ครม.ผวากลุ่มล้มเจ้าแฝงซ้อน นปช. ทุ่มงบลับกว่า 62 ล้านบาท อารักขาเข้มวีไอพี ซื้ออุปกรณ์ไฮเทค เพิ่มงบการข่าว แฉ มีนายทหารใหญ่ คอยบัญชาการกลุ่มชุดดำก่อเหตุป่วน…
มีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธาน ได้ มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการออกไปอีก 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.2553 ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)เสนอโดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์ใน 4 จังหวัดได้มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จัดกิจกรรมเชิงสักษณ์อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ กทม.ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจตกเป็นเป้าการสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงได้ ส่วน 3 จังหวัดในเขตปริมณฑลนั้น นปช.มีการรวมตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกลุ่มก้อนและเป็นมวลชนส่วนใหญ่ที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมในกทม.ได้ โดยมีข้อสังเกตว่าในพื้นที่เหล่านี้ถูกแสวงหาประโยชน์โดยกลุ่มบ่อนทำลายสถาบันเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ศอฉ.ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับกองทัพบก กระทรวงมหาดไทย สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า ปัจจุบันยังคงมีความจำเป็นในการคงสถานการณ์ฉุกเฉินบางพื้นที่ไว้ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมสถานการณ์ภาพรวม นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบในคำสั่งแต่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)โดยให้ รมว.กลาโหม เป็นผอ.ศอฉ. และเพิ่มปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นกรรมการศอฉ.
นอกจากที่ประชุมครม.เมื่อจะมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน เขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการออกไปอีก 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.2553แล้ว ที่ประชุมยังได้พิจารณาวาระลับมากของกระทรวงกลาโหม (กห.) 2 เรื่อง ซึ่งกห.ได้ขอเก็บเอกสารกลับคืนไป โดย กห.ขออนุมัติงบประมาณสำหรับดำเนินมาตรการการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง30 กันยายน 2554 และปรับโครงสร้างอัตรากำลังพลในการเก็บกู้วัตถุระเบิด 1 ชุด จำนวน 15 คน วงเงิน 50,625,550 บาท โดยเป็นงบลงทุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ 2 รายการ 6.15 ล้านบาท โดยเป็นรถตู้ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสาร 2 คัน และกล้องตรวจจับความร้อน FLIR เป็นกล้อง VDO และกล้องอินฟาเรตซึ่งถ่ายภาพตอนกลางคืน จำนวน 2 ชุด
นอกจากนี้ ครม.ยังได้อนุมัติงบกลาง ปีงบฯ 2554 โอนเป็นเงินงบราชการลับจำนวน 12 ล้านบาท เพื่อใช้ในงานหน่วยข่าวกรองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเทศพันธมิตร รายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวลอบสังหารบุคคลสำคัญ ภายหลังจากจับกุมนักรบแดงได้จำนวน 11 คน โดยหนึ่งในนั้นยอมรับสารภาพว่ามีการจ้างวานลอบสังหารนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่มีค่าหัวถึง 20 ล้านนั้น ทางแกนนำพรรคภูมิใจไทยมีการประสานข้อมูลกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและทางการข่าวสืบทราบว่ามีกระบวนการฝึกอบรมกลุ่มชายชุดดำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็ทราบและติดตามมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการตั้งข้อหากับบุคคลกลุ่มดังกล่าวเพื่อจะสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป และการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว น่าจะมีความเชื่อมโยงกลุ่มคนชุดดำที่มีการปฏิบัติการปะทะกับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารในเหตุการณ์ช่วงการกระชับพื้นที่ในช่วงเหตุการณ์ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการข่าวพบว่ามีนายทหารระดับสูงเป็นผู้บงการคอยควบคุมวางแผนให้กลุ่มชายชุดดำปฏิบัติการ โดยฐานบัญชาการอยู่ที่อาคารสูงแห่งหนึ่ง
未经允许不得转载:综合资讯 » ทุ่มงบลับ62ล. อารักขาVIP สกัดกลุ่มป่วน