综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

‘ขาเทียมสาธารณกุศล’เฉลิมพระเกียรติ สื่อสัมพันธ์ชิดใกล้ไทย-จีน

จากที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา โมช นายกรัฐมนตรีของไทย และนายโจว เอินไหล นายกรัฐมนตรีของจีนได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน จวบจนปัจจุบันรวมเป็นระยะเวลา 36 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีนได้แผ่ขยายเป็นวงกว้างอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากความร่วมมือระดับรัฐบาล สู่ระดับประชาชนผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปมาหาสู่กันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายสำหรับชาวจีน

หลากหลายโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและจีนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประสานความร่วมมือในด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ฯลฯ ล้วนเป็นสื่อที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ และล่าสุดเมื่อวันที่ 14-19 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่นครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทาง รศ.นพ.เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิ ขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนีก็ได้นำคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิขาเทียมจำนวน 30 คน โดยการประสานงานกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว เดินทางมาให้บริการทำขาเทียมแก่ผู้พิการขาขาดชาวกวางตุ้งเป็นครั้งแรก โดยมีฝ่ายจีน ได้แก่ มูลนิธิการกุศลมณฑลกวางตุ้ง และศูนย์ขาเทียมมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นหน่วยงานฝ่ายจีนร่วมมืออยู่ที่ปลายทาง หลังจากที่ได้เดินทางไปดูงานการทำขาเทียมที่ประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการฉลองโอกาสการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนครบ 3 รอบแล้ว สำหรับประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อีกด้วย

สำหรับผู้พิการขาขาดชาวจีนที่เข้ารับบริการในโครงการครั้งนี้มีทั้งสิ้น 56 รายโดยได้รับการคัดเลือกมาจากผู้ที่ลงทะเบียนไว้กับศูนย์ขาเทียมมณฑลกวางตุ้งจาก 5 เมืองสำคัญของมณฑล (กว่างโจว ตงก่วน จ้านเจียง เม่าหมิง และเสากวน) บางรายที่มาเข้ารับบริการยังใช้ขาเทียมที่ประดิษฐ์เองจากวัสดุที่แต่ละแห่งจะหาได้ อย่างไม้ไผ่ซึ่งขาดความคงทนและไม่ทนต่อสภาพเปียกชื้น

นายไช่ ฉวิน ผู้อำนวยการศูนย์ขาเทียมมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า มณฑลกวางตุ้ง ยังมีประชากรที่มีรายได้ต่อปี ต่ำกว่ามาตรฐานกว่า 2 ล้านคน และมีผู้พิการที่ต้องการขาเทียมไม่ต่ำกว่า 250,000 คน โดยตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งได้เริ่มโครง การให้บริการขาเทียมฟรีแก่ผู้พิการ โดยรัฐจะออกค่าใช้จ่ายทั้งค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร และค่าเดินทางให้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือให้คนเดินได้แล้วกว่า 3,130 คน อย่างไรก็ดี การทำขาเทียมในแบบของมณฑลกวางตุ้งที่นำเทคโนโลยีของเยอรมนีมาใช้ ใช้เวลาตั้งแต่ 20 วันถึง 1 เดือนสำหรับการทำขาเทียมให้คนพิการ 1 คน รวมเวลาเตรียมความพร้อมให้คนพิการหัดเดิน และมีมูลค่าของค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 4,000-30,000 หยวนหรือประมาณ 20,000-150,000 บาท นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากและแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้มีรายได้ต่ำ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ด้าน รศ.นพ.เทอดชัย กล่าวว่า การเดินทางมาให้บริการขาเทียมของมูลนิธิขาเทียมฯ ในครั้งนี้จึงนับเป็นสาธารณกุศลระหว่างประเทศในความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนอย่างแท้จริง เนื่องจากเทคนิคการทำขาเทียมของมูลนิธิขาเทียมฯ ได้ประยุกต์วิธีการทำเบ้าขาจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเปลี่ยนวัสดุที่ใช้หล่อจากปูนปลาสเตอร์เป็นทรายและเม็ดโฟม หรือที่เรียกว่า แซนด์ แคส ติ้ง (Sand Casting) เพื่อร่นระยะเวลาการผลิตให้สั้นลง มีราคาถูกแถมน้ำหนักเบา หากเป็นการผลิตขาเทียมต่ำกว่าเข่าจะใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง ในราคาข้างละ 2,500 บาท และขาเทียมเหนือเข่าใช้เวลา 2 วัน ในราคาข้างละ 10,000 บาท ขาเทียมที่นำมามอบครั้งนี้ จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้พิการขาดีขึ้น สามารถพึ่งตนเองและประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ในระหว่างการทำขาเทียม ฝ่ายจีนได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจจริงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่มุ่งมั่นทำขาเทียมให้ผู้พิการชาวกวางตุ้งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางวัน เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานกันดึกดื่นถึงตีสองตีสาม เพราะแต่ละเคสที่ฝ่ายจีนได้คัดเลือกให้มารับบริการจากฝ่ายไทยนั้น ล้วนแต่เป็นเคสที่ท้าทายทั้งสิ้น แถมยังมีอุปสรรคของภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร แต่ก็โชคดีที่เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการทำขาเทียมของฝ่ายไทยบางท่านเป็นผู้มีความพิการขา ทำให้มีความเข้าใจในธรรมชาติของผู้พิการด้วยกัน อีกทั้ง ยังได้น้อง ๆ อาสาสมัครคนไทยจากวิทยาลัยแพทย์ของมหาวิทยาลัยซุนยัด เซ็น มาช่วยเป็นล่าม ทำให้การทำงานทั้งหมดเสร็จสิ้นเรียบร้อยตามเป้าหมายที่ฝ่ายไทยและฝ่ายจีนตั้งไว้

