เนวิน
ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “2 รุม 1”
ตามมุกที่ “เจ้าหลักการ” แห่งสำนักประชาธิปัตย์ ยี่ห้อ “ชวน หลีกภัย” ประกาศเองเลยว่า การตั้งรัฐบาลเป็นไปตามหลักเสียงข้างมาก ใครรวมเสียงข้างมากไม่ได้ ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล
โยงต่อเนื่องกับอาการ “อุ้มข้ามพรรค” นายชวนเล่นบทโอ๋นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ออกตัวแจกแจงแทนให้เสร็จสรรพ กรณีที่ “เนวิน” โดนข้อหาทรยศหักหลังพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พลิกขั้วมาร่วมสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ถึงขั้นย้อนด่าสื่อ “ดัดจริต” ที่แกล้งไม่เข้าใจ ปมที่ “เนวิน” ตัดใจสะบั้นกับ “นายใหญ่”
“ชวน” ออกตัวแรง “จัดหนัก” เพื่อ “เนวิน” รับกันพอดีกับคิวที่พรรคภูมิใจไทยประกาศพร้อมร่วมหุ้นกับพรรคประชาธิปัตย์
บวกแต้มกันเพื่อแย่งจัดรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
หงายหน้าไพ่เล่นกันเลย
ตามสถานการณ์ล้อภาพหาเสียง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั่งรถโชเล่ย์ที่ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนขับ ไล่ยังไงก็ไม่ทัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ ร่นระยะเวลาในการเดินสายปราศรัยหาเสียง
แชมป์อันดับหนึ่ง อันดับสอง “ปิดกล่องลงคะแนน” ไปแล้ว
แม้จะเหลือคิวปราศรัยใหญ่นัดส่งท้าย พรรคประชาธิปัตย์ ยึดลานพระบรมรูปทรงม้า โหมตีปี๊บมอตโต “กำหนดอนาคตประเทศไทยใต้ฟ้าเดียวกัน” พร้อมลิงก์สัญญาณไปยัง 10 จุดทั่วประเทศ โดยจะมีแกนนำของแต่ละจังหวัดอยู่ประจำจุด และจะมีการทักทายจากนายอภิสิทธิ์ จากเวทีส่วนกลาง
ขณะที่อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทยก็จอง “อ่างยักษ์” สนามราช-มังคลากีฬาสถาน เป็นฉากให้ “ยิ่งลักษณ์” โชว์กึ๋น เปิด “วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2020”
“ปิดวิก” ประชันกันในช่วงเย็นวันที่ 1 กรกฎาคม
ในอารมณ์ที่เซียนมองข้ามช็อตไปถึงคิวจัดรัฐบาลกันแล้ว ตามกระแส ณ คาบนี้ พรรคเพื่อไทยไต่ระดับอยู่ที่ 250 ที่นั่ง “ในวงเล็บบวก” แนวโน้มเกินครึ่ง
ต่อให้เจอยุทธการ “2 รุม 1” ก็สกัดไม่อยู่
ตามสูตรรัฐบาล “1+2+21+6” ที่ล็อกไว้ที่สมการตัวเลขขั้นต่ำ “250+15+30+5” บวกลบ 10
เป้าหมายแรกอยู่ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ชาร์จแบตฯโทรศัพท์มือถือเต็ม เปิดรอสายไว้ได้เลย ตามด้วยคิวของพรรคชาติ-ไทยพัฒนา ของ “หลงจู๊ใหญ่” นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่จะได้โอกาสรับสายข้ามประเทศจากคนแดนไกล หลังห่างเหินไปนาน
และโควตา “ตั๋วใบสุดท้าย” น่าจะอยู่ที่พรรคพลังชลของ “สนธยา คุณปลื้ม” คงต้องถูกเรียกมาเติมเต็มเป้าหมายที่ “นายใหญ่” วางไว้
ประกันความปึ้กของรัฐบาล ต้องไม่ต่ำกว่า 300 เสียง
ค้ำเก้าอี้ “ยิ่งลักษณ์” นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย
นำเดี่ยวตั้งแต่ออกสตาร์ต จวนถึงเส้นชัยอีกไม่กี่อึดใจ ยังไม่มีอาการ “สะดุด”
ในจังหวะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำเสื้อแดง นปช. ตีปี๊บดักคอกลุ่มคนคิดจะล้มการเลือกตั้งที่ยังมีเชื้ออยู่ ตามสัญญาณการขยับของ “บุรุษคาบไปป์” น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 โยงไปถึงการออกมาของกลุ่มสยามสามัคคี ที่นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา อดีตเลขาธิการสำนักงาน คมช.
แต่ก็ยักท่าไว้ จากการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของขุมกำลังที่พอจะเคลื่อนออกมาทำการปฏิวัติได้นั้น ยังไม่พบความเคลื่อนไหวในรูปแบบที่จะเป็นการออกมาทำปฏิวัติ
แค่พบพฤติการณ์ช่วยเหลือและสนับสนุนพรรคการเมืองบางพรรคในการเลือกตั้งเท่านั้น
ออกลีลา “ตีกัน” ท็อปบูต “ตีกิน” คะแนนต้านรัฐประหารไปพร้อมๆกัน
“ปฏิวัติ” ยังเป็นแค่ “ลมปาก” ที่ขู่กันไปขู่กันมา
ที่แน่ๆล่าสุด นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในประเทศไทยแสดงความน่าเชื่อถือ เป็นธรรม และโปร่งใส ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานในระบอบประชาธิปไตยในประเทศ
เลขาธิการยูเอ็นยังย้ำด้วยว่า การเลือกตั้งที่สงบ ยุติธรรม และโปร่งใส จะนำไปสู่การปรองดองแห่งชาติ โดยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายละเว้นจากการใช้ความรุนแรง ทั้งก่อนการเลือกตั้ง ในระหว่างการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง
และให้ยอมรับและเคารพในเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกมาด้วยการลงคะแนน
ประชาคมโลกจับตา ก็ยิ่งไม่มีใครกล้าทำบุ่มบ่าม
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
☉☉
未经允许不得转载:综合资讯 » รุมยังไงก็เอาไม่อยู่