“อภิสิทธิ์” เผยบริษัทเยอรมัน ยื่นข้อมูลเก่าค้าน ถอนอายัดเครื่องบินส่วนพระองค์ สั่งอธิบดีหอบเอกสารยัน ทะเบียนไม่ใช่ของกองทัพอากาศ เล็งหามาตรการตอบโต้บริษัทคู่กรณี ย้ำไม่กระทบความสัมพันธ์ไทย-เยอรมัน…
เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลเยอรมัน ยังไม่ตัดสินคดีที่ทางการไทย ขอให้เพิกถอนการอายัดเครื่องบินโบอิ้งส่วนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค. หลังจากที่เรายื่นเรื่องให้ศาลเพิกถอนการอายัด ที่เดิมคิดว่าศาลจะสามารถตัดสินได้เลย แต่ปรากฏว่า ฝ่ ายบริษัทของเยอรมันได้ไปยื่นเอกสารคัดค้าน ทำให้ศาลต้องพิจารณาเอกสารต่างๆ และนัดพิจารณาตัดสินในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค. อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดของเราได้ไปประจำอยู่ที่เยอรมันแล้ว และวันนี้ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมขนส่งทางอากาศ เดินทางไปสมทบ เพื่อดูเอกสารของฝ่ายบริษัทเยอรมันที่ยื่นคัดค้าน เพื่อจะได้หักล้างกัน เข้าใจว่าเป็นการยื่นเอกสารข้อมูลเก่า ในช่วงที่เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกองทัพอากาศ ซึ่งยังคาดว่าวันที่ 18 ก.ค. ศาลจะสามารถที่จะตัดสินได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทางการเยอรมัน ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น บังเอิญเป็นเรื่องเอกชน และศาลทางการเขาไม่อาจก้าวล่วงได้ ขณะเดียวกันได้มีการช่วยอำนวยความสะดวกประสานงาน กับนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศตลอด ซึ่งพบกับ รมว.ต่างประเทศของเยอรมันแล้ว รัฐบาลดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะเรื่องนี้เป็นการปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศไทยด้วย ในแก้ไขปัญา สิ่งที่เขาดำเนินการไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ซึ่งตนยืนยันว่าคดียังไม่ถึงที่สุด และถ้าคดีถึงที่สุดเมื่อไหร่ประเทศไทยปฏิบัติตามคำพิพากษาอยู่แล้ว รัฐบาลไทยประเทศไทยไม่ได้หายไปไหน หรือหนีไปไหน ไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งสิ้นเลย ที่จะต้องมาดำเนินการในลักษณะนี้
เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจในหลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราได้แสดงชัดเจนว่า ทะเบียนเครื่องบินที่เป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ซึ่งไม่น่าจะมีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแต่ว่าบริษัทไปเอาข้อมูลจากเว็บไซด์ที่มีรายชื่อเครื่องบินต่างๆ และอ้างว่าเครื่องบินลำดังกล่าว เป็นเครื่องของกองทัพอากาศ ซึ่งน่าจะเป็นข้อมูล เก่า
ต่อข้อถามว่า นายกฯกังวลเรื่องจะกระทบความสัมพันธ์ไทย-เยอรมันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้มีความชัดเจนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของเอกชน และรัฐบาลเยอรมันไม่สามารถไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้ แต่ได้แสดงท่าทีออกแถลงการณ์ และได้ประสานงานกับรัฐบาลไทยตลอด ไม่มีเหตุผลใดที่จะมากระทบกับความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เอกชนรายดังกล่าว เป็นอีกเรื่องหนึ่งเราต้องมาพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง กับการที่มาดำเนินการเรื่องนี้ เพราะศาลตัดสินเมื่อวันที่ 12 ก.ค. โดยไม่ได้ไต่สวนเป็นลักษณะคำขอเร่งด่วน และเราเพิ่งยื่นเอกสารเพิกถอนไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค. แต่ทางบริษัทเพิ่งยื่นเอกสารก่อนศาลนัด 2 ชั่วโมง ทำให้ศาลต้องอ่านเอกสารของบริษัท เลยต้องเลื่อนไปตัดสินวันที่ 18 ก.ค.
ぷぷ
未经允许不得转载:综合资讯 » ‘มาร์ค’เล็งโต้กลับ บ.เยอรมัน ย้ำไม่กระทบสัมพันธ์