งานเข้าอย่างจัง สำหรับ "พรรคประชาธิปัตย์" ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นวิบากกรรมอะไรนักหนา ตั้งแต่เรื่องที่มีคณะทำงานร่วมอัยการสูงสุดกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กตต.) มีมติยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคกรณีคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ตามคดีที่ส่งไปก่อนล่วงหน้าคือคดีการใช้เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์มีการได้รับ และอาจดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
โดยเฉพาะกรณีแรก ที่แม้กระทั่ง “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย อดีตหัวหน้าพรรค มือกฎหมายระดับพระกาฬ ยังบอกว่าเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ฝีมือ ทำเอาคนในพรรค (ทุกคน) หวาดผวา จนมีกระแสตั้งพรรคอะไหล่รองรับไว้แล้ว เพราะเหตุว่าคดีนี้ถูกกล่าวหารับเงินบริจาคจำนวน 258 ล้านบาท จากบริษัททีพีไอโพลีนฯ ที่อาจเป็นการทำนิติกรรมอำพราง เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 95 ประกอบกับคำขอของอัยการสูงสุดนั้นให้ศาลเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ขณะเกิดเหตุปี 2547-2548 กว่า 40 คน เป็นเวลา 5 ปี กวาดกระดานมือเก๋าของ ปชป. ไปค่อนครึ่ง
ประเด็นก็คือว่าหากว่าพรรคโดนยุบแล้ว หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคยุคนั้นต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารยุคนั้น กำลังเป็นใหญ่ในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ เหรัญญิก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ กรรมการบริหาร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริหาร นายอลงกรณ์ พลบุตร กรรมการบริหาร นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ กรรมการบริหาร นายเทพไท เสนพงศ์ กรรมการบริหาร นายวิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหาร นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหาร ฯลฯ และอีกมากมายรวมกว่า 40 คน ต้องหลุดจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองทันที
未经允许不得转载:综合资讯 » วิบากกรรม ’64ปีประชาธิปัตย์’