ส.ส.รวมชาติฯ จี้ นายกฯเร่งช่วย “วีระ-ราตรี” ซัดเป็นฝ่ายค้าน-รัฐบาลพูดไม่เหมือนกัน คาใจสัญญาปรองดอง ขณะที่ นายกฯแจงเร่งช่วยแล้วแต่ติดที่ทีมกม.ขัดลำกล้องกันเอง พูดรอบที่ร้อยพร้อมยุบสภา…
เมื่อเวลา 09.45 น. ที่รัฐสภา า มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าไม่เห็นด้วยที่ กกต.จะจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า 2 วัน เพราะทราบว่ามีปัญหาการทุจริตและมีการเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นคุณกับนักการเมือง โดยมีข้าราชการที่มีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นในการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้น ควรหาทางป้องกันสกัดการทุจริต จึงขอเสนอให้ กกต.กำหนดจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแค่วันเดียว ซึ่งผู้ใช้สิทธิ์จะต้องมีการแจ้งเหตุผลให้ชัดเจนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า จึงคิดว่าแค่วันเดียวเท่านั้นเชื่อว่าน่าจะเพียงพอ ไม่ควรกำหนดให้มีหลายวันต่อมาได้มีการพิจารณาวาระกระทู้ถามสด การแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน
โดยนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ส.ส.นครราชสีมา พรรครวมชาติพัฒนา กล่าวว่า วันนี้กลุ่มคนที่เคยรักออกมาด่านายกฯหยาบคายเหยียดหยามอย่างเปิดเผย กรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีคนไทย 7 คน ถูกกัมพูชาจับตัว โดยข้องใจว่าทำไมรัฐบาลไม่ช่วย 2 คนที่เหลือคือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ แนวร่วมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ แถมดูเหมือนว่ามีความสะใจด้วย
จึงอยากทราบว่ารัฐบาลจะมีวิธีพิเศษเพื่อดำเนินการช่วยเหลือนอกจากวิธีการปกติที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นี้หรือไม่ รวมถึงนายกฯบอกมาตลอดว่าจะทำให้เกิดความปรองดองในชาติให้ได้ แต่วันนี้กลับแย่ลง กลุ่มเสื้อเหลืองออกมาชุมนุมต่อต้านเรื่องปราสาทพระวิหาร ขณะที่เสื้อแดงก็เริ่มออกมาเรียกร้องกรณีที่กดดันไล่จับ ที่นายกฯเคยพูดว่า จะยุบสภาเมื่อบ้านเมืองเรียบร้อย สงสัยว่านายกฯเคยสำรวจหรือไม่ว่าอะไรที่เคยพูดไปแล้วแต่ไม่ได้ทำ ทำให้วันนี้โดนโจมตีหนัก
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า การช่วยเหลือคนไทยที่เหลืออีก 2 คน ถือเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลที่ต้องช่วยคนไทยทุกคน ไม่มีคนในรัฐบาลสะใจกับเรื่องนี้ แต่ความยากของการช่วยเหลือคือ ทั้ง 2 คน มีข้อหาเรื่องการใช้กล้องถ่ายภาพสถานที่หวงห้ามของกัมพูชาเพิ่มมาด้วย นอกเหนือไปจากข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเข้าไปในสถานที่ราชการ ซึ่งแนวทางที่รัฐบาลแนะนำในการช่วยเหลือทั้ง 7 คน ในตอนแรก คือ พยายามขอให้ตัดสินเร็วขึ้น ซึ่ง 5 คน แรกก็โดนปล่อย แต่อีก 2 คนที่เหลือไม่มั่นใจลงนามจึงล่าช้าออกมา มาถึงตอนนี้มี 2 แนวทางคือ 1.อุทธรณ์ 2.ขออภัยโทษ ซึ่งต้องให้ครอบครัวทั้ง 2 คนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ก็เกิดปัญหาอีกว่ามีการตั้งทีมกฎหมายซ้อนกัน 2 ทีม ไปคนละแนวทาง แต่รัฐบาลยังมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนให้กัมพูชาปล่อยตัวให้ได้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. มีการบิดเบือนคำให้สัมภาษณ์ของตน ที่บอกว่าต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่มีการสื่อออกมาจนกลายเป็นว่าตนไม่สนใจหรือลอยแพทั้งสอง ซึ่งไม่ใช่ เพราะการเจรจาถ้าก้าวพลาดโอกาสจะไม่กลับมา ขอยืนยันให้ความมั่นใจว่าจะช่วยทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่ได้รับอิสภาพกลับมาเร็ววัน และได้ใช้ทุกช่องทางที่ทำได้ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย แต่การใช้ช่องทางใดต้องไม่กระทบสิทธิและอธิปไตยของไทย
“ส่วนเรื่องการปรองดองกรณีคนเสื้อแดง รัฐบาลพยายามลดเงื่อนไขความขัดแย้ง กรรมการอิสระสอบสวนหาข้อเท็จจริง ก็ดูสิทธิขั้นพื้นฐานการประกันตัว ทำให้มีบุคคลถูกคุมขังหลายสิบคนได้ประกันตัวออกมาแล้ว การปล่อยตัวเป็นดุลพินิจของศาล ซึ่งนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการฯ ก็ไปให้ความเห็น ตรงนี้สะท้อนว่ารัฐบาลสนับสนุน
ส่วนการชุมนุมรัฐบาลก็ไม่ได้ห้าม แต้องชุมนุมอย่างสงบ และไม่ทำให้ประชาชนทั่วไปเดือดร้อน ซึ่งก็ทำแบบนี้กับผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม เรื่องการแสดงจุดยืนของผมไม่ว่าจะตอนเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล ยังยึดถือตามนั้น เรื่องปราสาทพระวิหาร ก็ยังขับเคลื่อนไปตามนั้น แต่อาจไม่ตรงใจคนบางกลุ่ม ถามว่าโกหกตรงไหนเขาก็ตอบไม่ได้ ทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงได้เปิดโอกาสให้มาคุยกันตลอด เพียงแต่เรื่องปราสาทพระวิหารจุดยืนยังไม่ตรงกัน แต่ก็เข้าใจว่าการชุมนุมก็ต้องมีการปลุกเร้าเป็นธรรมดา เรื่องเสื้อเหลืองปิดถนนข้างทำเนียบฯ ฝ่ายความมั่นคงพยายามเจรจา เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบ ไม่ได้ไปทำอะไรรุนแรงให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนเรื่องยุบสภายังยืนยัน ยุบสภาแน่ ตอนนี้แม้มีชุมนุมเคลื่อนไหว แต่ถ้าไม่ได้อยู่ระดับที่รุนแรง ก็ยุบสภาไปเลือกตั้งได้”นายอภิสิทธิ์กล่าว
未经允许不得转载:综合资讯 » นายกฯย้ำพร้อมยุบสภา