอกจากเจอกลุ่มเสื้อแดง ยังได้เจอสมาชิกของกลุ่มคนเสื้อเหลือง ได้เดินเข้ามาถามตรงๆถึงความคืบหน้า การช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกศาลเขมรจำคุก นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลกำลังช่วยเหลือมาตั้งแต่ต้นและขณะนี้กำลังดำเนินการและมีการส่งคนเข้าไปดูแล แต่เสียดายว่า ในช่วงต้นการตัดสินใจบางอย่างไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาเองก็พยายามดูผลการเลือกตั้งของไทยอยู่ ถ้าหากรัฐบาลมั่นคง และปชป.ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเรื่องมันก็คงง่าย ยืนยันว่ารัฐบาล ปชป. ไม่ได้ทอดทิ้งทั้ง 2 คนกำลังเร่งช่วยเหลืออยู่
ต่อมาเวลา 08.30 น.นายอภิทธิ์ เดินออกจากสวนลุม ลอดรถไฟฟ้าใต้ดินไปฝั่งถนนสีลม เพื่อสมทบกับคณะกับนายสุเทพ เพื่อเดินหาเสียงตามร้านรวงข้างทางและพนักงานออฟฟิศ ทั้งนี้มีจังหวะหนึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้หยุดยืนหน้าป้ายโหวตโน ซึ่งมีข้อความ “ดีแต่พูด” ซึ่งเป็นรูปควายใส่สูท ถ่ายรูปกับประชาชนทำให้ศีรษะของนายอภิสิทธิ์อยู่กึ่งกลางเขาควายพอดี
เมื่อนายสุเทพมองเห็นจึงรีบดึงตัวออกจุดดังกล่าวเพราะเกรงว่าภาพออกมาจะเป็นหน้านายอภิสิทธิ์ มีเขาคล้ายควาย จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เดินไปถึงเพียงแค่บริเวณบันได้ขึ้นสถานีรถไฟฟ้าศาลแดง ได้รีบขึ้นรถ แลนจ์ โรเวอร์กันกระสุน ป้ายทะเบียน ฌช 8210 กรุงเทพมหานคร ประจำตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ที่นายสุเทพใช้ประจำ หลบออกจากขบวนไปทันที โดยมีรายงานว่านายอภิสิทธิ์ได้แวะไปสักการะองค์ท้าวมหาพรหมแยกราชประสงค์ เป็นการส่วนตัวโดยมีเพียงนายตำรวตคนสนิทติดตามไปด้วยเท่านั้น

ヮヮ

未经允许不得转载:综合资讯 » มาร์ค ไม่รอด ไปสวนลุมฯยังเจอแดงป่วน

赞 (0)
分享到:更多 ()