综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

หัวหน้า-เลขาฯ ไม่เป็นคนใต้ ปชป.จะถูกทิ้ง

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล เบรกแตก ซัดแพ้เลือกตั้งเพราะไม่ฟังเสียงเตือน ชง “คุณหญิงกัลยา” นั่งเลขาฯ ปชป. เตือนหัวหน้าและเลขาธิการพรรคไม่ใช้คนใต้ ระวังจะถูกคนปักษ์ใต้ทิ้ง…
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ออกมาระบุขอให้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงองค์กรภายในพรรคประชาธิปัตย์ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อสามเดือนที่แล้ว เคยมีคนออกมาเตือนแล้วใช่หรือไม่ว่า ขอให้มีการคิดให้ดี โดยเฉพาะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส.เขต 160 เขต และระบบบัญชีรายชื่อ 45 คน
แต่ก็กลับมีคนออกมาบอกว่า ขอให้ไปตัดข่าวนี้แปะข้างฝา และรอเอาปี๊บคลุมหัวไว้เลย เพราะมั่นใจในตัวเลข 200 ส.ส. เพราะมัวแต่ไปหลงกับข้อมูลของโพล ที่ไปจ้างฝรั่งมาทำกับคนรอบข้าง ถ้าฟังเสียงเตือนกันบ้างของคนในพรรคก็คงไม่มีวัน ที่แพ้เลือกตั้งถึงขนาดนี้
นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ตนเป็นคนเสนอให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้เป็นเลขาธิการพรรคคนต่อไปนั้น ก็เป็นสิทธิของตน ที่เป็นสมาชิกพรรคที่จะเสนอ ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะเป็นนายอภิสิทธิ์หรือใครก็ได้ แต่ขอร้องว่าในการคัดเลือกตัวเลขาธิการพรรค อย่าทำกันแบบที่ผ่านๆ มา คือ หัวหน้าพรรคเป็นผู้เสนอบุคคล ที่จะขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค 2-3 คน แต่ในข้อเท็จจริงมีการล็อกตัวของคนที่จะเป็นไว้ก่อนแล้วว่า เขาจะให้ใครเป็น และคนที่ถูกเสนอชื่ออีก 2 คน ก็ประกาศขอถอนตัว ไม่รับการชิงตำแหน่ง มันก็จะเหลือคนที่ล็อกไว้แล้ว และก็ถือว่าเป็นยอมรับไปโดยปริยาย เขาก็อ้างว่าเป็นมติเอกฉันท์ของที่ประชุม ซึ่งวิธีการเช่นนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะมันไม่ใช่กระบวนการของประชาธิปไตย แต่ควรจะทำเปิดเผยให้ถูกต้องเป็นธรรม
เพราะวันนี้ทั้งผู้ใหญ่ในพรรค ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค และประธานหรือกรรมการสาขาพรรคทั่วประเทศ ต่างเห็นว่าคุณหญิงกัลยา มีความเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ เพราะมีประสบการณ์สามารถประสานงานได้ ทั้งในพรรคและนอกพรรค มีความปรองดองกับทุกฝ่าย ทั้งในพรรคและนอกพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาเปิดประเด็นเช่นนี้ จะส่งผลเป็นแรงกระเพื่อมภายในพรรคหรือไม่ นายพิเชษฐ ตอบว่า ไม่ใช่แรงกระเพื่อม แต่เป็นการพูดความจริง เพราะวันนี้ตนรำคาญผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ส.ส.พรรคหลายคนมีแต่โทรศัพท์มาพูด มาซุบซิบว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองค์กรในพรรค เพื่อให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่พรรคเราถดถอยลง แต่กลับไม่มีใครกล้าออกมาพูดความจริง มีแต่การปรับทุกข์กันเอง ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหา และขณะนี้มันลามไปยังสาขาพรรคทั่วประเทศแล้ว
