ท่านที่ติดตามคอลัมน์ซอกแซกมาโดยตลอด คงจะพอทราบบ้างแล้วว่า ทีมงานซอกแซกทุกระดับตั้งแต่หัวหน้าทีมไปจนถึงลูกทีม ล้วนชื่นชอบในศิลปะการแสดงแบบไทยๆ
ทุกครั้งที่มีการแสดงที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ ทีมงานจะต้องหาโอกาสแวะเวียนไปดูชมและกลับมาบอกกล่าวเล่าสิบเป็นเชิงเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านตามไปดูและตามไปชมด้วยเสมอๆ
รวมทั้งการแสดง “โขน” เรื่องรามเกียรติ์ ที่จัดโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพทั้ง 2 ชุด ได้แก่ชุด “พรหมาศ” เมื่อปี 2552 และชุด “นางลอย” เมื่อปี 2553 ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
โดยเฉพาะชุดล่าสุดคือ “นางลอย” นั้น ทีมงานซอกแซกชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะเคยร่ำเรียนและท่องบทพระราชนิพนธ์ที่เรียกว่า กาพย์นางลอย มาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปลาย ที่สมัยก่อนเรียกกันว่าม.8 ประมาณ พ.ศ.2501-2502 โน้น
ครั้นเมื่อยกทีมไปดูกลับมาแล้วก็ติดอกติดใจมาก นำมาเขียนด้วยความชื่นชมยกย่องเต็มคอลัมน์วันอาทิตย์ และยังเก็บไปแย็บโน่นแย็บนี่เล็กๆ น้อยๆในคอลัมน์ประจำวันอีกหลายๆครั้ง
เมื่อทราบว่าโขนคณะเดียวกันนี้จะลงโรงอีกครั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจึงรู้สึกตื่นเต้น และส่งทีมงานไปรับฟังคำแถลงข่าว ตลอดจนขอสัมภาษณ์พิเศษผู้เกี่ยวข้อง ได้ข้อมูลมาฝากท่านผู้อ่านพอสมควรทีเดียว
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ในฐานะประธานคณะอำนวยการจัดการแสดงโขนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับชุดที่จะแสดงในวันที่ 15-31 กรกฎาคมนี้ จะเป็นชุด ศึกมัยราพณ์ที่กรมศิลปากรเคยแสดงมาแล้วในอดีต และได้รับความนิยมอย่างสูงมาก
คณะกรรมการฯได้ดำเนินการตามพระราช เสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อนุรักษ์โขน ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย และให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนสืบสานศิลปวัฒนธรรมตามแบบประเพณีโบราณที่งดงามเต็มรูปแบบ
ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะเลือกการแสดงชุดมัยราพณ์สะกดทัพ หรือศึกมัยราพณ์ ที่มีความงดงามและสมบูรณ์ไปด้วยศิลปวัฒนธรรม มาให้ประชาชนทั่วไปได้ดูชมแล้ว คณะกรรมการยังเตรียมการที่จะจำหน่ายบัตรในราคาพิเศษให้นักเรียน นักศึกษา ซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ของประเทศไทย ได้มีโอกาสสัมผัสกับมรดกไทยชิ้นสำคัญชิ้นนี้อีกด้วย
รวมทั้งคัดเลือกนักแสดงรุ่นใหม่ๆจากวิทยาลัยนาฏศิลปและสถาบันการศึกษาที่มีการเรียนการสอนด้านนาฏศิลป์มาร่วมแสดงด้วยในบทสำคัญๆนับสิบราย นอกเหนือไปจากศิลปินระดับแนวหน้าของกองสังคีต กรมศิลปากร ตลอดจนครูบาอาจารย์จากวิทยาลัยนาฏศิลปต่างๆ ภายใต้การควบคุมและกำกับของอาจารย์ ประเมษฐ์ บุณยะชัย
สำหรับ “ฉาก”ประกอบการแสดงนั้น ถือเป็นจุดเด่นของโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นความอลังการ ตื่นตา ตื่นใจ ตลอดจนความแปลกใหม่และมหัศจรรย์
