ปัดขวางประกัน แกนนำแดง ชี้เป็นอำนาจศาล
"มาร์ค"เชื่อม็อบแดงชุมนุมสงบ ปัดใช้อำนาจขวางแกนนำพ้นคุก น้อมรับเพิร์ก จัดไทยเสี่ยงก่อการร้ายสูง ชี้ ขวางตั้ง"วิเชียร"นั่งปลัด มท.แล้วแต่มุมมอง…
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมมาตรการรับมือการจัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 พ.ย.ว่า ทราบว่าขณะนี้ทางแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงและฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหารือกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแล้ว ส่วนการเปลี่ยนตัวผู้นำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)จาก นายวีระ มุกสิกพงศ์ เป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ จะทำให้สถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงเขามีระบบที่เป็นแกนนำหลายคนมาโดยตลอด
ด้านการที่ นายจตุพร ถูกมองว่าเป็นพวกฮาร์ดคอร์จะทำให้เกิดปัญหาในการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "คุณจตุพรก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร" ส่วนมีความเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมของแต่ละกลุ่มที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะดูแลให้การใช้สิทธิ์ในการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนยังมีความเป็นห่วงมือที่สาม ที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในช่วงนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องระมัดระวัง แต่ประเทศไทย ยังไม่ได้ห่างคำว่าปกติสุข ทุกคนต่างพยายามเดือนหน้าเข้าไปสู่ความสงบและความปกติสุข ตนคิดว่าสังคมไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหา และยังเห็นว่าในช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมจากภัยพิบัติ คนไทยได้แสดงน้ำใจมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างดีเราก็ต้องรักษาไว้ให้ได้ และทำอย่างไรไม่ให้คนจำนวนน้อยๆ ที่ยังมีความต้องการและไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย หมดเสียงลงไปจากสังคม คนที่อยากจะเรียกร้องแสดงออกสามารถทำได้ถ้าอยู่ในกรอบของความสงบเรียบร้อย
ขณะที่มีการกล่าวหาว่ามีการใช้อำนาจไปยับยั้งการอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงที่ยังถูกควบคุมตัวตามข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีการกระทำดังกล่าว ตรงกันข้ามตนถูกกล่าวหาว่าไปทำเรื่องการประกันตัว เรื่องการไปใช้อำนาจยับยั้งการให้ประกันตัวนั้นไม่มี
ส่วนที่มีการอ้างว่า พล.อ.ประวิตร ส่งหนังสือมาถึงแต่ไม่ได้รับการพิจารณา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่มีครับ มีแต่ผมนี่แหละที่ริเริ่มในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นความพยายามที่จะมาบิดเบือนกลบเกลื่อน เมื่อผมมาทำเรื่องนี้ (การประกันตัว) อย่างจริงจังก็พยายามจะมาหาว่าผมทำอีกอย่างเท่านั้นเอง” นายกรัฐมนตร กล่าว
ส่วน พล.อ.ประวิตร เคยทำหนังสือมาถึงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้รับเรื่องร้องเรียนในตอนนั้นซึ่งตนจำไม่ได้ว่ามาจากกลุ่มไหน แล้วก็นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และเท่าที่ตนทราบ พล.อ.ประวิตร สรุปว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของศาลจะทำได้หรือไม่ก็อยู่ที่ศาล ถ้ามีการรายงานมาถึงตน ซึ่งตนสั่งดำเนินการทุกเรื่องจะเห็นได้จากกรณีที่นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ทำหนังสือส่งมาตนก็สั่งการไปทันที ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาถึงความเป็นไป ได้ ความถูกต้อง ความเหมาะสม จุดยืนของตนเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะมากล่าวหาตนว่าไปทำอย่างนั้นอย่างนี้
ด้านความเคลื่อนไหวต่างๆที่ยังเกิดขึ้นขณะนี้จะทำให้การพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลต้องระงับไปก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังหวังว่าทุกฝ่ายไม่น่าจะมีความเห็นหรือจะเคลื่อนไหวในทางใดก็ตามจะยึดในเรื่องของความสงบเรียบร้อย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็ยังพยายามที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ต่อข้อถามว่า ล่าสุด บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ(เพิร์ก)เปิดเผยผลการสำรวจประเทศไทยติดกลุ่มเสี่ยงการก่อการร้ายร้ายอยู่ในอันดับ 7 ของโลก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เพราะเหตุการณ์ความวุ่นวายความรุนแรง และวิธีที่ทางเพิร์กทำ ก็ดูจากความถี่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ทำให้เหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมามีผลต่ออันดับของไทย เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนไม่ต้องการให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพที่ถูกมองเช่นนี้ ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ
ส่วนถือว่าเป็นการซ้ำเติมความเชื่อมั่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะถ้าประเทศไทยถูกมองว่ามันไม่สงบก็มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งต้องมีความหวาดกลัว และมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ สังคมในภาพรวม ตนถึงได้บอกว่าเราเห็นแตกต่างกันในเรื่องใดก็ตาม ขอให้ทุกคนเห็นตรงกันได้เสียที และเราต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย และความรุนแรงทุกอย่างมันมีเวทีในการที่จะคลี่คลายปัญหาของมันตามเหตุและผล
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ 6 ข้าราชการผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง นายวิเชียร ชวลิต อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ตนได้รับหนังสือแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของมุมมอง เพราะตนได้บอกแล้วว่า ตนมีหน้าที่ที่จะต้องดูว่ากระบวนการที่ผ่านมานั้นถูกต้องหรือไม่ และบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อนั้นมีปัญหาหรือไม่ อย่างกรณีนายมงคล สุระสัจจะ ที่มีการตรวจสอบแล้วไปติดกับเรื่องการเช่าระบบคอมพิวเตอร์กระทรวงมหาดไทยก็ดำเนินการไป
ด้านมีข้อร้องเรียนว่านายวิเชียร นั้นข้ามลำดับอาวุโส นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ก็นั่นแหละ มันก็กลับไปเรื่องเดิมอย่างเดียวเรื่องอาวุโส ซึ่งความจริงนั้นเรื่องลำดับอาวุโสนั้นมีกระบวนการของมันอยู่ว่า คนที่อยู่ในข่ายจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งมีใครบ้าง เมื่อถามว่า มีข้อเรียกร้องเรื่องข้าราชการได้รับความเดือดร้อนในยุคที่พรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงมหาดไทย นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าวแต่อย่างใด
未经允许不得转载:综合资讯 » วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2553