นิทรรศการยานยนต์ยุคต่างๆ.
ได้ไปร่วมงานยานยนต์ระดับโลก “มิชลิน ชาเลนจ์ บีเบนดัม 2011” (Michelin Challenge Bibendum 2011) ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนไปคิดว่าคงเหมือนงานมอเตอร์โชว์ทั่วไป ที่มีรถยนต์รุ่นใหม่และพริตตี้เซ็กซี่มายืนอวดโฉม แต่พอได้สัมผัสงานแล้วถึงรู้ว่า ปรัชญาการขับเคลื่อนแบบเดิมๆได้เปลี่ยนไป จากนี้ไม่ใช่แค่การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือแค่ไปให้ถึงที่หมายเท่านั้น แต่ยังตามมาด้วยเหตุผลดีๆอีกมากมาย
เสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสยามมิชลิน เล่าถึงจุดประสงค์ของงานว่า งานนี้ไม่ใช่การโชว์รถยนต์รุ่นใหม่ หรือการขายสินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ แต่เป็นการรวมตัวกันของภาคธุรกิจยานยนต์ องค์กรภาครัฐจากทั่วโลก สถาบันการศึกษาวิจัย กลุ่มเอ็นจีโอ และสื่อมวลชน เพื่อที่จะสำรวจข้อเรียกร้องและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการขับขี่บนท้องถนน รวมทั้งแสดงให้ผู้กำหนดนโยบายทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ได้เห็นภาพที่ชัดเจนและเข้าใจถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดของยานยนต์ในเชิงลึกว่า ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยมลพิษบนท้องถนน ลดมลภาวะทางเสียง แต่ยังคงความเพลิดเพลิน และมีอิสระในการขับขี่อย่างปลอดภัยเอาไว้ด้วย
รถพอร์ช บ๊อกสเตอร์.
“เราต้องการจะบอกโลกว่า มีคนกลุ่มหนึ่งได้คิดค้นสิ่งดีๆเพื่อการขับขี่ ที่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมขึ้นมาได้แล้ว และต้องการให้ผู้คนในสังคมนำไปใช้ในชีวิตประจำวันกันมากๆ โดยแนวคิดของการจัดงานจะเน้นถึง ระบบการสัญจรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย และเชื่อมโยงถึงกันได้ดีกว่า ดังนั้น รถยนต์ที่มาวิ่งโชว์ในงาน จะไม่มีเครื่องยนต์ที่ก่อให้เกิดมลพิษ แทบทั้งหมดจะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์พลังงานสะอาดในอนาคตอันใกล้นี้”
สำหรับงานในปีนี้จัดขึ้นในสนามบินเก่าชื่อ “เบอร์ลิน เทมเพลฮอฟ แอร์พอร์ต” ตั้งอยู่ห่างจากประตูบรันเดนเบิร์ก จุดศูนย์กลางของกรุงเบอร์ลิน ราว 5 กม. ภายในงานประกอบด้วยบูธแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านยานยนต์ อาทิ นิทรรศการรถยนต์ ตั้งแต่รุ่นแรกๆที่ใช้พลังงานไอน้ำ มาจนถึงยุคใช้น้ำมัน และสู่ยุคพลังงานไฟฟ้า พัฒนาการของอะไหล่รถยนต์ เช่น ล้อ เข็มขัดนิรภัย เบรก และระบบความปลอดภัย โดยมีบริษัทผลิตรถยนต์ยี่ห้อดังๆ รวมทั้งบริษัทผลิตรถยนต์อิสระ นำนวัตกรรมที่เพิ่งคิดค้นได้มาร่วมแสดง
แอคทีฟ วีล นวัตกรรมที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์.
