综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 国际新闻 > 正文

普里维希神庙是一部长的电影却找不到结尾

普里维希神庙是一部长的电影却找不到结尾




ยังถกเถียงกันไม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ปมปราสาทเขาพระวิหาร กลายเป็นหนังยาว เมื่อไทย-กัมพูชา ต่างประกาศชัยชนะ หลังจบการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ล่าสุดรัฐบาลจัดดีเบตกับเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เพื่อหาข้อยุติหวังไม่ม็อบเคลื่อนไหว สุดท้ายสรุปได้แค่เปิดเวทีภาคประชาชน

ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญอย่าง ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดย ศ.ดร.อดุล เปิดเผยว่า จากการที่ศึกษาเอ็มโอยู 43 เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ถือเป็นความสัมพันธ์แบบทวิภาคี ไทยจึงสามารถที่จะยกเลิกเอ็มโอยูได้ และสนับสนุนให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร และไม่มีผลผูกพันใดๆ หากยกเลิกไปแล้ว จะทำให้ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทยได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับไทยเราที่จะต้องดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการรุกล้ำเข้ามาอีก โดยมองว่าที่ผ่านมาควรที่จะมีการหยุดยั้งเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว ส่วนที่จะทำให้เกิดสงครามนั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่บริเวณชายแดนอาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้างซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับปัญหาเรื่องเขตแดนบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร  เห็นว่ายังเป็นนัยที่สำคัญอยู่  เพราะการใช้แผนที่ของฝรั่งเศส ด้วยมาตรา 1:200,000 จะทำให้กัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทย

普里维希神庙是一部长的电影却找不到结尾

นอกจากนี้ ศ.ดร.อดุล ยังกล่าวถึงที่มาของเอ็มโอยู 43 ว่า ในช่วงปี 2543 รัฐบาลได้มีการเอาสนธิสัญญากับประวัติศาสตร์ของทางกัมพูชา มาเก็บรวบรวมและบันทึกไว้เป็นข้อความในอดีต เพราะมองว่าหากเราปล่อยให้เรื่องต่างๆ เกิดขึ้นจากการเล่าความเป็นมา โดยมีกัมพูชาเป็นผู้รับช่วงจากฝรั่งเศส ยิ่งจะทำให้กัมพูชาได้เปรียบเรามากขึ้น เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้เปรียบไทยมาโดยตลอด จึงเป็นที่มาว่าไทยจึงเสียเปรียบกัมพูชาถึงปัจจุบัน เพราะมองว่าเราไม่ควรยึดแผนที่ดังกล่าว จึงจัดทำเอ็มโอยู 43 ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเห็นว่า ขณะนี้ไทยจึงไม่ควรที่จะเอาเอ็มโอยูดังกล่าวมาใช้ แต่ควรที่จะตั้งต้นกันใหม่เพื่อที่จะต้องรักษาประโยชน์ของเรา

"สำหรับการประกาศว่าไทยได้รับชัยชนะจากการเซ็นร่างเอกสาร 5 ข้อ ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 34 ที่ประเทศบราซิลนั้น มองว่าเป็นการเบี่ยงเบนและไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ เพราะจากร่างเอกสารข้อที่ 4 แสดงให้เห็นว่า ความจริงกัมพูชาได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้เกมได้เดินหน้าด้วยการให้กัมพูชาตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ที่ประกอบด้วย 7 ประเทศ เพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำกัมพูชาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ที่จะเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยของไทยเรา เห็นได้ว่าเรื่องดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้น โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงปีหน้าแต่อย่างใด เพราะการเซ็นร่างเอกสารดังกล่าว ทำให้ไทยเสียเปรียบทางกัมพูชา"

ส่วนมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ศ.ดร.อดุล เสนอว่า ไทยจะต้องรักษาพื้นที่อธิปไตยเอาไว้ให้ได้ โดยการป้องกันไม่ให้ใครบุกเข้ามาในพื้นที่ได้อีก โดยเฉพาะการไปตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณรอบปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งตรงนี้ต้องยึดหลักที่ว่า กัมพูชาจะครอบครองได้แค่ตัวปราสาทเท่านั้นที่เป็นของกัมพูชา ส่วนพื้นที่ทั้งหมดที่อยู่ในแนวสันปันน้ำก็เป็นพื้นที่ของไทย และห้ามใครกัมพูชามาใช้พื้นที่ของเรา และการเป็นกรรมการมรดกโลกควรที่ต้องลาออก และถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิก เพราะที่ผ่านมามีการพิจารณาเกื้อกูลกัมพูชามาโดยตลอด ซึ่งเคยเสนอแนะไปแล้ว และรัฐบาลเองก็บอกว่่าจะทำตาม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นมีการดำเนินการใดๆ

