ยิ่งลักษณ์ (ภาพ Reuters)
ประกาศผู้โชคดีทางบ้านรายแรก จากการเปิดเผยของ “เจ๊สด” นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุที่ประชุม กกต.ลงมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากให้แจกใบเหลืองนายสมคิด บาลไธสง ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 31 กรกฎาคม
เพราะมีการกระทำอันควรเชื่อได้ว่า มีการแจกเงิน ขนคนไปฟังการปราศรัย
ไม่พลิกล็อก ไม่ผิดจากที่หลายฝ่ายแทงหวยล่วงหน้ากันไว้ คนของพรรคเพื่อไทยเสี่ยงโดนแจ็กพอตสูงกว่าค่ายไหน จากสถานภาพที่มีภูมิคุ้มกันใบเหลือง ใบแดง น้อยกว่ายี่ห้ออื่น
และก็ถือเป็นจังหวะอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่อง หลัง กกต.สั่งแขวนชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคเพื่อไทย ด้วยปมเหตุที่ยังมีเรื่องร้องเรียนกรณีปล่อยคนโดนตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการหาเสียง และประเด็นมอตโต้ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”
“ตามคิวพิเศษ” เป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา กกต.ไม่ประกาศรับรอง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
โดยปรากฏการณ์ที่กระตุกต่อมระแวงให้รู้สึกถึงความผิดปกติวิสัย ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องชิงแก้เหลี่ยมด้วยการยื่นเรื่องให้ กกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย โยงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จัดงานธงฟ้าขายสินค้าราคาถูกระหว่างหาเสียงเข้าข่ายจูงใจให้ได้คะแนน
เตะค้าง ดักทาง “สองมาตรฐาน”
และก่อนอื่นเลย พรรคเพื่อไทยต้องรีบ “แตะเบรก” หลังกระแสไหลเตลิดไกลไปถึงการวางตัวนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไว้เสียบเป็นมวยแทน กรณีที่ กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.ครบร้อยละ 95 เปิดประชุมสภาโหวตเลือกนายก- รัฐมนตรีได้ แต่ไม่มีชื่อของ “ยิ่งลักษณ์” อยู่ในโพย
ตามฉากที่เจ้าตัวนายยงยุทธเอง ต้องแท็กทีมกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงยืนกรานเสียงแข็ง คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค
ซึ่งมีความหมายชัดเจนว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็จะเป็นนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ระหว่างการรณรงค์หาเสียงของพรรค ได้ชูใน 3 ประเด็นคือ 1. ตัวตนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2. นโยบายของพรรค และ 3. การเสนอให้ประชาชนลองพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงเป็นครั้งแรก และเมื่อประชาชนให้การตอบรับโดยเลือก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเข้ามาถึง 265 คน รวมทั้งมีพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาเพิ่มอีกเป็น 300 คน แสดงให้เห็นว่าทุกคนเห็นด้วยในตัวตนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ตบท้าย “ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง” กรณีที่มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์และคณะกรรมการนโยบายของพรรคเพื่อไทยมีแผนสำรองหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีการประชุมดังกล่าว และพรรคเพื่อไทยไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่นนอกจากเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ
และไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยที่ยืนยันชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ในส่วนว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลเองก็ช่วยประคองเกม ตามคิวที่ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานกุนซือพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ออกตัวล้อฟรี บอกปัดสถานะนายกรัฐมนตรีปรองดอง เบียดเข้าวินแทน
“ไม่มีหรอก ลืมไปได้แล้ว เสธ.หนั่น ลืมไปเถอะ ไม่มีหรอกอุบัติเหตุ ลืม เสธ.หนั่นไปได้แล้ว มีแค่ 19 เสียง ถึงจะเคยมีประวัติศาสตร์ที่พรรค 10 เสียง สามารถเป็นนายกฯได้ แต่มันเป็นอดีตที่หวนกลับไม่ได้แล้ว ผ่านไปแล้ว”
“ตอกหมุด” ยึดชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ให้แกว่งตามกระแส
ที่แน่ๆเลย กรณี กกต.แขวน “ยิ่งลักษณ์” น่าจะไม่มีผลต่อนานาชาติ ตามคิวที่คณะทูตประเทศต่างๆ อาทิ อินเดีย แคนาดา กลุ่มประเทศแอฟริกา ยังทยอยเข้าพบแสดงความยินดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย
โดยเฉพาะไฮไลต์อยู่ที่รายของเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย ได้ตั้งข้อสังเกตทิ้งทุ่นไว้ด้วยว่า กกต.ของอินเดียไม่มีอำนาจมากเท่ากับ กกต.ของประเทศไทย เนื่องจากถ้ามีการร้องเรียนหลังเลือกตั้ง ที่อินเดียจะไปร้องกันที่ศาล แต่รู้สึกประเทศไทยเป็นที่เดียวในโลกที่ กกต.มีการสอบสวนเรื่องร้องเรียนหลังเลือกตั้ง
อาจทำให้เกิดช่องว่างในช่วงรอยต่อ ตลอดจนถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ทักเป็นนัย เหมือนรู้เงื่อนไขการเมืองแบบไทยๆว่าอะไรเป็นอะไร.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
∏∏
未经允许不得转载:综合资讯 » "ปักหมุด" ชื่อ "ยิ่งลักษณ์"