สวนดุสิตโพลชี้ ประชาชนร้อยละ 55.38 เห็นด้วยเพื่อไทยรวมพรรคการเมือง 6 พรรคตั้งรัฐบาล 300 เสียง เชื่อไม่เป็นเผด็จการรัฐสภา ส่วนใหญ่ค่อนข้างมั่นใจ รบ.ยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศได้ตามที่สัญญาไว้ เนื่องจากมีบุคลากรที่มีฝีมือ มีความสามารถจำนวนมาก …
วันที่ 10 ก.ค. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ กรณี “การจัดตั้งรัฐบาล” และ “จัดสรรรัฐมนตรี” หลังพรรคเพื่อไทยรวมพรรคการเมือง 6 พรรค ตั้งรัฐบาล 300 เสียง เพื่อความมั่นใจต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้ยิ่งขึ้น และการคาดการณ์ถึงคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 1 โดยจัดสรรตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคร่วม ตามความเหมาะสม หากคำนวณตามคะแนนเสียงที่ได้รับการเลือกตั้ง เข้ามาพรรคเพื่อไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีมากที่สุด ในขณะที่พรรคร่วมต่างๆ จะได้รับการจัดสรรตามโควตาตามสัดส่วนกันไป
สรุปผลได้ดังนี้ ประชาชนร้อยละ 55.38 เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยรวมพรรคการเมือง 6 พรรคตั้งรัฐบาล 300 เสียง เพื่อความมั่นคงและเสถียรภาพของรัฐบาล, จะได้เดินหน้าทำงานตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน ฯลฯ ขณะที่ ร้อยละ 27.35 ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการผูกขาดทางการเมือง, ฝ่ายค้านไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบ หรือถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ฯลฯ และร้อยละ 17.27 ไม่แน่ใจ เพราะการที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือมีความเห็นไม่ตรงกัน, ควรดูกันที่ผลงาน และความตั้งใจในการทำงานมากกว่า ฯลฯ
เมื่อถามว่า การที่มี ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลถึง 300 เสียง จาก 500 เสียง ประชาชนคิดว่าจะเป็น “เผด็จการรัฐสภา” หรือไม่ ร้อยละ 64.94 คิดว่า ไม่เป็นเผด็จการรัฐสภา เพราะเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ที่รัฐบาลต้องกุมเสียงข้างมากไว้ เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล, การเมืองปัจจุบัน ถ้าบริหารไม่ดี หรือขาดความโปร่งใส สังคมก็จะเป็นผู้ตัดสินเอง ฯลฯ ขณะที่ ร้อยละ 35.06 คิดว่า เป็นเผด็จการรัฐสภา เนื่องจากเป็นความตั้งใจของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการกุมเสียงข้างมากในสภาไว้, ทำให้ไม่สามารถคัดค้านหรือถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาลได้ ฯลฯ
ต่อข้อถาม ความมั่นใจต่อเสถียรภาพ หรือความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้ ร้อยละ 29.37 ค่อนข้างมั่นใจ เพราะรัฐบาลชุดนี้มีคนที่มีฝีมือ มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก เชื่อว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศได้ตามที่สัญญาไว้ ฯลฯ ร้อยละ 28.48 มั่นใจมาก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เป็นการพิสูจน์ฝีมือของว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ฯลฯ ร้อยละ 25.11 ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะจากกระแสข่าวรัฐบาลชุดใหม่เริ่มมีปัญหา หรือความขัดแย้งภายในกันเอง มีการเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับกลุ่มคนบางกลุ่ม ฯลฯ และร้อยละ 17.04 ไม่มั่นใจเลย เพราะสถานการณ์ทางการเมืองไทยทุกวันนี้ ยังคงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ยังมีคนบางกลุ่มที่เรียกร้อง หรือไม่ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศ ฯลฯ
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 56.24 เห็นว่า ไม่ควรจัดสรรรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงตามโควต้า เพราะควรพิจารณาตามคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ ของผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในแต่ละกระทรวง, อยากให้พรรคร่วมแต่ละพรรค คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ไม่ยึดติดกับเก้าอี้ ฯลฯ ส่วนร้อยละ 43.76 เห็นว่าควรจัดสรรตามโควต้า เพราะเป็นมารยาททางการเมืองที่ปฏิบัติกันมา เพื่อป้องกันความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ฯลฯ เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการเสนอตัวเป็น “รัฐมนตรี” ของนักการเมืองในขณะนี้ ร้อยละ 27.76 เห็นว่า ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ควรใช้เกณฑ์ในการพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเหมาะสม ชัดเจน และมีมาตรฐาน รองลงมา ร้อยละ 21.74 เห็นว่า ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่มีความยุ่งยาก ล่าช้ามากขึ้น /ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ร้อยละ 20.29 เห็นว่า ตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งสำคัญ ที่มีทั้งอำนาจและผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ใครๆ ก็อยากเป็น ร้อยละ 16.04 เห็นว่า เป็นสิทธิของแต่ละคนที่ต้องการเสนอตัวเข้าทำงาน ต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเองให้เห็น และร้อยละ 14.17 เห็นว่า ควรฟังเสียงของประชาชนด้วยว่า มีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าคณะรัฐมนตรีไม่ดี ก็สามารถปรับ ครม. ชุดใหม่ได้.
uu
未经允许不得转载：综合资讯 » โพลหนุนรบ.6พรรค 300ไม่เผด็จการ เชื่อทำตามสัญญา