นายกฯมั่นใจแจงยูเอ็นหวังดึงเขมรกลับโต๊ะเจรจา

นายกรัฐมนตรี มั่นใจหลักฐานไปชี้แจงสหประชาชาติ หวังดึงให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจา ระดับทวิภาคีได้…

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 13 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงสถานการณ์ไทยกัมพูชา ว่า แม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในบางพื้นที่ซึ่งก่อนหน้านี้มีการปะทะกัน เหตุการณ์สงบมาเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์และมีพี่น้องประชาชนได้เดินทางกลับ โดยการดูแลของเจ้าหน้าที่ อยากเรียนให้ทราบว่าการติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหายังมีการดำเนินการอย่างใกล้ชิด เร่ิมจากการดูแลพี่น้องประชาชน ได้มีการระดมของไปช่วยเหลือ และตนได้วีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยสรุป การอพยพดำเนินการได้ราบรื่น การฟื้นฟูและความปลอดภัย คณะรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าจะระดมกำลังไปซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังหรือบางส่วนให้กลับสู่สภาพเดิม  เช่นเดียวกัน ปัญหาเรื่องหลุมหลบภัย การเตรียมแผน จังหวัดสามารถใช้เงินทดรองจ่ายในเรื่องนี้ และทางกองทัพ ฝ่ายปกครอง จังหวัดองค์กรฝ่ายปกครอง ดูแลตรงนี้

ในช่วงที่ผ่านมาสภาได้ใส่ใจเรื่องนี้ วุฒิสภาวันจันทร์ มีการประชุมลับ และ กระทู้ถาม และในวันพุธได้มีการพิจารณาญัตติ ในสภาผู้แทนราษฎร โดยรวมแล้วความร่วมมือของสมาชิกรัฐสภาและรัฐบาลร่วมมือด้วยดี ขอขอบคุณ ส.ส.ในพื้นที่ฝ่ายค้านและรัฐบาล การอภิปรายที่แม้จะแตกต่างกัน แต่เป็นไปในบรรยากาศที่ดีสร้างสรรค์ จากการอภิปรายทุกคนเห็นตรงกันสิ่งสำคัญที่สุด คือ ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งสองสภาสนับสนุนการเจรจาแต่หากมีการรุกล้ำอธิปไตยกองทัพก็ตอบโต้อย่างสมควรแก่เหตุ

แนวความคิดของสภาฯ รัฐบาลได้รับไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเฉพาะจุด ที่ปราสาทพระวิหาร ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด สืบเนื่องจากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่จะต้องเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ ซึ่งค้างคาไว้ 2 ปี ตนได้พบนายกฯกัมพูชา ที่จะต้องเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ ที่ให้ปลอดจากกองกำลัง แต่ตนยืนยันว่า ยังไม่สามารถทำได้ เพราะการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติเรื่องของการจัดทำเขตแดน เพราะมีเอ็มโอยู 43 มีกระบวนการเจบีซี ซึ่งคุยอยู่ ความพยายามให้ไทยถอยออกมาไม่เป็นผล
เชื่อว่า เป็นเพราะกัมพูชาจะยกระดับเรื่องนี้ เห็นได้จากทันทีที่มีการปะทะกันกัมพูชาร้องไปยังสหประชาชาติ ต้องการให้สหประชาชาติแทรกแซง เพื่อบริหารจัดการจุดนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกัมพูชาด้วยเหตุผลนี้ ไทยจึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชาวโลกและประชาคมโลกรับทราบ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหประชาชาติ ยูเนสโกและอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง รมว.ต่างประเทศ กำลังไปปารีส และนิวยอร์กในวันจันทร์นี้ เพื่อชี้แจงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง ประธานเจบีซีได้เดินทางไปยูเนสโก เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เราได้เตรียมหลักฐานไว้พร้อม แจงว่าเหตุปะทะเริ่มจากกัมพูชายิงก่อนทั้งสิ้น มีเรื่องการลำดับเหตุการณ์ที่เป็นกำหนดเวลา ยืนยันจากปฏิบัติการกองทัพของเราที่มีการตอบโต้ไปพื้นที่ทางเป้าหมายทหารเท่านั้น พลเรือนของเรานับหมื่นได้รับผลกระทบ ไปจนถึงทางกัมพูชาใช้พระวิหารเป็นปฏิบัติการทางทหารซึ่งขัดกับข้อตกลงระหว่างประเทศ และเรื่องมรดกโลกอย่างชัดแจ้ง เรามีภาพถ่ายพร้อม

