อภิสิทธิ์ – ทักษิณ
ระฆังช่วยไว้ได้ทัน
จากผลการประชุมร่วมกันระหว่าง พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา กับ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้มีการให้คำมั่นเรื่องการหยุดยิง หลังจากการปะทะบริเวณชายแดนของทหารทั้ง 2 ประเทศ ดำเนินมาเป็นเวลาติดต่อกัน 7 วัน
เป็นอันว่าสงครามภายนอกสงบ ผลกระทบถึงการเมืองภายในก็จบ
ตามข้อห่วงใยของหลายฝ่ายที่อยากให้เลื่อนคิวยุบสภาออกไป เพื่อให้มีรัฐบาลกำกับการในช่วงการสู้รบชายแดน ก็ไม่ใช่ข้ออ้างกดดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลากเกมอำนาจรัฐบาลต่อไป
“เดอะโชว์ มัสต์ โก ออน” ตามคิวยุบสภา วันที่ 6 พฤษภาคม จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
และโดยธรรมชาติของนักเลือกตั้งอาชีพก็ขยับ “เข้าที่” กันแล้ว ตามเสียงประกาศหาคนหาย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกระแสข่าว “เฮียมิ่ง” นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะไปร่วมงานกับพรรคประชาราชของ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง
ในทำนองป่านนี้ยังหานายมิ่งขวัญไม่เจอและไม่สามารถติดต่อได้ แม้จะพยายามร้องเพลงรอเพื่อส่งสัญญาณให้นายมิ่งขวัญกลับมาอยู่พรรคเพื่อไทยแล้วก็ตาม
“ตอนนี้ผมคิดถึงคุณมิ่งขวัญมาก แต่ถ้าไม่มาผมก็สุดปัญญา เพราะหาไม่เจอ โทรศัพท์ก็ไม่เปิด ติดต่อก็ไม่ได้ ซึ่งในส่วนของพรรคมีปฏิทินอยู่แล้วว่า เมื่อถึงวินาทีที่พรรคจะต้องส่งใบสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ กกต. เพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ใครยังไม่มาปรากฏตัวกับพรรค ก็ถือว่าคนนั้นไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค”
ขู่ตัดหาง วัดใจกันเป็นนัย
ตามจังหวะรุกไล่กดดัน หลังพวกที่อยู่ในข่ายกบฏพากันรายงานตัวออกอากาศ ทั้งรายของนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กลุ่มนายมิ่งขวัญที่ประกาศชัด ส่วนตัวคงไม่ออกตามนายมิ่งขวัญ ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ถ้าออกไปจะเอาอะไรไปขาย ระหว่าง “ม.แม้ว” กับ “ม.มิ่ง” ขาย “ม.แม้ว” สะดวกและหาเสียงง่ายกว่า ถ้าใช้ “ม.มิ่ง” คงลำบาก เหนื่อย ถึงอย่างไร กระแส “ม.แม้ว” ก็มีมากกว่า
ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา พรรคเพื่อไทย ก็รีบออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่จะลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปร่วมพรรคใหม่กับนายมิ่งขวัญ ยืนยันไม่เป็นความจริงล้านเปอร์เซ็นต์
เช่นเดียวกับนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธข่าวจะร่วมกับกลุ่มอดีต ส.ส.พรรคความหวังใหม่ และ ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็น ไปตั้งพรรคกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายเสนาะ และนายมิ่งขวัญ ใช้คำพูดถึงขนาดที่ว่าใครออกจากพรรคเพื่อไทยก็สอบตก ไม่ต่างจากพวกขี้เรื้อนข้างถนน
ถึงเวลาสะท้อนตัวตนของคนพรรคเพื่อไทย เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครกล้าแหกค่าย
ยี่ห้อ“นายห้างตราดูไบห่อ” ของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยังขลัง
แต่ที่ไม่แน่ว่าจะศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่ ตามรายงานข่าวที่ “ปล่อยของ” ออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ระบุถึงการจัดบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ต้ีลิสต์ของพรรคเบื้องต้นว่า
จะให้ ส.ส.ระบบสัดส่วนที่เหลืออยู่ราว 30 คน รวมกับ ส.ส.สัดส่วนบางคนที่ตัดสินใจไปลง ส.ส.เขต และ ส.ส.เขตที่ถูกเบียดให้ขึ้นมาสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อีกราว 10 คนไปอยู่ในระบบสัดส่วนที่มั่นใจได้ว่าจะได้กลับมาเป็น ส.ส.แน่นอน
นั่นคือลำดับตั้งแต่ 55 ขึ้นไป
แต่ของจริงก็อย่างที่จับอารมณ์ได้กับอาการของ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ตาเขียวใส่นักข่าว
เมื่อโดนถามถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากแกนนำพรรคอาวุโส หนึ่งในกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่ง ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพียง 150–160 ที่นั่งเท่านั้น
โดยนายสุเทพย้อนถามทันทีว่า “ผู้ใด สภาที่ปรึกษาอาวุโสผู้ใด ชื่ออะไร”
พร้อมยืนยันเสียงแข็งมั่นใจในตัวเลขที่ประกาศไว้ พรรคประชาธิปัตย์จะได้มากกว่า 200 ที่นั่งขึ้นไป
มั่นใจถึงขั้นท้าเดิมพันเอาปี๊บคลุมหัวกันเลย
เรื่องของเรื่องต้องเดิมพันสูงเข้าไว้ เพราะกลัวคนไม่เชื่อ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
未经允许不得转载:综合资讯 » วัดง่ายๆใครขลังกว่า