“ผมขอเตือนให้ระวังว่า ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 50 เสียง คนใต้เป็นคนเลือกเข้ามาเกือบครึ่งหนึ่งของ ส.ส.ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ใช่คนใต้ เลขาธิการพรรคก็ไม่ใช่คนใต้อีก ถ้าวันไหนคนภาคใต้ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมา มันก็จบดังนั้นขอให้ฟังเสียงของคนที่เลือกเราเข้ามาด้วย สำหรับคุณหญิงกัลยา ตนเห็นว่าคนภาคใต้ให้การยอมรับท่าน อย่างภาคใต้ที่ จ.กระบี่ มีบัตรเสียจำนวนมาก และไม่ใช่การขีดกาคะแนนผิดช่อง แต่เป็นเพราะชาวบ้านเขาไม่เห็นด้วยกับการโหวตโน และก็ไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่เขาเขียนด่าจำนวนมาก เพราะไม่พอใจพรรค” นายพิเชษฐ กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ที่นายพิเชษฐให้ข่าวโดยระบุว่า “คงไม่มีการบอนไซกันภายในพรรคประชาธิปัตย์” หมายถึงอะไร นายพิเชษฐ กล่าวว่า เมื่อสองวันก่อนมี นสพ.ฉบับหนึ่งลงข่าวว่า พรรคการเมืองอื่นเขาถูกตัดสิทธิทางการเมือง ทั้งบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 แต่ในพรรคประชาธิปัตย์เองมีผู้ใหญ่ ผู้อาวุโสของพรรคถูกบอนไซ ถูกใครก็ไม่รู้ขังไว้ที่บ้านเลขที่ 67 ถนนเศรษฐศิริ ด้วยข้อหาอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่มันไม่มีใครมาทำเรา แต่เราทำกันเองในพรรค ขอถามว่าการปรับ ครม.ครั้งหลังสุด ที่คุณหญิงกัลยา ถูกปรับออก หรือนายไพฑูรย์ แก้วทอง ถูกปรับออกจาก รมว.แรงงาน ท่านทำผิดอะไร หรือให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ถูกปลอดออกเพราะแก่เท่านั้นหรือ สิ่งที่ตนออกมาพูดเป็นการสะท้อนข้อเท็จจริง ที่คนส่วนใหญ่ในพรรคซุบซิบกัน และคนอย่างตนก็ไม่ใช่บอนไซ ที่ผ่านมามีทั้งจดหมายและโทรศัพท์มาที่พรรคถามว่า ผู้ใหญ่ในพรรคหายไปไหน นายชวน หรือคนอื่นๆ หายไปไหน ไม่มีใครตอบ
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เกรงว่าจะมีการล็อกตัวไว้เช่นเดียวกันหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่คนที่จะมาเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องเป็นคนที่มีอิสระ ไม่ใช่เป็นตรายางเพียงแค่ให้ผ่านพิธีกรรมให้ถูกต้อง ที่สุดมันก็จะฉุดให้พรรคตกต่ำ เหมือนกรณีตัวอย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากเขตใหญ่เรียงเบอร์ มาเป็นเขตเดียวเบอร์เดียว ทั้งที่มติของการประชุม ส.ส.พรรคออกมา 82 เสียงต่อ 48 เสียง แต่ในที่สุดเขาก็ไปทำกัน ไปแก้กันจนได้ ทำไปตามเป้าที่เขาตั้งไว้จนสำเร็จ พอเลือกตั้งออกมาก็สอบตกกันระนาวอย่างที่เห็น
เมื่อถามย้ำว่า สาเหตุสำคัญที่พ่ายแพ้เลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเพราะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กำหนดยุทธศาสตร์ผิดพลาดหรือไม่ นายพิเชษฐ ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าใครเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ แต่ที่ออกมาพูด ก็หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคที่ดีขึ้น ไม่ใช่คนมีอำนาจจะรับฟังเสียงของคนแค่เพียง 6-7 คน แต่ขอให้ฟังเสียงคนอื่นๆ ในพรรคบ้าง จนคนข้างนอกยังรู้ว่ามีแก๊งออฟโฟว์ ออฟไฟว์ กันแล้ว เพราะข้อบกพร่องของพรรคประชาธิปัตย์คือ คนในพรรคต่างรู้ปัญหาว่าอะไรถูก ผิด แต่กลับไม่กล้าออกมาพูดแม้แต่ปริปาก ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาวิกฤติ มีปัญหาเกิดขึ้น ต้องกล้าออกมาพูดความจริง ไม่ใช่มัวแต่ปรับทุกข์กันเอง มันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

←←

未经允许不得转载:综合资讯 » หัวหน้า-เลขาฯ ไม่เป็นคนใต้ ปชป.จะถูกทิ้ง

赞 (0)
分享到:更多 ()