รัฐบาลที่มีส.ส. มากถึง 300 เสียง โดยเฉพาะพรรคแกนนำพรรคเดียวก็มี ส.ส. อยู่ในมือเกินครึ่ง ถึง 265 เสียง อย่างเพื่อไทย ถึงกับกระอักกระอ่วนทันที ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มเข้าบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นทางการ เมื่อถูกทั้งลูกพรรค พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งบีบ กดดัน แย่งชิง ตำแหน่ง ครม. ในรัฐบาล ปู 1 ถึงขั้น ส.ส.ในพรรค หักหน้าว่าที่นายกรัฐนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ ด้วยการบินไป ฮ่องกง, ดูไบ เพื่อพบกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย น.ส. ยิ่งลักษณ์ ท่ามกลางกระแสข่าว ล็อบบี้ขอตำแหน่งใน ครม.
ร้อนถึง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาสยบข่าวทำนองว่า อำนาจการตั้งครม.ทั้งหมด อยู่ที่ตนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่ทราบว่าสังคมจะเชื่อถือหรือไม่เพียงใด เพราะภาพที่ออกมายอมรับว่าทำให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เสียรังวัดไปไม่น้อย เอาเข้าจริง ตำแหน่งในครม.ชุดใหม่ ก็กลับแต่งตั้งได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิดกันไว้ในตอนแรก โดยเฉพาะ 2 ตำแหน่งสำคัญ อย่าง รมว.กลาโหม และ รมว. ต่างประเทศ ที่จนถึงป่านนี้แล้ว แม้แต่โผรายชื่อ ก็ยังไม่ทราบว่า ใครจะมาเป็น
จนมีกระแสข่าวจากในพรรคเพื่อไทย ว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ อาจตัดสินใจนั่งควบเก้าอี้เอง ซึ่งเท่าที่ติดตามดูแล้วก็คงเป็นไปได้ยาก ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โผรายชื่อมีตั้งแต่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ไปจนถึง พล.อ.มงคล อำพรพิศิษฐ์ และพล.อ.สมทัต อัตตนันท์ ที่แน่ๆ บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง ต้องมาจากทหาร ล่าสุด พล.อ.ประวิตร มีภาษีที่สุด ส่วนตำแหน่ง รมว. ต่างประเทศของรัฐบาล ปู 1 หนักยิ่งกว่า เพราะตั้งแต่ปรากฏข่าวการฟอร์มคณะรัฐมนตรี หลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ยังไม่ปรากฏรายชื่อ แคนดิเดต รมว.กระทรวงการต่างประเทศ หลุดออกมาเลยแม้แต่รายเดียวว่า จะมีการทาบทามบุคคลใดมาเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งดังกล่าว ทั้งที่ถือเป็นกระทรวงสำคัญ เพราะผู้ที่จะมาคุมบังเหียนคนต่อไป จะต้องสามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับ อธิปไตยของชาติ ในพื้นที่ทับซ้อน4.6 ตร.กม. ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งศาลโลกกำลังจะมีคำสั่งให้ไทยจะต้องถอนทหารจากพื้นที่พิพากบริเวณเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ตามที่กัมพูชาร้องขอหรือไม่ในวันที่ 18 ก.ค. ที่จะถึงนี้
ไม่นับตำแหน่งอื่นๆ อย่าง นาย สันติ พร้อมพัฒน์ ที่มีชื่อจะได้เป็น รมว. คมนาคม ต้องคิดหนัก เพราะอาจ อกหักได้ เนื่องจากมีแหล่งข่าววงในชี้ ว่า นายสันติ มีปัญหาแน่ ถ้า นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล (เฮียเพ้ง) คนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช้กำลังภายในดันช่วยอดีตลูกน้อง ให้นายใหญ่ที่ดูไบ เปิดไฟเขียวให้ ไม่ดันไม่เป็นไร กลัวจะเตะตัดขากันเองซะมากกว่า เพราะมาระยะหลัง นายสันติ กับ เฮียเพ้ง มีข่าวว่า ขัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ประกอบกับเฮียเพ้งสนิทสนม กับพ.ต.ท. ทักษิณเป็นอย่างมาก เพราะเห็นไปเข้าๆ ออกๆ บ้าน อยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา ให้กับนายใหญ่ที่ดูไบ ยามทุกข์ใจกลับเมืองไทยไม่ได้มาตลอด ดังนั้นคำพูดนายพงษ์ศักดิ์ น่าจะมีน้ำหนักต่อพ.ต.ท.ทักษิณไม่น้อย
ขณะที่ ครม.ในตำแหน่งอื่นๆ ก็ยังไม่ลงตัว ถึงแม้ นส.ยิ่งลักษณ์ จะออกมาชี้ว่า น่าจะเรียบร้อยภายใน 2สัปดาห์นับจากนี้ ทั้ง รมว.มหาดไทย ที่ตอนแรกเป็นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ตอนหลังกลับมีชื่อนายเสนาะ เทียนทอง ผู้เฒ่าวังน้ำเย็นจะมาแทน ตำแหน่ง รมว.พลังงานที่พรรคร่วมรัฐบาลอย่างชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินขอไว้ แต่เพื่อไทยจะขอดึงไว้บริหารเอง โดยแลกกับโควต้า รมว.อุตสาหกรรม ยังไม่นับ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่แย่งกันระหว่าง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ซึ่งรายหลังมีภาษีดีกว่า
นี่เป็นเพียงหนังตัวอย่างปัญหาการแต่งตั้งในครม.ยิ่งลักษณ์ 1 เท่านั้น แต่ของจริงเชื่อว่าคนในสังคม ก็ทราบดีและไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สุดท้ายผู้ที่สามารถเคาะรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทย คงหนีไม่พ้นมหาเศรษฐีแสนล้านที่อยู่แดนไกล ซึ่งถือเป็น นายใหญ่ของทั้งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง(นปช.) อย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกันได้หรือไม่เท่านั้น ไม่เช่นนั้น”พญามังกร”อย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา คงไม่ลงทุนบินไปบรูไนด้วยตัวเองเพื่อไปถามทุกข์-สุขและกินข้าวต้มกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นแน่…
ぱぱ
未经允许不得转载:综合资讯 » โผ ครม. ‘กต.-กห.’ ของร้อน รัฐบาลปู 1