综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

ยื้อไปยิ่งแต้มหล่นหาย

ยื้อไปยิ่งแต้มหล่นหาย

เรื่องจริงๆชัวร์ๆจากปากผู้นำรัฐบาลที่คนไทยรู้ทีหลังฝรั่งทุกครั้งไป

ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คาดการณ์การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นภายในกลางปีนี้ ตามประโยคภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทยให้พอจับทางได้

"มันจะเป็นการเลือกตั้งที่คู่คี่เหมือนกับในครั้งที่แล้ว ยกเว้นแต่ว่าเราจะเป็นฝ่ายนำหน้าเล็กน้อย ผลโพลครั้งหลังๆมานี้ แสดงให้เห็นว่าเรากำลังนำหน้าในทุกๆโพลยกเว้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"

"แต่ผมมั่นใจว่าเราสามารถที่จะรักษาที่นั่งเดิมของเราไว้ได้แทบทั้งหมด โดยที่เราจะได้ที่นั่งเพิ่มในภาคกลาง และได้ที่นั่งเป็นกอบเป็นกำในภาคเหนือ"

โชว์ปัจจัยเอื้อให้พร้อมกดปุ่มยุบสภา

"อภิสิทธิ์" สปีกอิงลิชกับนักข่าวฝรั่ง และก็เป็นนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ที่ออกมาสำทับกับนักข่าวไทยว่า นายกฯอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการยุบสภา คือบวกลบ 2 เดือนจากเดือนมิถุนายน คือเร็วที่สุดเมษายนและช้าสุดสิงหาคม

รัวเกราะ เคาะกะลาถี่ขึ้นเป็นลำดับ

ในจังหวะที่จับทางได้ นอกจากความมั่นอกมั่นใจที่นายกฯอภิสิทธิ์คุยโวผ่านสำนักข่าวต่างประเทศ กำลัง "แต้มนำ" คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย

แต่ที่ไม่ได้พูดตรงๆก็คือ "ไฟลนก้น" ไล่หลัง ตามสถานการณ์ที่รัฐบาลกำลังทำคะแนน นิยมหล่น แต้มหดหายในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนยุบสภา จากวิกฤติสารพัดที่กำลังรุมเร้า

ล่าสุดถึงคิวจอมเก๋าอย่างนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดปฏิบัติการ "ปล่อยของ" อ้างข้อมูลอินไซด์จากวงอาหารค่ำของเหล่าผู้อาวุโสพรรค ที่ระดับลายครามของประชาธิปัตย์มากันครบหน้าทั้ง "ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน-มารุต บุนนาค-พิชัย รัตตกุล-สาวิตต์ โพธิวิหค-สุทัศน์ เงินหมื่น ฯลฯ"

รับรู้ข้อมูลวงใน "ส" ที่ "สวาปาล์ม" จนเกิดวิกฤติน้ำมันปาล์ม ไม่ใช่ "สุเทพ" แต่เป็น "ส" ที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่อยู่โคราช

ไม่ต้องใบ้กันมากมาย แค่แกะรอยตาม "ลิ้นไก่" เป้าหมายน่าจะโยงจิ๊กซอว์เข้าหา "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" บอสใหญ่พรรครวมชาติพัฒนา เจ้าของโควตากระทรวงพลังงาน ในฐานะหลานเขยใหญ่ของ "ย่าโม"

เข้าเหลี่ยมตามฉากพอดี

แน่นอน ถ้าประเมินกันตามสถานะของนายพิเชษฐ ที่เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีรุ่นใหญ่ พ่วงด้วยฐานะคหบดีใหญ่ของจังหวัดกระบี่ ผู้เป็นเจ้าของสวนปาล์มหลักพันหลักหมื่นไร่ น่าจะรู้ข้อมูลอินไซด์เป็นอย่างดี

แต่ในเหลี่ยมเขี้ยวของคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ โดยปฏิบัติการของนายพิเชษฐเกิดขึ้นในห้วงที่คนยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์กำลังดิ้นหนีสภาพ "จนแต้มกลางกระดาน" ตามปรากฏการณ์ก่อนหน้าที่ "เทพเทือก" เล่นบท "ออกงิ้ว" ชิ่งน้ำมันปาล์มเดือดๆให้ "เจ๊วา" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ของพรรคภูมิใจไทย รับเหมา ไปเต็มๆแต่ผู้เดียว

เหยียบบ่าพรรคร่วมรัฐบาล เบี่ยงกระแสให้พ้นตัว

แต่ก็ยังไม่เป็นผล อาการคาใจของประชาชนสะท้อนผ่านโพลหนุนให้ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สาวไส้ปม "สวาปาล์ม" ลามถึงปัญหาปากท้องประชาชน ขึ้นกระดานชื่อของ "สุเทพ" เป็นอันดับหนึ่งในคิวรัฐมนตรีที่ควรโดนซักฟอกมากที่สุด ตามด้วยนายกฯอภิสิทธิ์

ตีกรรเชียงชิ่งหนียังไงก็ไม่พ้น คนรู้ทันเหลี่ยม "ลอยตัว"

ทั้งหมดทั้งปวง โดยรูปการณ์ที่ฟ้องว่าใกล้ถึง "จุดสลบ" เต็มที ตามปรากฏการณ์ที่คนระดับอาจารย์ใหญ่อย่างอดีตนายกฯชวน ยังนั่งไม่ติด ต้องกระโดดออกจากหลังฉากมาเปิดเมนู "นึ่ง" กับ "ต้ม" แทนการทอด ลดการใช้น้ำมันปาล์ม ประคองสถานการณ์ ช่วยรัฐบาล

ล่าสุดมาถึงคิวนายพิเชษฐที่อาศัยลูกเก๋า อ้างข้อมูลอินไซด์จากวงข้าวของจอมเก๋าพรรคประชาธิปัตย์ "ปล่อยของ" ปริศนาอักษรย่อ "ส" แห่งโคราช เป็นตัวจริงที่โกยผลประโยชน์ ไม่ใช่ "สุเทพ" ตามที่กระแสสังคมปักธงเชื่อไปแล้วแต่อย่างใด

มันเป็นอะไรที่เห็นภาพ วิกฤติ "สวาปาล์ม" ลามเข้าเนื้อยี่ห้อประชาธิปัตย์ จนต้องสลัดน้ำมันปาล์มที่กำลังเดือดๆให้ลวกพรรคร่วมรัฐบาล

ช่วยแบ่งเบาอาการปวดแสบปวดร้อน.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

未经允许不得转载:综合资讯 » ยื้อไปยิ่งแต้มหล่นหาย

赞 (0)
分享到:更多 ()