พอเอ่ยถึงรถยนต์ไฟฟ้า คนส่วนใหญ่ยังนึกถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบเดิมๆที่แอบเหน็บว่ารถเข็นขายฝรั่งดองยังเร็วกว่า แต่ในงานนี้ขอบอกรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเร็วน้องๆรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ก็มีมาโชว์ให้เห็น เจ้าคันนี้มันทำความเร็วได้ถึง 250 กม.ต่อชั่วโมง หรือจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์ เร็ว แรง อย่าง “พอร์ช บ๊อกสเตอร์” ที่นำมาดัดแปลงใส่เครื่องยนต์ไฟฟ้า ทำความเร็วได้ 200 กม.ต่อชั่วโมง ก็มีมาให้ได้ทดลองขับกันอย่างจุใจ
บูธไฮไลต์ของงาน เป็นการแสดงล้อรถอัจฉริยะ “แอคทีฟ วีล” (Active Wheel) ซึ่งคิดค้นโดยวิศวกรของบริษัทมิชลิน เมื่อหลายปีก่อน และได้รับการพัฒนาจนใช้งานได้จริง มีการผลิตเป็นรถยนต์ออกวิ่งทดสอบในงานด้วย หลักการทำงานของล้อชนิดนี้จะนำมอเตอร์ขับเคลื่อนมาติดตั้งไว้ในล้อ ผนวกกับระบบกันสะเทือน และระบบเบรก พูดง่ายๆ มีแค่ล้อแอคทีฟ วีล 2 ล้อก็ทำให้รถยนต์วิ่งได้ไม่ต้องง้อเครื่องยนต์ หากนำมาผลิตเป็นรถยนต์ออกขาย จะช่วยลดการใช้วัตถุดิบและพลังงานมหาศาล แต่จะประสบผลสำเร็จในแง่ธุรกิจเพียงใดยังต้องคิดหนัก เพราะค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่คงไม่อยากให้ล้อชนิดนี้เกิดขึ้น เนื่องจากทุ่มทุนในการพัฒนาเครื่องยนต์ไปมากแล้ว
ในงานไม่ได้มีเพียงรถยนต์เท่านั้น แม้แต่รถสามล้อถีบ รถพลังงานแสงอาทิตย์ รถจักรยานไฟฟ้า หรือรถวีลแชร์ สำหรับผู้พิการ ก็ได้รับการพัฒนาไปสู่การประหยัดพลังงาน การขับขี่ที่สะดวกสบาย และความปลอดภัย โดยเฉพาะรถวีลแชร์ที่ใช้สายตาบังคับการเคลื่อนที่ และบังคับด้วยคลื่นสมอง เห็นแล้วอดทึ่งไม่ได้ อีกสิ่งที่น่าภูมิใจคือ รถตุ๊กตุ๊กไทยที่มีฝรั่งหัวใสนำไปพัฒนาเป็นรถไฟฟ้า ตั้งชื่อว่า “ตุ๊กกี้” ออกวิ่งในเขตกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ คนคิดบอกว่ามาเที่ยวกรุงเทพฯแล้วได้ไอเดีย เลยนำรถตุ๊กตุ๊กไปดัดแปลงเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดของบ้านเขา
นับแต่มนุษย์เริ่มรู้จัก “วงล้อ” เมื่อหลายพันปีก่อน วิวัฒนาการเกี่ยวกับสิ่งนี้ก็ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพราะวงล้อนี่เองที่ทำให้มนุษย์คิดค้นต่อยอดเครื่องจักรกลช่วยทุ่นแรง มาสนองตอบการดำรงชีวิตให้สะดวกสบาย แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์หลงลืมมาตลอด นั่นคือการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้แต่หวังว่ามันคงยังไม่สายเกินไปที่เราจะช่วยกันเยียวยา ก่อนที่ “วงล้อแห่งภัยพิบัติทางธรรมชาติ” จะหมุนมาทับมนุษยชาติจนพินาศหมดสิ้น.
รถนิสสัน ลีฟ ขณะจอดชาร์จไฟ.
รถตุ๊กกี้.
สนามทดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า.
玊玊
未经允许不得转载:综合资讯 » "มิชลิน ชาเลนจ์ บีเบนดัม"… การสัญจรเพื่ออนาคตยั่งยืน