ไทยรัฐออนไลน์……..

ทางออก…แก้น้ำท่วมทั่วประเทศ นายกฯต้องทุบโต๊ะ!

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องพิสูจน์ภาวะผู้นำกล้าตัดสินใจ แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างบรูณาการ เพื่อไม่ใช้ปัญหาย้อนกลับมาอีก อาทิทำแก้มลิงเก็บน้ำในพื้นที่ทุกจังหวัดเหนือกรุงเทพมหานคร เพราะลงทุนน้อย ไม่เช่นนั้นน้ำท่วมก็ตามมาหลอกหลอนประเทศไทยอีก..ไม่สิ้นสุด…

สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในภาคกลางของประเทศในขณะนี้ นับเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความ’หนักอก หนักใจ’ กับพี่น้องประชาชนชาวไทยมากที่สุด ทั้งนี้อุทกภัยที่เกิดขึ้น จะยอมรับว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากปริมาณฝนในปีนี้ที่ตกหนักผิดปกติ เนื่องจากภาวะโลกร้อนขึ้น แต่อีกส่วนก็มาจากน้ำมือของมนุษย์ ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า ,ถมทางระบายน้ำ หรือ สร้างสิ่งก่อสร้างปิดเส้นทางที่น้ำจะต้องผ่าน  แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่ากับการแก้ปัญหา ทำอย่างไรจึงสามารถบรรเทาหรือแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลทั้งด้านจิตใจ สังคม และเศรษฐกิจ  นับเป็นเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นล้านบาทให้กับประชาชนคนไทยได้

รศ.ดร.เสรี ศึภราทิตย์ ผอ.ศูนย์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อุทยานและสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า รู้สึกเป็นห่วง อุทกภัยที่ กทม. ประสบอยู่ในขณะนี้ สำหรับ ทางแก้ที่ รศ.ดร.เสรี เสนอคือต้องทำพื้นที่รับน้ำหรือที่เรียกว่าแก้มลิง ในจุดที่เหนือกทม.ขึ้นไป ในที่นี้คือ อาจจะตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา เรื่อยลงมาถึง จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี   ถ้าเป็นไปได้ต้องมีแก้มลิงทุกจังหวัด เพื่อใช้รองรับเวลาน้ำไหลหลาก เพราะในทัศนะของ อ.เสรี เห็นว่าที่ กทม.ซึ่งถือเป็นไข่แดง ที่มีความสำคัญสูงสุดของประเทศไทย มีภูมิศาสตร์เป็นที่ราบลุ่ม อยู่ใกล้ทะเล ที่น้ำจากทางเหนือจะต้องไหลผ่านลงมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงที่ผ่านมา กทม.รอดพ้นจากอุทกภัยครั้งแล้วครั้งเล่า เนื่องจากอาศัยพื้นที่ว่างริมแม่น้ำในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่เหนือขึ้นไปมาเป็นตัวรับน้ำเสมอ หากปีไหนน้ำมามากก็ให้ประชาชนต่างจังหวัดที่อยู่ริมน้ำก็ต้องเป็นตัวช่วยแบบจำเป็นรับน้ำให้กับคนกรงเทพฯ แม้ไม่เต็มใจก็ตาม      

ทั้งนี้ถ้ามองไปในอนาคต  หากภาคประชาชนในต่างจังหวัด มีความเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม แล้วเกิดรวมต้วกันไม่ยอมให้ใช้พื้นที่เป็นที่รองรับน้ำหลากจนถึงขั้นตัดสินใจสร้างเขื่อนหรือคันกั้นน้ำคอนกรีต ตลอดแนวลำน้ำ ทั้งเจ้าพระยา และป่าสักทั้ง 2 ฟากฝั่งบ้างแล้ว กรุงเทพฯ คงหนีไม่พ้นน้ำท่วมใหญ่ เพราะต้องรับปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่ต้องไหลผ่าน ในทุกปี แบบที่ไม่มีตัวช่วย  

ดังนั้น รศ.ดร.เสรี จึงเสนอทางรอด กทม. ด้วยการที่รัฐจะต้องหาพื้นที่ว่างเปล่า ใช้เป็นแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำให้ได้มากแห่งที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นหนทางเดียวที่มีความคุ้มค่าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและในด้านของสังคม  มากกว่าใช้วิธีอื่น  อาทิ สร้างเขื่อนดินบริเวณปากอ่าวไทย เพื่อกันน้ำทะเลหนุน  ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงมากและไม่คุ้มค่าเท่า  เพราะถ้าไม่ตัดสินใจสร้างจะกระทบทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและกระทบสิ่งแวดล้อมฯดีกว่าต้องเสียงบประมาณในการพื้นฟู ฯ เป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่มีวันสิ้นสุด

ทั้งนี้ รศ.ดร. เสรี สำทับ การสร้างแก้มลิงให้ เป็นที่เก็บน้ำยามน้ำหลาก ยอมรับแม้ต้องเสียงบประมาณในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินนับหมื่นล้านบาท หรือต้องเวนคืนที่ดินที่อยู่ริมแม่น้ำของประชาชนบ้าง รัฐก็ต้องดำเนินการ เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมมองด้านใดก็มีความคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนการแก้ ปัญหาน้ำท่วมของ จ.นครราชสีมา ที่เพิ่งประสบอุทกภัยครั้งใหญ่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตทรัพย์สิน และเศรษฐกิจอย่างไม่อาจประมาณได้นั้น  รศ.ดร.เสรีก็ยังเสนอให้ใช้วิธีเดียวกันในการแก้ปัญหา คือต้องสร้างแก้มลิง ไว้เก็บน้ำเช่นกัน แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ’การสร้างทางเบี่ยงน้ำเพื่อเลี่ยงเมือง’ เนื่องจากภูมิศาสตร์ของจังหวัดเป็นที่ราบสูง น้ำไหลผ่านลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วจึงไม่เหมือนกับภาคกลางซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม น้ำไหลช้ากว่า

อย่างไรก็ดี ข้อเสนอการแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งของ กทม. หรือที่ นครราชสีมา คงไม่อาจสำเร็จได้ หากการเมืองไทยยังคงมีความอ่อนไหว,อะลุ่มอหล่วย  และถ่อยทีถ่อยอาศัยกันเหมือนที่เป็นอยู่  ดังนั้นจึงต้องการบุคคลที่สามารถบรูณาการฯหน่วยงานราชการเพื่อแก้ปัญหาให้เด็ดขาด ในที่นี้ก็น่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  ต้องมีภาวะผู้นำและกล้าหาญด้วยการตัดสินใจ ทุบโต๊ะ! …… รศ.ดร.เสรี กล่าวทิ้งท้าย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงต้องพิสูจน์ภาวะผู้นำกล้าตัดสินใจ แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างบูรณาการ เพื่อไม่ใช้ปัญหาย้อนกลับมาอีก อาทิ ทำแก้มลิงเก็บน้ำในพื้นที่ทุกจังหวัดเหนือกรุงเทพมหานคร เพราะลงทุนน้อยกว่าวิธีการอื่น ไม่เช่นนั้นน้ำท่วมก็ตามมาหลอกหลอนประเทศไทยอีก..ไม่สิ้นสุด

未经允许不得转载：综合资讯 » ไทยรัฐออนไลน์……..