แกะรอยตามปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยรูดลงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์
ฟังจากนางเทียนทิพ สุพานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยรูดลงจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติกว่า 16,697 ล้านบาท เนื่องจากกังวลปัญหาหนี้กรีซ และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวของสหรัฐฯ ทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น ทองคำและพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ
ขณะที่ประเทศไทยมีปัจจัยความกังวลการเมืองหลังการเลือกตั้ง และปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้หุ้นถูกเทขายมากกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค
ตามทิศทางเดียวกันกับบรรดา “โบรกเกอร์” ใหญ่ น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิค เคอร์ส (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มหลักๆ หลังจากโบรกเกอร์ต่างชาติปรับลดคำแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลง
โดยมีประเด็นสำคัญจากเรื่องการเมืองไทย จากโพลที่ออกมาว่า พรรคเพื่อไทยมาแรงในการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงมีความกังวลว่าจะมีเหตุรุนแรงหลังการเลือกตั้ง จึงเป็นปัจจัยกดดันตลาดในช่วงนี้
สอดคล้องในทำนองเดียวกับบทวิเคราะห์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ เคจีไอ ที่ว่า นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะกังวลว่าจะมีความวุ่นวายหลังการเลือกตั้ง
โดยเฉพาะหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลและมีการนิรโทษกรรมคดีการเมือง
เรื่องของเรื่อง ว่ากันตามบทวิเคราะห์ของบรรดา “โบรกเกอร์” ใหญ่ เกี่ยวกับเหตุปัจจัยทางการเมืองที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วงระเนระนาด ออกมาสอดคล้องกันโดยมิได้นัดหมาย
ไม่เป็นคุณกับทางพรรคเพื่อไทยสักเท่าไหร่
มันก็เป็นอะไรที่คิดกันได้ในเกมลึกๆถ้าจะมีเซียนหุ้นในหมู่คนของพรรครัฐบาล “ปล่อยของ” ผ่าน “โบรกเกอร์” ช่วยกันปั่นกระแส “หุ้นตก” สร้างฉากกระตุกขวัญเชิงเศรษฐกิจ ดักสกัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และทีมพรรคเพื่อไทย
ก็อยู่ในวิสัยที่ทำได้ไม่ยาก
ตัดฉากจากอารมณ์ของ “ชนชั้นนายทุน” ที่สะท้อนผ่านตลาดหุ้น ไปที่อารมณ์ของชนชั้นรากหญ้าที่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์กับพรรคเพื่อไทย ตามปม “231 หมู่บ้านเสื้อแดง” ที่เป็นประเด็นในบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ กระจายไปทั่วโลก
แกะรอยตามที่นายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี ผู้ริเริ่มโครงการหมู่บ้านเสื้อแดง ยืนยันที่มาของโครงการ เพราะต้องการขยายกลุ่มคนเสื้อแดงให้มีความหนาแน่น ร่วมกันต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย รวบรวมคนที่มีหัวใจสีแดงพร้อมที่จะต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่ตั้งมั่น
เพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิของตัวเอง เรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่ถูกรัฐประหารโค่นล้มกลับมา
“หัวใจทุกดวงไม่มีวันสูญสิ้นและแตกดับ เส้นทางเรียกร้องประชาธิปไตยยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้จะรู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะมืดบอด เพราะคนไทยตาสว่างไม่เท่ากัน ถึงแม้จะรู้ดีว่า แค่สองมือเปล่าจะสู้อะไรกับด้ามกระบอกปืน แต่หัวใจทุกดวงก็จะคอยพยุงกันและกันเพื่อให้ก้าวเดินต่อไป”
พูดกันตรงๆแบบถอดออกมาจากหัวใจ
และก็แบไต๋แบบไม่กั๊ก ร.ต.ต.กมลศิลป์ สิงหสุริยะ ประธานกลุ่มเสื้อแดงอุดรธานี ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งแรกในประเทศไทย ย้ำจุดยืน หมู่บ้านเสื้อแดงทำงานคู่ขนานไปกับพรรคเพื่อไทย โดยจะเก็บข้อมูลปัญหาต่างๆที่คนเสื้อแดงและแนวร่วมไม่สามารถช่วยตนเองได้ ให้พรรคเพื่อไทยรับทราบ
เมื่อจะมีการเลือกตั้ง เราก็รณรงค์ให้เลือกพรรคเพื่อไทย ให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคอื่นชนะได้เสียงข้างมาก เราก็ยอมรับ จะไม่ลุกขึ้นมาต่อต้านอย่างที่สำนักข่าวรอยเตอร์วิเคราะห์
แต่หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แต่มีพรรครองลงมาแย่งจัดตั้งรัฐบาล เราจะยอมรับไม่ได้
เว้ากันซื่อๆแบบไม่มีเสแสร้ง
ไม่ต้องปั่นหุ้น อารมณ์ของแนวร่วมคนเสื้อแดง “ขึ้นเอง” โดยธรรมชาติ
“รากหญ้า” เหนียว “ฆ่ายาก” ยังไง ก็อย่างนั้น.
ทีมข่าวการเมือง
㈣㈣
未经允许不得转载:综合资讯 » ‘นายทุน’ กับ ‘รากหญ้า’