อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกโรงเตือนการ "จูบ" นานๆ เสี่ยงติดโรคเพียบ หวั่นไข้หวัด 2009 เชื้อแบคทีเรียที่มาจากน้ำลาย และเสมหะ ด้านนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กซ์ย้ำจูบไม่เป็นมีปัญหา หวั่นเสนอภาพมากเด็กเลียนแบบ…
ในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา นอกจากความดีใจที่คนไทยสามารถทุบทำลาย และสร้างสถิติใหม่ด้วยเวลา 46 ชั่วโมง 24 นาที 9 วินาที (เกือบ 2 วัน) ทุบสถิติเดิม 32 ชั่วโมง 7 นาที 14 วินาที ในการแข่งขันที่ประเทศเยอรมนีเมื่อปีก่อนอย่างขาดลอย และสร้างสถิติโลกกับการแข่งขันจูบมาราธอน (World’s Longest Continuous Kiss) แล้ว สิ่งที่หลายคนเป็นห่วงก็คือ เรื่องโรคติดต่อมากมายที่มีอยู่ในปาก และน้ำลาย
เรื่องนี้ไทยรัฐออนไลน์สอบถามไปยังนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า ปกติการจูบกันถ้าไม่ถูกวิธีก็จะมีสิทธิติดเชื้อโรคในช่องปาก โรคที่มาจากน้ำลาย และเสมหะมากมาย และยิ่งจูบกันในระยะเวลานานๆ เป็นวันๆ แบบที่แข่งขันนี้ด้วยหากสัมผัสแบบไม่ถูกวิธีก็จะมีอันตรายมากๆ โดยเฉพาะน้ำลายที่แลกกันในปริมาณมากๆ ถือว่าเป็นเืรื่องเสีี่ยงต่อสุขภาพอนามัน
"โดยปกติแล้วคนเราจะมีเชื้อโรคที่แฝง และอาศัยในปาก และจมูกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคแบคทีเรีย โรคไข้หวัด 2009 กระทั่งหากปากมีแผล หรือจูบแล้วปากมีบาดแผลก็จะเสี่ยงการติดเชื้อโรคมหาศาล โดยเพราะคนจูบที่มีภูมิต้านทานต่ำ เพราะยิ่งจูบกันนานขนาดนี้โอกาสที่ร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็จะทำให้ติดเชื้อโรคง่ายมาก"
สำหรับวิธีสังเกตการณ์อาการติดเชื้อ อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า หากรู้สึกอ่อนเพลียให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
"สิ่งที่ผมเป็นห่วงประการสุดท้ายก็คือ ถ้าหากจูบกันนานๆ แล้วข้ามวัน และไม่ได้แปรงฟัน มีโอกาสที่เชื้อโรคจะสะสมจะมีมากเป็นเท่าทวีคูณเช่นกัน" ผู้เชี่ยวชาญการควบคุมโรคกล่าว
ขณะเดียวกัน พญ.อัญชุลี ธีรวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์ นักจิตแพทย์วัยรุ่นจากโรงพยาบาลตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กซ์ให้คำแนะนำวิธีการจูบที่ปลอดภัยว่า วิธีการจูบที่ถูกต้อง ก่อนอื่นจะต้องรู้จักคนที่เราจะจูบให้ดีก่อนว่าปลอดภัย ไม่แลกน้ำลาย ไม่บดขยี้ เพราะเสี่ยงเป็นแผล เพราะจะมีโรคบางอย่างที่สามารถติดต่อได้ทางน้ำลาย และลมหายใจ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบเอ โรคเริม โรคหวัด วัณโรคปอด เป็นต้น
"หมอแนะนำลักษณะการจูบที่ถูกต้อง คือจูบโดยสัมผัสทางริมฝีปากธรรมดาๆ ไม่ควรกดริมฝีปากแรงๆ เพราะยิ่งการจูบอย่างดูดดื่มอันตรายมากๆ และยิ่งจูบดูดดื่มนานเท่าไหร่มีโอกาสที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคได้นานมากขึ้น และที่สำคัญหากผู้จูบมีแผลในปากอันตรายมากเพราะว่าโรคต่างๆ จะวิ่งตรงเข้าสู่ร่างกายได้ "
สุดท้าย นักจิตแพทย์ผู้นี้ยังเตือนการเสนอข่าวนี้ว่า ควรจะระมัดระวัง เพราะการเสนอภาพซ้ำๆ กันเด็กที่ไม่มีวิจารณญาณและไม่มีผู้ปกครองอยู่ร่วมให้คำชี้แนะจะะเลียนแบบ
未经允许不得转载:综合资讯 » เตือน ‘จ๊วบมาราธอน’ เชื้อโรคในปากอื้อ ขยี้ปากไม่เป็นเอดส์ถามหา