综合资讯
当前位置:综合资讯 > 科技 > 正文

อัลคาเทล-ลูเซ่น จับมือ ทรานซิสชั่น ดันแนวคิดใหม่รุกกลุ่มองค์กร

อัลคาเทล-ลูเซ่น จับมือ ทรานซิสชั่นฯ รุกตลาดดาต้า เซ็นเตอร์ในไทย เปิดตัวสวิตช์อีเธอร์เน็ต 10  กิกะไบต์ใหม่ที่ควบคุมแบบอัตโนมัติ รองรับแอพลิเคชันได้ยืดหนุ่น ใช้พลังงานน้อย และราคาต่อพอร์ตที่ถูกกว่า…
นายเดอริค ลี  รองประธานกลุ่มตลาดธุรกิจองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท  อัลคาเทล – ลูเซ่น  กล่าวว่า มีการประเมินมูลค่าตลาดรวมของดาต้า เซ็นเตอร์ในปี 2554 ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง  19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเติบโตจากปี 2553 ประมาณ 33 % โดย ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอีกตลาดหนึ่งที่จะมีการลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากแนวโน้มการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ คลาวด์ คอมพิวติ้ง และเวอร์ชวลไลเซชั่น มาใช้ทำให้ความต้องการอุปกรณ์สวิตช์ที่รองรับแบนด์วิธจำนวนมาก รวมไปถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆได้ง่าย และมีการทำงานที่ไม่ยุ่งยาก จึงได้นำสวิตช์อีเธอร์เน็ต 10 กิกะไบต์ ล่าสุด OmniSwitch 10K ออกสู่ตลาด อีกทั้งเป็นผลิตภัณฑ์โครงสร้างเครือข่ายรุ่นแรกสร้างเครือข่ายที่รองรับแอพลิเคชันได้อย่างยืดหยุ่น (Application Fluent Network) โดยปรับแต่งเครือข่ายเพื่อให้แอพลิเคชันคุณภาพสูง เป็นไปตามผู้ใช้ แอพลิเคชัน อุปกรณ์ และตำแหน่งที่ตั้ง รองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้ทั่วทั้งองค์กร ทำให้ได้บริการที่ดี ความคล่องตัวในการดำเนินงาน และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้านไอที  นอกจากนี้ยังประหยัดเงินลงทุน เพราะราคาเฉลี่ยต่อพอร์ตของ OmniSwitch 10K เท่ากับ 1 ใน 4 ของราคาผลิตภัณฑ์คู่แข่ง
ด้าน นายสุชาติ เบ็ญจพรกุลพงศ์  หัวหน้าฝ่ายกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร บริษัท อัลคาเทล – ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า OmniSwitch 10K ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครือข่ายหลักขององค์กร ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าถึง 4 เท่า ทั้งในเรื่อง Switching Capacity แบบ non-blocking จำนวนรวมของ 10G พอร์ต และการประหยัดพลังงาน มีความเร็วของสวิตชิ่งในอัตรา 5 เทราบิตต่อวินาที ทั้งยังสนับสนุนพอร์ต 10GigE จำนวน 256 พอร์ต และใช้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด โดยใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 1.5 วัตต์ต่อแบนด์วิธกิกะบิตแบบ non-blocking ต่อวินาที ทั้งนี้ด้วยเทคโนโลยีการรอคิวแบบเวอร์ชวลที่โดดเด่น รองรับการควบคุมการรับส่งข้อมูลแอพลิเคชันโดยมีการจัดลำดับความสำคัญของทราฟฟิก  จึงเหมาะกับตลาดดาต้า เซ็นเตอร์ที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
หน.ฝ่ายกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร บ.อัลคาเทล – ลูเซ่น กล่าวต่อว่า บริษัทฯ คาดว่าในปี 2554ตลาดรวมของดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย จะมึมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโต 60% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2553  และตลาดมีความต้องการของอุปกรณ์ด้านนี้ถึง 35% สำหรับในประเทศไทยอัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ร่วมมือกับบริษัท ทรานซิสชั่นฯ  โดยเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าระบบเครือข่ายระดับภูมิภาค และมีความเชี่ยวชาญในโซลูชั่นระบบเครือข่าย การให้บริการ และการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่ลูกค้า ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยจะร่วมมือกันในการรุกตลาด อาทิ กลุ่มลูกค้าโทรคมนาคม ผู้ให้บริการ หรือ เซอร์วิส โพรไวเดอร์ และการเงินการธนาคาร   
ส่วน นายสมชาย หิรัณยากร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ทรานซิสชั่น ซิสเต็มส์ แอนด์ เน็ทเวอร์คส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความสามารถที่เหนือชั้นของ OmniSwitch 10K และการใช้พลังงานที่น้อยกว่า ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเปลี่ยนจากระบบประมวลผลแบบไคลเอนท์-เซิร์ฟเวอร์ที่มีราคาแพง มาติดตั้งหลากหลายรูปแบบภายในดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น ระบบคลาวด์แบบ “ส่วนตัว” หรือ ไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) ใน หลายๆ ไซต์ หรือ การติดตั้งในระดับแผนก หรือเวอร์ชวลดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับเวิร์กกรุ๊ป และระบบคลาวด์แบบไฮบริด ที่ผสานรวมบริการต่างๆ ของผู้ให้บริการ  ด้วยแนวทางที่รองรับระบบคลาวด์ ของอัลคาเทล-ลูเซนต์ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้บริการคลาวด์จากผู้ให้บริการเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านธุรกิจ ให้กับโซลูชั่น
ผจก.ประจำประเทศไทย บริษัท ทรานซิสชั่นฯ กล่าวด้วยว่า ทรานซิสชั่นฯ เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของอัลคาเทล-ลู เซ่นแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับกลยุทธทางการตลาดนั้น จะมุ่งเน้นที่จะจัดกิจกรรมร่วมกับบริษัทคู่ค้า โดยจัดเข้าไปยังกลุ่ม เป้าหมายที่เน้นไปทางด้านภาคการศึกษา รัฐบาล และองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ และการให้บริการก่อน  และหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มบริษัทคู่ค้าและลูกค้าอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในช่วง 9 เดือนที่เหลือนับจากนี้มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท

┴┴

未经允许不得转载:综合资讯 » อัลคาเทล-ลูเซ่น จับมือ ทรานซิสชั่น ดันแนวคิดใหม่รุกกลุ่มองค์กร

赞 (0)
分享到:更多 ()