สื่อต่างประเทศมีคำสัมภาษณ์ ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่พูดเองว่าใครยิงก่อนไม่สำคัญ ไปจนถึงทหารกัมพูชาสัมภาษณ์ยอมรับว่าเป็นฝ่ายยิงทหารไทยมาก่อน จึงมั่นใจที่จะชี้แจงให้เห็นว่า ที่ทางกัมพูชาพยายามเรียกร้องว่าเราเริ่มก่อน และให้ประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซง ไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามเราจะเรียกร้องว่า การดำเนินการต้องเจรจา 2 ฝ่ายทวิภาคี ว่าด้วยการจัดทำเขตแดน และ ในระหว่างนี้ยูเนสโก หรือ มรดกโลกควรลดการทำให้เกิดแรงกดดัน โดยยุติการเดินหน้าเกี่ยวกับแผนจัดการบริหารพื้นที่ ที่เรายังพิพาทกันอยู่ และมั่นใจว่าการทำความเข้าใจจะทำให้ประชาคมโลกมองเห็นได้ตามเป็นจริง ตนได้คุยกับเลขาธิการสหประชาชาติ และ รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานอาเซียนปีนี้มาพบรมว.ต่างประเทศ 2 ฝ่าย  และ เดินทางไปที่นิวยอร์ก และมีการนัดประชุม รมว.ต่างประเทศอาเซียน วันที่ 22 ก.พ. เชื่อว่าอาเซียนสนับสนุนการเจรจาจะเกิดประโยชน์ ทำให้เกิดความสงบสุข ขณะนี้มีเพียงกัมพูชาที่ออกข่าวตลอดเวลา ซึ่งคาดว่าเป็นเช่นนั้นจนกระทั่งมีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในลักษณะที่จะปฏิเสธกลไกของเจบีซี หรือกลไกตามเอ็มโอยู เพราะต้องการบอกประชาคมโลก ให้แทรกแซง

ตนอยากย้ำอีกครั้งว่า ที่มีการชุมนุมให้ยกเลิกเอ็มโอยู เจบีซี หรือถอนตัวมรดกโลก ขอยืนยันว่า ต้องปฏิเสธเพราะต้องยึดมั่นในประโยชน์ส่วนรวม หากไปยกเลิกกลไกทวิภาคี  จะเป็นการสนองตอบต่อฝ่ายกัมพูชา ที่ต้องการให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยและ หากถอนตัวมรดกโลกจะทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนได้แต่ฝ่ายเดียว และโน้มน้าวกรรมการมรดกโลก หนทางแก้ปัญหานี้ต้องยืนอยู่บนการเจรจา 2 ฝ่าย ยืนยันทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความสุจริต กระบวนการเอ็มโอยู เจบีซี ไทยต้องผ่านรัฐสภา ซึ่งใกล้เรียบร้อยในแง่การให้การรับรองบันทึก เพื่อการประชุมในรอบต่อไป เพราะฉะนั้นขอเรียนว่าไม่ได้ตั้งอยู่บนความประมาท แนวชายแดนการประสานงานระหว่างกองทัพ ฝ่ายปกครอง ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าเต็มที่ในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ และ ให้สหประชาชาติสามารถชี้นำให้กัมพูชากลับมาสู่โต๊ะเจรจา  ที่เป็นการเจรจาทวิภาคีได้

未经允许不得转载：综合资讯 » นายกฯมั่นใจแจงยูเอ็นหวังดึงเขมรกลับโต๊ะเจรจา