ศอฉ.ชี้บึ้มเอ็นบีทีสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนสับสน ปัดพัลวันฝีมือจนท.รัฐ เพื่อขอต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "สุเทพ"สั่งป้องกัน 11 จุดพื้นที่ล่อแหลม-เส้นทางคมนาคม เตรียมส่งทหารคุมพื้นที่ทั่วกทม…..
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.เวลา 16.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมีตัวแทนจากเหล่าทัพ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผอ.สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และผู้แทนจากกรมประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมประชุม
จากนั้น พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ในที่ประชุมได้พูดถึงการก่อเหตุด้วยการยิงลูกกระสุนเอ็ม 79 ในพื้นที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)ได้รายงานว่า เป็นลูกระเบิดเอ็ม 79 หัวสีทอง มีลักษณะคล้ายที่เคยก่อเหตุมาหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายมีความพยายามสร้างสถานการณ์ยิงเข้าไปในพื้นที่ลานจอดรถ โดยกระสุนไปถูกกิ่งไม้ ทำให้เกิดการระเบิด และสะเก็ดระเบิดไปถูกรถที่จอดอยู่จนเสียหาย ภายหลังได้รับรายงาน นายสุเทพ ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้เน้นการทำงานด้านการข่าว โดยให้ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นหลักในการประสานเรื่องนี้อย่างเข้มข้น นอกจากนี้ให้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสถานีเอ็นบีที การทางพิเศษฯและ กทม. โดยให้นำภาพมาประติดประต่อเพื่อเชื่อมโยงหาข้อมูล หลักฐาน นอกจากนั้น ยังสั่งให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ต่างๆที่มีข้อมูลการข่าวว่า เป็นพื้นที่ล่อแหลมสามารถสร้างสถานการณ์ได้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รายงานถึงสื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับที่เสนอข้อมูลบิดเบือนจากข้อเท็จ จริง เสนอข่าวทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล มีความแบ่งแยก ในลักษณะการเสนอข่าวที่หมิ่นเหม่ จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ ศอฉ.ได้ติดตามการเสนอข่าวมาตลอด โดยจะมีการแจ้งความดำเนินคดีและถ้ามีความจำเป็นจะดำเนินการในขั้นเด็จขาด เช่น การปิดสื่อสิ่งพิมพ์ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุม ศอฉ.ได้วิเคราะห์หาสาเหตุการยิงระเบิดครั้งนี้หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า เหตุระเบิดไม่มีเจตนามุ่งทำร้ายชีวิต น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์โดยพยายามยิงมาที่ลานจอดรถ นอกจากนี้ ผอ.ศอฉ. ได้พูดถึงการดูแลพื้นที่ล่อแหลมต่อการสร้างสถานการณ์และพื้นที่ทั่วไป หมายถึง ระบบคมนาคมสำคัญๆ ซึ่งไม่ใช่สนใจด้านการข่าวเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ดำเนินการเพื่อให้ประชาชนที่ใช้บริการเส้นทางคมนาคม เกิดความมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท มีข้อมูลข่าวสารและทำงานอย่างเต็มที่ในการรักกาความปลอดภัย และในวันนี้จะมีการเพิ่มจุดตรวจร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทหาร บริเวณสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
“ถือว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย และทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลายคนพยายามโยงว่า เจ้าหน้าที่รัฐ พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป ผมขอยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใด คิดอย่างนั้น เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยที่สุด การที่จะไปสร้างสถานการณ์อะไรเพื่อหวังผลต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไป เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” โฆษก ศอฉ. กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ศอฉ. ได้ระบุว่า มีพื้นล่อแหลมต่อการก่อเหตุทั่ว กทม.จำนวน 11 จุด ซึ่งนายสุเทพ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในที่ประชุมว่า ต้องการกำลังเพิ่มหรือไม่ หากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพียงพอ ก็ขอให้แจ้งมาที่ ศอฉ.เพื่อจะจัดกำลังทหารเข้าไปช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยเพิ่มทันที
未经允许不得转载:综合资讯 » เข้ม11จุดกทม…….