ผ่านโค้งแรกเข้าสู่ทางตรงก่อนถึงโค้งวัดเบญฯ โดยบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่เดินมาถึงกลางทาง เหลืออีกแค่ 20 วันก็จะรู้ผล เทียบกับการควบอาชาชิงชัยที่สนามม้า-นางเลิ้ง นาทีนี้ก็พอจะเห็นเค้ารางแล้วว่าใครจะเข้าวิน ใครจะเข้าเพลส
ท่ามกลาง “ลางสังหรณ์” ที่แปร่งไปจากการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา
หันไปที่คนยี่ห้อประชาธิปัตย์ โดยเกมยุทธ์ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็ยังจับจดอยู่กับการปั่นกระแสต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามเหลี่ยมแท็กทีมกับ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ “ยัดเยียด” สถานะผู้ร้ายให้กับคู่ต่อสู้
วนอยู่กับ “วาทกรรม” ซ้ำๆ ตอกย้ำแต่เรื่อง “นิรโทษกรรม”
ในเหลี่ยมถนัด “ยกตนข่มท่าน” พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยอุดมการณ์แตกต่างกัน ไม่มีทางร่วมรัฐบาลกันได้ เพราะ “พรรคหนึ่งทำเพื่อชาติ แต่อีกพรรคต้องการเปลี่ยนระบบ”
หนักเข้าก็จับคนไทยเป็นตัวประกัน เปิดเดิมพันวัดดวงกันเลยว่า หากขุดภาพพวกเผาบ้านเผาเมืองมา “กระตุกขวัญ” กันแล้ว ยังไม่เป็นผล คนไทยยังไม่รู้สึกรู้สา
ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะ ก็จะยกประเทศให้คนเสื้อแดงไปเลย
ไฟต์บังคับมวยแต้มเป็นรอง ถึงนาทีนี้คนประชาธิปัตย์สะกดไม่เป็นแล้วกับคำว่า “ปรองดอง”
ขณะที่ยี่ห้อ “เพื่อไทย” ก็ไหลตามอารมณ์ แม้ “น้องปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 จะนิ่งตามสคริปต์ ไม่หลงเกมคลุกวงในกับอีกฝ่าย แต่ด้วยบรรยากาศพาไป โดนกระแทกซ้ายกระแทกขวา จากที่ประกาศ “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ก็ชักจะเสียงอ่อน
ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น “ทีมพี่เลี้ยง” ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แม่ทัพใหญ่ทีมปราศรัย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. รวมไปถึงนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกมาปะฉะดะกับแนวต้าน
โต้กันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทีมงานฮาร์ดคอร์ของพรรคเพื่อไทยแหกวงล้อมช่วย “ยิ่งลักษณ์” ซัดกลับคนประชาธิปัตย์แบบไม่ยอมลดละ ไหนจะลุยประดาบกับขาประจำอย่างนายแก้วสรร อติโพธิ และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ที่เดินเกมสกัด “นารีพิฆาต”
ไม่เว้นแม้แต่บรรดาขุนทหาร “เสธ.ไก่อู” พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ก็โดดออกมาร่วมวงพันตู เปิดวาทกรรม “น้ำล้างเท้า” โต้กับ “น้ำล้างชาม” จ่าฝูงอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ไม่วายหลุด “เกมยั่ว” ออกมาประกาศ “เกทับ” สู้กองกำลังพลเรือน เบิ้ลกันว่าด้วยเรื่องที่ทีมเฉพาะกิจกวาดล้างยาเสพติดที่อ้างว่าโดนคนของพรรคเพื่อไทยขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่
ถ้าเอาทหารไป 10 คนไม่พอ ก็เอาไป 50 ไม่พอ ก็เอาไป 100 ให้มันรู้กันไป ทหารไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี
ตามสัญญาณที่ถูกแปลความว่า ตั้งป้อมชนกับพรรคเพื่อไทย
ลุย “ล้างบาง” กันไปข้าง ท่ามกลางปรากฏการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างโน้มน้าวคะแนนเสียง ปั่นตัวเลขให้เข้าทางตัวเองเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ภาพที่ออกมา “ประชาธิปัตย์” กับ “เพื่อไทย” สองขั้วอำนาจใหญ่ คู่ชิงเกมอำนาจประเทศไทย กำลังปั่นกระแสยึดฉันทมติประชาชน เพิ่มขนาดของดาบในมือ
เพื่อจะได้ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามได้แบบ “เต็มเหนี่ยว”
ในจังหวะตามแห่ ค่ายภูมิใจไทยของยี่ห้อ “เนวิน ชิดชอบ” ก็เดินเกมหักดิบ “มึงไม่เอากู กูก็ไม่เอามึง” สวนหมัดแถลงการณ์ “ตัดหาง” ของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรคภูมิใจไทย
แม้แต่พรรคชาติไทยพัฒนาที่ขายมุก “ปรองดอง” ปั่นจักรยานใส่เสื้อสีชมพู ปั่นกระแส “ขั้วกลาง” แต่ก็อย่างที่เห็นทั้ง “หลงจู๊ใหญ่” อย่างนายบรรหาร ศิลปอาชา และนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าค่าย ก็เปิดศึกย้อนศร “เฟซบุ๊ก”กับ “อภิสิทธิ์” สาวไส้ประจานกันแบบแสบทรวง
“ปรองดอง” กันแค่ตัวหนังสือ
ขณะที่ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่เน้นเก็บคะแนนจาก “คนคิดทางขวาง” ก็กำลังขึ้นหม้อกับบท “เฮี้ยว” ชวนทะเลาะไปทั่ว กัด จิก เหน็บ ไปทุกป้อมค่าย ตามเกมยุทธ์เชิงการตลาด แย่งพื้นที่ข่าวรายวัน
ตามโพลพรรครักประเทศไทยขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในเขตเมืองกรุง
กลายเป็นพวกที่ไม่มีปากมีเสียง หาเสียงแบบไม่ชวนทะเลาะกับใคร ที่หายไปจากกระดาน ยี่ห้อ “รักษ์สันติ” ของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก็เงียบลงไปทุกขณะ ส่วนค่ายชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค นำทีมแกนนำอย่างนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ออกตีปี๊บขายนโยบายเศรษฐกิจ ขึ้นรถลงเรือ เดินกันน่องโปง ปั่นกระแสกันเหนื่อย ก็ยังเรื่อยๆมาเรียงๆ
นั่นก็เพราะอารมณ์ของคนในสังคม ถูกปลุกปั่นจนเตลิดไปแล้ว
ต้องเล่นบท “ทะเลาะ” เดินหน้าท้ารบกัน ถึงจะอยู่ในกระแส
มันก็เป็นอะไรที่คาดเดาได้ หลังเลือกตั้ง ยังไงก็วุ่นไม่เลิก.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ㄏㄏ
未经允许不得转载:综合资讯 » อารมณ์เตลิดไปแล้ว?