"เลือดเย็น" ไม่เว้นพ่อกับลูก
ตามน้ำเสียงเย็นชาของนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ พูดถึงกรณีที่นายวราทิต ไชยนันทน์ ลูกชายคนโต เปิดตัวบนเวทีเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตาก ในนามพรรคเพื่อไทย
"เชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้คงมีแรงจูงใจอะไรบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะเคยพูดมาตลอดว่าผมทำงานการเมืองมาหลายปี ก็ยังลำบากและยังจนอยู่"
สูตรสำเร็จของการ "สั่งสอน" พวกแปรพักตร์จากยี่ห้อประชาธิปัตย์ ต้องโดนปูนป้ายหัว "ประจาน" เป็นพวกเห็นแก่ "ปัจจัยล่อ" ทุกรายไป
กฎเหล็กไม่มีการเว้นให้แม้แต่คนสายเลือดเดียวกัน
แต่ก็เป็นอะไรที่ถือว่า "เข้าเป้า" กับการดึงเอาคนนามสกุล "ไชยนันทน์" ข้ามขั้วจากพรรคประชาธิปัตย์มาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ช่วยทำให้รายการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตทั่วประเทศ ลอตแรกของพรรคเพื่อไทยกลายเป็นประเด็นฮือฮา
ชิงพื้นที่ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์มาได้เยอะก็แล้วกัน
เพราะในเหลี่ยมเชิงทางการเมืองนั้น ถือเป็นการบลัฟ "หักหน้า" กันแรงๆ
แต่ที่บลัฟกันเนียนๆแถมยังแสบทรวงกว่า โดยช็อตต่อเนื่องกัน กับคิวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ "โฟนอิน" เข้าให้นโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งกับบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง แสดงความมั่นใจจะได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั้ง พร้อมกับเปิดสเปก 7 ข้อของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
โฟกัสกันเฉพาะแค่คุณสมบัติข้อ 1. มีประสบการณ์ ไม่ใช่พ่อแม่หรือใครปั้นให้เป็น กับข้อ 2. เข้าใจเศรษฐกิจภาคประชาชน
เหมือนจงใจกระแทกชิ่งใครบางคนแบบตรงๆ
ในปรากฏการณ์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี "เส้นใหญ่ตระกูลดี" กำลังนั่งไม่ติด "ก้นร้อน" กับวิกฤติ "สวาปาล์ม"
ถึงขั้นต้องลงทุนเดินสายตรวจตามห้างค้าปลีกในกรุงเทพฯและชานเมืองด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การกักตุน การขาดแคลน และการจำกัดปริมาณการซื้อ รวมถึงยังได้ไล่เบี้ยสอบถามกับผู้จัดการสาขาห้างบางแห่งที่ไม่มีน้ำมันปาล์มวางขายอยู่บนชั้น จับพิรุธกักตุนกันซึ่งๆหน้า
เรียกว่า ลงพื้นที่ไล่บี้กันแบบถึงลูกถึงคน
และก็เจอจังๆประเภทที่ดูฝาจุกบ่งบอกวันเดือนปีผลิต น้ำมันปาล์มบางขวดส่วนใหญ่ผลิตวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ แต่บางขวดระบุวันผลิตเป็นเดือนมกราคม
อมแล้วคายกันให้เห็นๆ เป็นอะไรที่ยืนยันการกักตุนเก็งกำไร
จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน นายกฯ อภิสิทธิ์ต้องเหนื่อยหนักกับการดิ้นหนีภาวะ "จนแต้ม" กับวิกฤติน้ำมันปาล์ม และกำลังลามถึงสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่นที่พาเหรดขอขึ้นราคา
แนวโน้มสถานการณ์สินค้าแพงอั้นไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
โดยปรากฏการณ์ความเดือดร้อนลามถึงปากท้องประชาชน กระแส ความไม่พอใจของผู้คนในสังคมกำลังอยู่ในอารมณ์ร่วม ตามโพลที่หนุนให้ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ แถมยังพัวพันเรื่องทุจริตคอรัปชัน
เปิดคางให้ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ประจานความอ่อนเชิงบริหารเศรษฐกิจ ตอกย้ำปมด้อยของนายกฯอภิสิทธิ์และคนประ-ชาธิปัตย์
แย็บ "จุดสลบ" บ่อยๆ ถึงไม่น็อกก็ช้ำหนัก
สถานการณ์บ่งชี้ว่าซีเรียส ถึงขั้นที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจ-วิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุมพรรคได้สั่งเปิดยุทธการพิเศษเป็นการด่วน
"ปฏิบัติการตีท้ายครัว"
ด้วยการให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 175 คน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนแบบเข้าถึงก้นครัวให้ได้ 2,500 หลังคาเรือน ภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อพูดคุยสอบถามถึงผลกระทบจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันปาล์ม น้ำตาล กะปิ น้ำปลา
แล้วนำข้อมูลดิบมานำเสนอต่อพรรคในการประชุมสัปดาห์หน้า
และก็ให้บังเอิญใจตรงกันกับอดีตนายกฯทักษิณก็สั่งลูกทีม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้เดินเข้าหาประชาชนโดยไม่แบ่งข้างว่าเป็นสีแดงหรือสีเหลือง ในจังหวะตามน้ำ ย้ำปมความเดือดร้อนของชาวบ้านในภาวะข้าวยากหมากแพง เก็บข้อมูลมาเป็นฐานในการกำหนดแนวทางการแก้ไข ตามเหลี่ยมบลัฟสอนเชิงรัฐบาล
ชิง "แต้มต่อ" ในสถานการณ์ใกล้เลือกตั้งใหญ่
"ทักษิณ" ตามบี้ "จุดสลบ" ไม่ปล่อยเหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง
未经允许不得转载:综合资讯 » เดิมพันอยู่ที่ ‘จุดสลบ’