เชื่อว่า ทุกท่านคงรู้จัก “วิตามินซี” กันดีอยู่แล้ว เพราะแหม…ตั้งแต่เด็ก เวลาผู้เขียนไปหาหมอตามคลินิกที่ไม่ขี้เหนียวทีไร ก็มักจะได้รับวิตามินซีชนิดอมในปากจากเจ้าหน้าที่ของที่นั่นเป็นของแถมติดไม้ติดมือมาให้ลิ้มชิมรสอยู่เสมอ จนทำให้รู้จักและอะแฮ่ม…อาหย่อยกับรสชาติของวิตามินซีตั้งแต่นั้น
ยิ่งกระแสความนิยมเกี่ยวกับผิวขาว ผิวใส และชะลอวัยกำลัง ฮอตฮิตมากเท่าไหร่ วิตามินซีก็ถูกพูดถึงให้แซดตามไปด้วย ถามว่า วิตามินซีมีประโยชน์หรือไม่? นพ.ธัญธรรศ โสเจยยะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โรงพยาบาลวิภาวดี คอนเฟิร์มว่า วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านของการรักษาโรคและป้องกันโรค เช่น โรคลักปิดลักเปิด รวมทั้งรักษาและป้องกันไข้หวัดด้วย
ดังนั้น เรามารู้จักกับวิตามินซีกันว่า คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร? รวมทั้งถ้ามีประโยชน์แล้วมีโทษหรือไม่? กันเถอะ ทั้งนี้ นพ.ธัญธรรศอธิบายว่า วิตามินซีมีชื่อเต็มๆว่า กรดแอสคอบิก Ascobic Acid เป็นวิตามินที่มนุษย์ ไม่สามารถสร้างได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากการทานเข้าไป มีหน้าที่หลักๆ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากขบวนการสันดาบในร่างกาย หรือจากมลพิษ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ซึ่งจะทำให้เซลล์ต่างๆ เสื่อมหรืออาจเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ที่ผิดปกติได้
นอกจากนี้ วิตามินซียังทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในขบวนการต่างๆของร่างกาย เช่น การสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิวหนัง และของเส้นเลือดให้แข็งแรง ทำให้ไม่เปราะ ยืดหยุ่นได้ดี หนำซ้ำ วิตามินซี ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันและรักษาไข้หวัด, ลดการอักเสบจากการติดเชื้อ แถมมีรายงานด้วยว่า สามารถลดระดับคอเลสเทอรอลและคลายเครียดได้ เนื่องจากเสริมการทำงานของต่อมหมวกไตในการสร้างฮอร์โมนต้านความเครียด
ปกติคนเราควรได้รับวิตามินซีประมาณ 40-90 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สำหรับสตรีตั้งครรภ์, ให้นมบุตร หรือบุคคลที่มีความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ เช่นกำลังป่วยอยู่ ควรได้รับเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
เหตุนี้คนเราจึงควรได้รับวิตามินซีในระดับที่เหมาะสม ไม่ควรทานมากเกินความจำเป็น
เพราะถ้าทานวิตามินซีมากเกินไปละก็ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย และถ้าทานตอนท้องว่างจะเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรดนั่นเอง นอกจากนี้ ยังอาจเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ บางทีถึงขั้นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว และแน่นอนเนื่องจากวิตามินซีขับออกทางปัสสาวะ จึงทำให้ปัสสาวะมีความเป็นกรด ดังนั้น จึงเพิ่มโอกาสเกิดการตกตะกอนของผลึกต่างๆ กลายเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้ จึงแนะว่าหากทานวิตามินซีก็ควรดื่มน้ำตามมากๆ
ที่จริงการรับประทานผักและผลไม้ก็ทำให้พวกเราได้รับวิตามินซีแล้ว เช่น ฝรั่ง, บรอกโคลี, กะหล่ำดอก รวมทั้งในเนื้อสัตว์และตับก็มี บางคนไม่ยอมทานผักผลไม้ แต่หันไปทานอาหารเสริมแทน ประโยชน์ที่ได้รับจึงไม่เท่ากับทานอาหารจริงๆ แถมบางทียังเสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย.
คนสมถะ
zz
未经允许不得转载:综合资讯 » วิตามินซี ดีอย่างไร?