แม้วันแห่งความรักจะผ่านพ้นไปเพียงหนึ่งวัน แค่ความฮิตของวาเลนไทน์ กับปฏิบัติการบอกรักขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ชี้คนไทยในต่างแดนแห่ใช้บริการบอกรัก 5 พันบาทขาดตัว เพลง Too much So much Very Much พี่เบิร์ด คู่รักชอบมากที่สุด…
สินค้าและบริการเกี่ยวกับความรัก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอีกครั้งกับอีกหนึ่งปรากฏการณ์พิสูจน์กระแสความนิยมของวันวาเลนไทน์ว่ามี “พลานุภาพ” กับคนไทยมากมายแค่ไหนยิ่งในยุคที่คนรุ่นใหม่ที่ชอบความแตกต่างในการบอกรักมากยิ่งขึ้น…
"วันนี้เรามีงานบอกรัก 10 ที่ จริงๆ มีมากกว่านี้มาก แต่รับไม่ไหว…" นายศรายุทธ เพิ่มพูนหัวหน้ากลุ่มฟินิกส์ 29 อดีตนักศึกษาที่จบจาก ม.เชียงใหม่ การันตรีความฮอตของคนยุคใหม่ที่ชอบความแตกต่างในการบอกรักแบบหลุดโลกช่วงวันวาเลนไทน์ผ่านไทยรัฐออนไลน์
“วันนี้เรามีงานกว่า 10 แห่งครับ แต่ที่น่าแปลกก็คือเกือบครึ่งของคนที่แห่มาใช้บริการเป็นคนที่อยู่ต่างประเทศใช้ผมมาร้องเพลง มาบอกรักคนที่อยู่เมืองไทย เช่น คู่พ่อลูก ซึ่งลูกไปเรียนที่ประเทศอังกฤษใช้บริการให้ผมไปบอกรักคุณพ่อที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรืออย่างคู่รักอเมริกาจ้างมาบอกรักแฟนที่ ม.ธรรมศาสตร์ คู่รักแคนาดาจ้างไปบอกแฟนที่อโศก เป็นต้น”
สำหรับเพลงที่ถูกจ้างให้ไปบอกรักกันในช่วงวันวาเลนไทน์มากที่สุด หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการบอกรักบอกว่า คือเพลง Too much So much Very Much ของ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์
ขณะเดียวกัน นางสาวชนินทร เพ็ญสูตร หรือ “เอื้อย” สาวสวยจากคณะรัฐศาสตร์ ที่ปัจจุบันได้ทุนจากสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ระดับปริญญาโท-เอก หนึ่งในผู้ใช้บริการบอกรักด้วยวิธีแปลกๆ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ บอกว่าปีนี้วันวาเลนไทน์ได้ใช้บริการจากฟีนิกซ์ 29 ไปบอกรักให้กับ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการกองการศึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“ฮิตมากค่ะ ส่วนใหญ่คนที่อยู่ต่างประเทศเมื่อก่อนอาจจะแค่โทรศัพท์ข้ามประเทศไปบอกรัก แต่ปัจจุบันมันมีบริการแปลกๆ และน่ารัก ก็เลยลองใช้ดู แต่ไม่ได้ทำให้กับแฟน แต่เป็นการบอกรักคุณพ่อ ครั้งแรกที่ติดต่อไปเราก็ระบุเพลงที่ท่านชอบไป อย่างเพลงวนิพกพเนจร แอ๊ดคาราบาว เพราะท่านชอบเพลงนี้ แต่พักหลังคนบอกไม่ให้ร้องเพราะความหมายไม่ดี แต่ท่านชอบมาก “มาร์ชผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ที่ร้องว่าเกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง และเพลงเก่าของ The Beatles เขาก็บอกว่าเป็นเพลงเก่าแล้วนะขอฝึกก่อน ร้องฝึกเต้นก่อน เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่คุณพ่อเราก็อายุเยอะเกือบ 60 ปีแล้ว พอ 10.00 น.ไปถึงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติท่านเห็นเซอร์ไพรส์ในการร้องเต้นบอกรักและให้ดอกกุหลาบจากลูก เพื่อนที่ไปถ่ายวีดิโอมาให้บอกว่าท่านยิ้มแก้มปริโดยเฉพาะเพลง "วนิพกพเนจร"
เอื้อยฝากบอกด้วยว่า ในวันวาเลนไทน์ไม่จำเป็นต้องบอกรัก หรือแสดงออกเฉพาะคู่หนุ่มสาว แต่ถ้าเราจะเอาวัฒนธรรมวันนี้มาสร้างสรรค์ก็คือ เราก็สามารถบอกรักได้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่ หรือคนที่มีพระคุณต่อเรา
“ถามว่าค่าใช้จ่ายแพงไหมกับ 5,000 บาท เราคิดว่าถึงจะแพงไปหน่อย แต่ทำให้กับคนรักเรามีความสุข โดยเฉพาะเป็นความสุขของคนเป็นพ่อก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะท่านไม่มีใคร เนื่องจากคุณแม่เสียมาหลายปีแล้ว ท่านมีความสุขในฐานะลูกเราก็ดีใจ”
ด้านนางสาวศิริพร เอี่ยมละมัย กล่าวยืนยันว่า ในปีนี้ของขวัญวันวาเลนไทน์ไม่ใช่ดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต และตุ๊กตา สำหรับคู่รักทุกคนแล้ว เพราะวัยรุ่นโดยเฉพาะคนที่เรียนอยู่ในต่างประเทศนิยมบอกรักแบบใหม่โดยการจ้างหน่วยบริการบอกรักกันมากขึ้น
"ถามว่าแพงไหม แพงมากๆ ถ้าคุณอยู่ต่างประเทศแล้วจะจ้างให้เขามาบอกรักให้คุณ แต่ถ้าจ้างมาบอกรักกับคุณพ่อ คุณแม่ หรือคนที่เรารักเงินแค่นี้ถือว่าคุ้มค่า ดีกว่าซื้อดอกไม้ ให้แล้วก็แลกกับการเสียตัว"
และนี่ก็คืออีกหนึ่งทางเลือกของคนรุ่นใหม่ รักความแตกต่างและความทันสมัย ที่ใช้วันวาเลนไทน์ เทศกาลตะวันตกมาแสดงออก โดยไม่คิดว่าวันวาเลนไทน์มันจะเกี่ยวกับ “วันแห่งการเสียตัว” อย่างที่ใครหลายๆ คนเชื่อแบบนั้น…
未经允许不得转载:综合资讯 » วาเลนไทน์… คนแห่ใช้ปฏิบัติการบอกรักสุดเว่อร์ 5พันบาทขาดตัว