นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี "หัวทิ่ม"มากกว่าใคร เพราะเป็นคนไล่เบี้ยถามรัฐมนตรี "เป้าเชือด" ในที่ประชุม ครม. ก่อนทุบโต๊ะเลยว่า พร้อมให้บรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในสัปดาห์หน้า
เล่นเร็ว จบเร็วไปเลย
มวยโชว์ฟอร์มคึกคักพร้อมขึ้นเวที แต่กลายเป็นโปรโมเตอร์ใหญ่อย่าง "ปู่ชัย" นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เล่นบท "กั๊ก" ส่อเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจจากวันที่ 9-12 มีนาคม ไปเป็นวันที่ 15-18 มีนาคม
ตามปมเหตุที่แบ่งออกเป็น 2 กระแส มุมหนึ่งก็ว่าเป็นการหลบม็อบเสื้อแดง นปช. ที่นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มีนาคม ห้วงเวลาคาบเกี่ยวปรากฏการณ์เสียวๆ
จำเป็นต้องเลี่ยงโดนม็อบปิดล้อมสภา
แต่อีกมุมหนึ่งที่ดูจะมีน้ำหนักมากกว่า ว่ากันว่าเป็นลูกเขี้ยวของ "ปู่ชัย" รับซิกจากลูกชายคือนายเนวิน ชิดชอบ บอสใหญ่ค่ายภูมิใจไทย ให้เลื่อนคิวเปิดเขียงออกไปก่อน
เนื่องจาก 4 รัฐมนตรี ยี่ห้อภูมิใจไทย อันประกอบไปด้วย "ปู่จิ้น" นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย "เจ๊วา" นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ "เดอะซาเล้ง" นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และ "ครูแก้ว" นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรฯ ยังเตรียมตัวเตรียมข้อมูลไม่ทัน เพราะโดน "สองเด้ง" ทั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจ และยื่นถอดถอน
ที่แน่ๆตามเงื่อนไข โดยสถานะของ "ผู้ทรยศ" และ "ตัวตัดแต้ม" ในภาคอีสาน เผลอๆคนยี่ห้อภูมิใจไทยนั่นแหละ จะเป็น "เป้าจริง" ของลูกข่าย "นายใหญ่"
"เนวิน" ถึงต้องคุมเกมรับมือกันแบบรัดกุม
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะจัดคิวเชือดกันวันไหน แต่อ่านกันตามรูปมวยที่ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ขึ้นกระดานเชือดรัฐมนตรีแบบ "เหวี่ยงแห" โดยเกมก็คงแค่ย้ำ "จุดสลบ" รัฐบาล ลากกระแสไปถึงศึกเลือกตั้งใหญ่
ที่ถึงนาทีนี้ก็ยังชักเข้าชักออก แม้ "อภิสิทธิ์" จะบอกพร้อมยุบสภาเป็นรอบที่ร้อย
ล่าสุด นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาเปิดปฏิบัติการ"จุดพลุเคลียร์เส้นทาง" ฟันธงการยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และถ้าจะให้สวยที่สุดน่าอยู่ที่ปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤศจิกายน
ตามเหลี่ยมเหล่ตาจ้องไปที่การแบ่งเค้กร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2555
แต่อ้างโยงไปถึงเสียงเข้มๆของฝ่ายทหารที่บอกว่า ทำไมไม่รอให้แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำ ฤดูผ่านไปก่อน รวมไปถึงความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ออกแรง "ชักแม่น้ำทั้งห้า" ให้ลากเกมยาวออกไป
สอดคล้องในทำนองรับมุกกับ "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กุนซือใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ชี้ว่า ถึงเลือกตั้งใหม่ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองยังไม่ยุติลงง่ายๆ
ในอารมณ์เดียวกับ "เจ๊สด" นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ฝ่ายบริหารงานจัดการเลือกตั้ง ที่ทะลุกลางปล้อง ถึงขั้นยุให้ทหารปฏิวัติล้มกระดานไปเลย เพราะ กกต.ไม่อยากจัดเลือกตั้งให้เหนื่อย ในบรรยากาศที่การต่อสู้ทางการเมืองส่อเค้ารุนแรง
เสียงยุให้รัฐบาลลากยาวเกมอำนาจต่อไป ประสานกันเป็นวงออเคสตรา
เคลียร์เส้นทางสะดวกให้ "อภิสิทธิ์" เต็มที่
แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ในสถานการณ์ที่ยิ่งลากยาวยิ่ง "แต้มหด" กับปรากฏการณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ รัฐบาล "งานเข้า" รับกันไม่ทัน จากรายการ "สวาปาล์ม" ส่อเค้าลามไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่น กะปิ น้ำปลา น้ำตาลทราย แห่กันขึ้นราคา
ความเดือดร้อนลามถึงปากท้องพี่น้องประชาชน
และที่ทำให้คนเซ็งแล้วเซ็งอีก จากวิกฤติอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ที่เงอะงะ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยล่าช้า ปล่อยให้สื่อมวลชนแย่งซีนเป็นฮีโร่ มาถึงรายการช่วยเหลือแรงงานไทยอพยพหนีตายจากสงครามกลางเมืองประเทศลิเบีย ก็ยังซ้ำรอยเดิม
รัฐบาลโดนด่า ช้าไม่ทันกาล
หนำซ้ำยังปล่อยให้มีรายการ "ซิกแซ็ก" งบประมาณจ่อ "ฟาดหัวคิว" พ่วงหาเสียง
สะท้อนอาการ "บ้อท่า" ไม่มีเชิงในการบริหาร แถมยังปล่อยให้เกิดปมคอรัปชัน ทีมงานกินกันมูมมาม ซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ยี่ห้อประชาธิปัตย์ทำคะแนนหล่นหายในช่วงโค้งสุดท้าย
ทู่ซี้อยู่ต่อก็มีแต่ทุนหายกำไรหด.
ทีมข่าวการเมือง
未经允许不得转载:综合资讯 » ยิ่งอยู่ยาวยิ่งขาดทุน?