เศรษฐกิจไทยอยู่ได้…..

"จนถึงวันนี้ แม้ไม่มีพรรคการเมืองใด มาเป็นรัฐบาลเลย ก็ยังสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้  โดยกลุ่มข้าราชการประจำเป็นตัวขับเคลื่อนกลไก และกำหนด ควบคุมแนวนโยบายของภาคเอกชน ก็ไม่ต่างกับให้นักการเมืองบริหาร"

คำจำกัดความนี้  ศ.ดร. ณรงค์ เพชรประเสริฐ กรรมการปฏิรูปประเทศไทย (คปร.) และกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.)ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับ"ไทยรัฐออนไลน์" ตราบใดก็ตาม ที่ยังต้องดำเนินเศรษฐกิจตามแนวทางที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้กำหนด ยกเว้นจะมีรัฐบาลชุดใดกล้าเปลี่ยนแปลงแนวนโยบาย ที่จำได้มีเพียงรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

ศ.ดร.ณรงค์  ยืนยันการเข้าออกของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะร่วมรัฐบาล หรือพรรคภูมิใจไทย จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร ร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป หรือถอนตัว ในภาพรวมก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างด้านเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยอมรับมีผลด้านจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น

ดังนั้นกับท่าทีการให้สัมภาษณ์ที่แข็งกร้าว…ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อพรรคภูมิใจไทย ที่บอกว่า"ใครอึดอัด ให้บอกมา พร้อมจะปรับออกจากการร่วมรัฐบาลทันที"เป็นสิ่งบอกเหตุอะไรได้หลายอย่าง ของการ"ร่วมหัว จมท้าย"การร่วมรัฐบาลของทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นแกนนำและพรรคภูมิใจไทย ที่เห็นรอยแตกร้าวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่อำนาจการบริหารและการตัดสินใจไหลมาอยู่ที่นายอภิสิทธิ์ เพียงผู้เดียว เนื่องจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจลาออกไปลงสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี แทน นายชุมพล กาญจนะ

และยิ่งปรากฎความเคลื่อนไหว การเตรียมเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่สังเกตได้ว่า กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง เพื่อคานอำนาจพรรคภูมิใจไทย ในทัศนะของ ศ.ดร.ณรงค์  ก็ไม่ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงอะไร กับส่วนรวม รวมไปถึง แม้นายอภิสิทธิ์ จะมีจุดตายอีกจุดที่สำคัญ คือ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ซึ่งเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินได้ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีขึ้นศาลไต่สวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็คงไม่กระทบอีกเช่นกัน

ขณะที่ รศ.ดร.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวเห็นว่า รัฐบาลก็ยังจะเลือกพรรคภูมิใจไทยมากกว่า พรรคเพื่อแผ่นดิน เพราะแกนนำพรรค สามารถควบคุมลูกพรรคให้เป็นเอกภาพได้ดีกว่า

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินกลับลำ ประกาศพร้อมเข้าร่วมทำงานกับรัฐบาลนั้น รศ.ดร.สมชัย มองว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคนี้อยู่แล้ว เพราะมีหลายมุ้ง ไม่มีความเป็นเอกภาพภายในพรรค ซึ่งดูแล้วน่าจะเรียกว่า เป็นกลุ่มการเมืองมากกว่า ไม่ใช่สถาบัน ที่เรียกว่าพรรคการเมือง  

หากช่วงปลายพฤศจิกายนต่อถึงเดือนธันวาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังสามารถตั้งพรรคใหม่ได้ เหมือนกับที่พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนที่ถูกยุบ ทั้งยังสามารถนำแกนนำพรรค ที่ รศ.ดร.สมชัย ให้คำจำกัดความว่าเป็นผู้นำแถวสองของพรรคขึ้นมาทดแทนได้ ไม่เสียหายอะไร  เพียงแต่จะเกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่เป็นพรรคมีประวัติศาสตร์ต่อเนื่องยาวนานก็แค่นั้นเอง.

未经允许不得转载：综合资讯 » เศรษฐกิจไทยอยู่ได้…..