ดังเช่นฉากไล่ล่าจนเกิดความรักกลางอากาศ ระหว่าง หนุมาน กับนาง เบญกาย ในชุด “นางลอย” ที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้ชมจนถึงวันนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีฉากที่ยิ่งใหญ่หรือน่าสนใจแบบชุดที่ผ่านๆมาหรือไม่ ก็ ได้รับคำชี้แจงจาก ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานคณะอำนวยการแสดงฯว่า จะมีฉากสำคัญๆ หลายๆฉาก ไม่แพ้ชุดที่แล้วมา อาทิ ฉากหนุมาน“เนรมิตกาย” ให้ใหญ่โตมโหฬาร เพื่ออมพลับพลาที่ประทับของพระรามไว้ในปาก เป็นต้น
อาจารย์ สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างฉาก จะใช้เทคนิคพิเศษมาช่วยเนรมิตหนุมานให้สูงถึง 8 เมตร กว้าง 16 เมตร เต็มเวที โดยมีพลับพลาและผู้แสดงเป็นพระรามอยู่ในปากหนุมาน คาดว่าจะได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง
นอกจากนี้ ก็จะมีฉาก เขาโสลาศ ที่มัยราพณ์ ขึ้นไปกวัดแกว่งกล่องแก้วให้แวววับคล้ายดวง
ดาวประกายพรึกสว่างไสว เพื่อหลอกล่อกองทัพพระรามว่ากำลังจะพ้นยามราตรีแล้ว เคราะห์ของพระรามกำลังจะหมดไป อันจะเป็นผลทำให้กองทัพพระรามผ่อนคลายการปกป้องและคุ้มกันภัยพระรามลงบ้าง
อีกฉากหนึ่งที่คาดว่าจะประทับใจผู้ชมอย่างแน่นอนก็คือ ฉาก “หุงสรรพยา” หรือการบวงสรวงด้วยกระทะใบใหญ่บนกองฟืนที่ก่อไฟลุกโชน พร้อมกับมีสรรพสิ่งต่างๆโผล่ขึ้นมาจากกระทะ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นคงต้องไปดูชมกันเองในวันแสดง
ขณะนี้ทีมงานหลายสิบชีวิตของอาจารย์สุดสาครต่างกำลังลงสีระบายฉากระบายผ้าและตอกตะปูโป้งป้างอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ออกมาสมจริงสมจังตามที่อาจารย์สุดสาครสเกตช์ภาพล่วงหน้าไว้
ท้ายที่สุดท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ประธานกรรมการอำนวยการฯ ได้กล่าวสรุปการแถลงข่าวการแสดงโขน ชุดมัยราพณ์สะกดทัพว่า
“การแสดงโขนแต่ละครั้งไม่ได้จัดขึ้นมาง่ายๆ เลย ท่านผู้ชมที่ได้เห็นการแสดงบนเวทีต่างชื่นชมยินดีและมีความสุข แต่เบื้องหลังของการจัดแสดงต้องใช้ทั้งคน ทั้งกำลังทรัพย์ ตลอดจนมันสมอง และการทุ่มเทฝึกซ้อมต่างๆ”
“แต่สิ่งที่น่ายินดีและถือว่าคุ้มค่าก็คือ ในการแสดงทุกครั้งสามารถสร้างงานศิลปวัฒนธรรมให้เยาวชนรุ่นใหม่ ทั้งช่างปัก ช่างเขียนฉาก ช่างทำหัวโขนช่างทำเครื่องประดับ ตลอดจนการร้องการรำ รวมถึงการคัดเลือกนักแสดงรุ่นใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้โขนเป็นศิลปะที่จะอยู่เคียงคู่ประเทศไทยตราบนานแสนนาน”
“คณะแสดงและผู้ร่วมในการจัดโขนทุกคนพร้อมใจและตั้งใจอย่างยิ่งในการทำงานถวาย สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงปลาบปลื้มพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่งใน 2 ชุดที่ผ่านมาก็คือ การที่สังคมไทยและประชาชนชาวไทยให้ความสนใจในการแสดงอย่างมาก…ผู้ชมก็มีทั้งผู้สูงอายุและผู้เยาว์ หรือมากันเป็นครอบครัว เพื่อชมศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย… พระองค์จึงทรงหวังว่า การแสดงชุด ศึกมัยราพณ์ จะนำความสุขและความประทับใจมาให้กับผู้ชมอีกครั้งหนึ่ง”
ขอย้ำอีกครั้ง การแสดงจะมีเพียง 2 สัปดาห์ คือ ระหว่าง 15-31 กรกฎาคมเท่านั้น และขณะนี้บัตรจำหน่ายไปมากแล้ว รีบๆ จับจองด้วยนะครับ หากบัตรหมดเสียก่อน และหากไม่มีการเพิ่มรอบอีกจะมาบ่นว่าเสียดายไม่ได้เชียวนา.
“ซูม”
ひひ
未经允许不得转载：综合资讯 » โหมโรง "ศึกมัยราพณ์"