综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

ยังมีสัญญาณเชิงบวก!

ยังมีสัญญาณเชิงบวก!

แววมาก่อนเลย ว่ากันตามสเปก “ของขวัญวันเกิด” ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย บอกกับนักข่าวภายหลังตักบาตรร่วมกับสามีและลูกชาย ช่วงเช้าตรู่วันที่ 21 มิถุนายน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 44
ไม่ขออะไรเป็นพิเศษ แต่ต้องการให้ประเทศก้าวไปสู่ความปรองดอง สามัคคี เพราะการอาสาเข้ามาทำงานครั้งนี้อยากให้ประเทศมีแต่รอยยิ้ม และความรัก
ตามสคริปต์ของ “ผู้นำ” ที่ถอดแบบฟอร์มมาเลย ของขวัญวันเกิดอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข
เอาเป็นว่า จากภาพสาวสังคม สวย เก่ง รวย ที่ปกติทั่วไปของบรรดาไฮโซมักจะอ้อนขอของขวัญวันเกิดจากสามี เป็นแหวนเพชร จี้เพชร เพื่ออวดรวย เริด เชิด หยิ่ง กันในหมู่ “ไฮซ้อ” ถึงตรงนี้ โดยอารมณ์ของ “ยิ่งลักษณ์” ปรับมาอยู่ในโหมดของคนการเมืองเต็มรูปแบบ
รอบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ “นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทย”
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลำพังแค่ “ฉายแวว” ยังทึกทักไปเลยไม่ได้ โดยเฉพาะกับภารกิจต้องฝ่าอรหันต์ทองคำด่านสุดท้าย ตามมุมที่สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานบทวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทยแบบฝรั่งที่มองจากภายนอกเห็นทะลุปรุโปร่งกว่าคนใน ฟันธง ท่าทีของกองทัพได้เลือกข้างไปแล้ว โดยยกเอาการแถลงผ่านโทรทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ถูกมองว่า เป็นการพูดสกัดทางพรรคเพื่อไทยที่ถูกมองว่าไม่ภักดีต่อสถาบัน
และดูเหมือนกองทัพพยายามทุกวิถีทางเพื่อสกัด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้มีคะแนนนิยมนำหน้าทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี และขวางทางคลอดแผนนิรโทษกรรมนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน
แม้การปฏิวัติในช่วงเวลาปัจจุบันดูจะไม่ใช่ของง่าย เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงมีการรวมกลุ่มก้อนแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่อาจเลี่ยงได้ยาก ถ้าผู้นำทหารเห็นว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
มีแผนตามเล่นงานเอาคืน
ตามเงื่อนไขไฟต์บังคับ “ยิ่งลักษณ์” ยังเสี่ยงสูงกับการโดน “ตะปูเรือใบ” เจาะยาง
แต่ก็ยังมีปมติดติ่งห้อยท้ายให้ตามรอย สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดพรรคเพื่อไทยและทหารนายหนึ่ง ระบุว่า การปฏิวัติอาจไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้นำทหาร กำลังหารือข้อตกลงภายใต้เงื่อนไขปล่อยพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลแลกกับการ
การันตีว่า อีกฝ่ายจะไม่ถูกเล่นงาน และข้อนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็เผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รับรู้เรื่องการเจรจานี้เช่นกัน
นี่แหละที่ต้อง “เงี่ยหู” ฟังกันดีๆ
และก่อนอื่นเลยกับสัญญาณ “เชิงบวก” เริ่มจากคิวของเซียนยี่ห้อ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ออกมาสะกิดให้ระวัง “เดดล็อก” ทางการเมือง พร้อมๆกับยุทธศาสตร์ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เดินหน้านโยบาย “หยุดขั้ว สลายสี สามัคคีพี่น้องไทย”
กระตุกอารมณ์ในห้วงบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งร้อนแรงเกินห้ามใจ
ตามมาด้วยการขยับร่วมกันของ 7 องค์กรสำคัญ อันประกอบไปด้วยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกันออกแถลงการณ์ “ก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง”
เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้งทางการเมือง เพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์รุนแรงในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสังคมทุกภาคส่วน สังคมไทยยังตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง หากยังไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ จะส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติจนยากจะฟื้นฟู
แล้วก็เป็นพรรคเพื่อไทย ที่ “รับลูก” ทันควัน ออกแถลงการณ์ตอบรับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของ 7 องค์กรทันที เนื่องจากข้อเรียกร้องดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนและนโยบายพรรคเพื่อไทยที่มีแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้ง นำสันติสุขกลับสู่สังคมไทยด้วยการปรองดอง
และไล่เลี่ยๆกัน อดีตนายกฯทักษิณ ก็ได้ทวิตข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ “เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์” ยกมือสองข้างหนุนเต็มที่ ดีใจที่องค์กรภาคเอกชนร่วมกันออกแถลงการณ์เรื่องก้าวข้ามความรุนแรงสู่สังคมปรองดอง เพราะบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ทุกคนทุกฝ่ายทุกภาคส่วนต้องให้ความสนใจห่วงใย ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองเท่านั้น
หลายภาคส่วนขยับส่งมุกรับไม้กระแส “ปรองดอง”
เรื่องของเรื่องสุดท้ายก็ยัง “ไม่มีอะไรในกอไผ่” ล่าสุดบินด่วนกลับมารายงานตัวแล้ว นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำทีมนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น นางสดศรี สัตยธรรม เปิดแถลงข่าวเคลียร์ข้อเท็จจริงกรณีบินไปดูงานต่างประเทศ ยืนยันเป็นการเดินทางไปดูงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง
ไม่มีความมุ่งหมายที่จะล้มเลือกตั้งแต่อย่างใด
ณ คาบนี้ เหตุการณ์บนถนนสายเลือกตั้งยังปกติ.

ทีมข่าวการเมือง

㈠㈠

未经允许不得转载:综合资讯 » ยังมีสัญญาณเชิงบวก!

赞 (0)
分享到:更多 ()