“ไทม์ส” นำเสนอบทความเกี่ยวกับการเมืองไทย ชี้ประชาธิปไตยไทยผิดรูป เชื่อหลังเลือกตั้งยังวุ่นวาย เนื่องจากเกิดแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายไปแล้ว ระบุการประท้วงแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนต้องการแสดงออกทางการเมืองมากขึ้น …
วันที่ 29 มิ.ย. นิตยสารไทม์สของสหรัฐฯ ฉบับวางแผง 4 ก.ค.2554 นำเสนอบทความเกี่ยวกับการเมืองไทยโดยแอนดรูว์ มาร์แชล ชื่อเรื่อง “เมืองแห่งความสับสน” ระบุการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นใน 3 ก.ค. บ่งบอกถึงความผิดปกติหรือความผิดที่ผิดทางของก้าวย่างประชาธิปไตยไทยซึ่ง ครั้งหนึ่งได้รับการมองว่าเป็นประเทศอนาคตสดใส เป็นผู้บุกเบิกด้านประชาธิปไตยในภูมิภาค
โดยยกกรณีตัวอย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้นำคมช. ก่อปฏิวัติโค่นอำนาจอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 5 ปีก่อน แต่แล้วกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง การที่ พล.อ.สนธิ เปลี่ยนจากผู้นำคณะปฏิวัติมาเป็นผู้กอบกู้ประชาธิปไตย แสดงให้เห็นชัดว่าการเมืองไทยมันผิดรูปผิดร่างอย่างไร
ส่วนการเลือก ตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยนำโดย น.ส.ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับคาดหมายว่าจะชนะเลือกตั้ง โดยมีพรรครัฐบาลประชาธิปัตย์ ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคู่แข่งสำคัญ
ซึ่ง มาร์แชล ระบุว่า มีกองทัพหนุนหลังจนได้เป็นรัฐบาลเมื่อ 2 ปีก่อน และเนื่องจากการเมืองไทย ที่ผ่านปฏิวัติมา 18 ครั้ง จึงเป็นไปได้ที่จะมีปฏิวัติ ครั้งที่19 ถ้าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแล้วตามเล่นงานเอาคืนอดีตคณะปฏิวัติ แม้เหล่าผู้นำกองทัพเพิ่งออกมาปฏิเสธข่าวลือปฏิวัติ แต่สังคมไทยคงอดสงสัยไม่ได้อยู่ดี เพราะเหตุปฏิวัติครั้งก่อนเมื่อปี 2549 พล.อ.สนธิ ยังบอกว่าไม่มีปฏิวัติอย่างแน่นอน แม้กำลังซุ่มวางแผนก่อปฏิวัติอยู่ก็ตาม
บทความนี้ระบุต่อไปว่าไม่ ว่าจะมีปฏิวัติหรือไม่ แต่หลังเลือกตั้งแล้วใช่ว่าสังคมไทยจะสงบสุข เพราะเกิดแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายไปแล้ว ถ้าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจะเผชิญการต่อต้านจากกลุ่มคนเสื้อเหลือง แต่หากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมโดยมีทหารสนับสนุนได้เป็นรัฐบาล ต้องเผชิญการประท้วงจากกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนเมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่การมีเหตุประท้วงตามถนนหลายปี แสดงให้เห็นว่าคนไทยจากทุกภาคส่วนต้องการแสดงออกทางการเมืองมากขึ้น รวมทั้งอยากมีส่วนร่วมและต้องการความโปร่งใสในการบริหารบ้านเมืองมากกว่านี้
『『
未经允许不得转载:综合资讯 » "ไทม์ส" ชี้ประชาธิปไตยไทยผิดรูป หลังเลือกตั้งยังวุ่นวาย