ด้านนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลมีความชัดเจนมาก โดยที่ไม่ยอมรับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ปัญหาดังกล่าวจะจบได้จะต้องมีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ประชาชน กรมแผนที่ทหาร กระทรวงต่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะประเด็นเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาเรื่องการเมือง ทั้งการเมืองระหว่าง 2 ประเทศ และการเมืองภายในประเทศ

ขณะที่นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายภาคีคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวหลังการร่วมวงดีเบตกับรัฐบาลว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคีคนไทยหัวใจรักชาติ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาเขาพระวิหาร ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องรอดูท่าทีของนายกฯ ว่าจะทำอะไรเพิ่มเติม หลังได้มีการพูดคุยกันไปแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวทางการชุมนุม คงไม่ใช่วิธีการเรียกร้องเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการเคลื่อนไหวทางวิชาการและด้านอื่นๆ เพื่อควบคู่กันไปด้วย ขณะที่มองว่าการที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยกเลิกเอ็มโอยู 43 นั้นคงเป็นไปไม่ได้ และนายกฯ เองก็ยืนยันแล้วว่า จะยังไม่ยกเลิกในขณะนี้

ส่วนกรณีที่นายกฯ จะมีการเปิดเวทีภาคประชาชน เพื่อระดมความคิดเห็นในการแก้ปัญหานั้น นายวีระ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปเข้าร่วมเวทีดังกล่าวหรือไม่ แต่คิดว่าตนคงจะไม่เข้าร่วม เพราะต้องรอดูท่าทีก่อน ส่วนผลจากการร่วมวงดีเบตนั้น รู้สึกพอใจมากที่สามารถทำให้สังคมไทยได้รับรู้ เข้าใจ และหมดความสงสัยในปัญหาเขตแดนปราสาทเขาพระวิหาร เพราะที่ผ่านมากว่าจะทำได้ขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ยากมาก ตลอดเวลาสิ่งที่ต้องการคือ ต้องการให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลได้เสนอเรื่องการเจรจาดังกล่าวมา หลังจากที่พยายามจัดการเจรจารอบนอกแล้วถึง 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้เข้าร่วมแต่อย่างใด จึงต้องมาคุยต่อหน้าคนทั้งประเทศ

ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้แสดงความความเห็นไม่ต่างกับอดีตประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่เห็นว่าแม้ไทยจะไม่มีเอ็มโอยู 43 ไทยก็จะสามารถประท้วงกัมพูชาได้อยู่แล้ว หากเรายึดแนวสันปันน้ำในการแบ่งเขตแดน ส่วนกรณีคำแถลงการร่วมนั้น ยืนยันว่าเป็นเอกสารที่เราทำขึ้นเพื่อปกป้องและคัดค้านแผนที่ฝรั่งเศส ที่กัมพูชาไปยื่นขึ้นทะเบียนมรดกโลกไว้

ทั้งนี้ นายนพดล กล่าวอีกว่า เรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เป็นเรื่องจุดยืนของนายกฯ เรื่องการใช้เขตสันปันน้ำในการแบ่งเขตแดน แต่เมื่อปี 2541 รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยใช้แผนที่ L7017 เป็นแนวทางในการกำหนดเขตแดนกับกัมพูชา และระบุไว้ชัดเจนในประกาศฉบับดังกล่าว ว่าตรงนั้นเป็นเส้นพรมแดนระหว่่างประเทศ โดยกันตัวปราสาทไปอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา ทำให้กัมพูชาเกิดความเข้าใจผิดและยึดถือมาโดยตลอด ทั้งนี้มองว่าหากเรื่องมาสู่ศาลโลกอีกครั้ง ไทยสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งที่จะถูกปิดปาก ว่าเรายอมยกตัวปราสาทและพื้นดินใกล้ปราสาทให้กับกัมพูชาแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ ชัดเจนว่าวันนี้จะต้องไม่ใช้แผนที่ L7017 พร้อมสั่งให้กรมแผนที่ทหารและกระทรวงการต่างประเทศเปลี่ยนแปลงท่าทีที่จะใช้แผนที่ L7017 เพราะที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูลมาโดยตลอด ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องไปเร่งเจรจากับกัมพูชา ให้อพยพคนออกจากพื้นที่ทับซ้อน และคืนพื้นที่ดังกล่าวให้กับไทย

ส่วนรัฐบาลจะยอมฉีกเอ็มโอยู 43 หรือไม่ หลังหลายฝ่ายออกมาบอกว่า ทำให้ไทยเสียเปรียบ ด้านคนมองต่างมุม ก็อ้างว่าได้ประโยชน์ เห็นทีปัญหานี้จะบานปลายหาข้อสรุปได้ยาก สุดท้ายจะแตกต่างอย่างไร อยากให้สามัคคีกันไว้ อย่าแตกแยกกันเอง เพื่อจะได้หาทางช่วยกันรักษาอธิปไตยไทยไว้เป็นดีที่สุด.

未经允许不得转载:综合资讯 » 普里维希神庙是一部长的电影却找不到结尾

赞 (0)
分享到:更多 ()