รศ.นพ.เทอดชัย กล่าวรายงานในวันแห่งพิธีมอบขาเทียมที่มี พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรีในฐานะที่ปรึกษามูลนิธิขาเทียมฯ เป็นประธาน มีนายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง นายพิษณุ สุวรรณะชฎ กงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว เป็นผู้แทนฝ่ายไทย และนายเฉิน หมิงเต๋อ รองนายกเทศมนตรีนครกว่างโจวเป็นผู้แทนฝ่ายจีน ว่า คนพิการที่ได้รับขาเทียมทุกคนสามารถเดินได้ดีและมีความพอใจ โครงการสาธารณกุศลในครั้งนี้ นอกจากประเทศไทยจะให้บริการขาเทียมราคาประหยัดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแล้ว มูลนิธิขาเทียมฯ ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจมอบเครื่องมือทำขาเทียมครบชุด จำนวน 4 ชุด มูลค่า 2.55 ล้านบาท พร้อมเทคโนโลยีการทำขาเทียมให้แก่ศูนย์ขาเทียมมณฑลกวางตุ้ง เพื่อต่อยอดใช้ในการช่วยเหลือผู้พิการในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป อีกทั้ง ยินดีให้การฝึกอบรมเทคนิคการทำขาเทียมให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนด้วย
เปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา เอกอัคร ราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวระหว่างพิธีมอบขาเทียมว่า การดำเนินงานการกุศลระหว่างประเทศในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากความสัมพันธ์ฉันมิตรที่ลึกซึ้งและใกล้ชิดอย่างที่ประเทศไทยและจีนมีให้แก่กัน เป็นบทสรุปที่ดีสำหรับความสำเร็จของโครงการในครั้งนี้ และแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในแง่เศรษฐกิจไปแล้ว แต่ก็มิได้หมายความว่าประเทศไทยจะลดบทบาทความสำคัญลงในสายตาของจีน หากแต่ไทยยังสามารถสร้างหุ้นส่วนความสัมพันธ์กับจีนที่ยั่งยืนโดยการเสาะแสวงหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศร่วมกัน

เรียกได้ว่า…แม้โลกจะมีวิวัฒนา การก้าวไกลไปเพียงใดแต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยก็จะยังคงลึกซึ้ง และสนิทแนบแน่นไม่มีวันเสื่อมคลาย.
ความเป็นมามูลนิธิขาเทียมฯ
มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชทานกำเนิดโดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อปี พ.ศ. 2535 เมื่อทรงทราบว่า รศ.นพ.เทอดชัย ชีวะเกตุ สามารถประดิษฐ์ขาเทียมที่มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย จากขยะพลาสติกและมีราคาถูกกว่าขาเทียมต่างประเทศที่ผลิตในประเทศไทยถึง 10 เท่า ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมขึ้นเพื่อทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดที่ยากไร้ ด้อยโอกาสโดยไม่คิดมูลค่าและไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา

มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้รับการจดทะเบียน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2535 โดย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานกิตติมศักดิ์และทรงโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นองค์ประธาน ทั้งสองพระองค์ พระราชทานทุนทรัพย์ประเดิมในการจัดตั้งมูลนิธิฯ จำนวนหนึ่งทำให้มูลนิธิฯ สามารถให้บริการจัดทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานของมูลนิธิขาเทียมฯ เพื่อสืบทอดพระราชกรณียกิจต่อจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา.
สถิติการให้บริการ ตั้งแต่ พ.ศ 2535-ปัจจุบัน การออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่
จำนวนครั้งของการออกหน่วย 115 ครั้ง
จำนวนจังหวัดที่ออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทาน 55 จังหวัด
จำนวนคนพิการที่ได้รับบริการ 16,152 คน
จำนวนขาที่ให้บริการทำใหม่ 19,485 ขา
ให้การซ่อมแซมขาเทียมให้ใช้การได้ดี 2,666 ขา
รวมจำนวนขาที่ให้บริการ 22,151 ขา
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการฉลองโอกาสการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนครบ 3 รอบแล้ว สำหรับประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อีกด้วย”
ทีมวาไรตี้

ZZ

未经允许不得转载:综合资讯 » ‘ขาเทียมสาธารณกุศล’เฉลิมพระเกียรติ สื่อสัมพันธ์ชิดใกล้ไทย-จีน

赞 (0)
分享到:更多 ()