“อภิสิทธิ์” ชี้ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยรับนโยบาย “ยิ่งลักษณ์” สกัดเงินเฟ้อ บี้เพื่อไทย หาเสียงไว้ต้องทำให้ได้ ทั้งกรณีขึ้นเงินเดือนขรก.ปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งกรณีถมทะเล…
เมื่อเวลา 09.50 น. 14 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย 0.25% จาก 3% เป็น 3.25% ต่อปีว่า เข้าใจว่ากนง.เป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อ เพราะโดยธรรมชาติต้นทุนขณะนี้สูงขึ้น อยู่แล้ว และกังวลว่านโยบายของรัฐบาลใหม่จะต้องใช้เงินจำนวนมากที่จะเป็นตัวแปร ทำให้มีแรงกดดันให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะการส่งสัญญาณในเรื่องเงินเฟ้อ และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างที่จะต่อเนื่อง และต้องระมัดระวัง เพราะขณะนี้เศรษฐกิจยุโรปยังมีความเสี่ยงอยู่
“ถ้ามีปัญหาขึ้น อาจจะกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย คิดว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่มีขึ้นอย่างระมัดระวัง รัฐบาลใหม่ต้องเร่งทำแต่ต้น ต้องซักซ้อมกันให้ดีว่า เป้าหมายเศรษฐดิจจะมุ่งตรงไหน เพื่อให้นโยบายการเงินการคลังสอดคล้องกัน แม้ว่ากนง. หรือธนาคารแห่งประเทศไทย มีอิสระจริง แต่ต้องมาคุยถึงเป้าหมายให้ตรงกันก่อน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ารัฐบาลใหม่เดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียง จะเกิดปัญหาอย่างที่ธปท.เป็นห่วงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นแรงกดดันให้นโยบายการเงินต้องรัดตัวมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและอื่นๆ ด้วย
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายจะปล่อยให้เงินบาทแข็งเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายพรรคเพื่อไทย บางทีก็ไม่ชัดเจน อย่างช่วงเป็นฝ่ายค้าน บางทีบอกให้แข็ง บางทีบอกให้อ่อน ขณะนี้ถ้าจะไปทำทุกอย่างที่มันทำไม่ได้ ต้องยอมรับความจริงก่อน ถ้าอยากให้เศรษฐกิจโตเร็ว รายได้มากๆ แล้วคิดว่าไม่กระทบเงินเฟ้อเลยเป็นไปไม่ได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนคงต้องขอดูนโยบายในขั้นสุดท้ายของรัฐบาลก่อน บอกตรงๆ ว่าตอนนี้ข่าวแต่ละวันทั้งเรื่องค่าแรง 300 บาทต่อวัน เงินเดือนข้าราชการปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน ยังไม่ตรงกัน เพราะบางวันบอกว่าจะทำได้ทันที บางวันบอกต้องรอเวลาจะมีเงื่อนไข อยากให้เร่งหาข้อยุติเรื่องเหล่านี้ก่อน และสิ่งที่เป็นนโยบายหาเสียงไปแล้ว ต้องพยายามทำให้ได้ ไม่เช่นนั้นเท่ากับว่านโยบายหาเสียงพูดไปเฉยๆ ไม่มีความหมายคงไม่ได้ แต่ต้องมาดูว่าทำแล้วผลกระทบมีอะไรบ้าง หารือเตรียมมาตรการรองรับเตรียมเป็นขั้นตอน และอธิบายให้ทุกฝ่ายเข้าใจ
ต่อ ข้อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี พูดผ่านเฟสบุ๊กบอกว่าถ้านโยบายไหนทำไม่ได้ก็ให้ประชาชนตัดสิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนต้องจำว่าการพูดจาหาเสียงถึงเวลาทำหรือไม่ทำเป็นอย่างไร อย่างเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเวลานี้ที่รัฐบาลตนให้คณะกรรมการค่าจ้างไปเร่ง พิจารณาปรับตามค่าครองชีพอยู่ระหว่างการสรุปผลออกมา ซึ่งมีประมาณครึ่งหนึ่งของจังหวัดทั้งหมดทั่วประเทศเสนอให้มีการปรับและอยาก ให้ปรับ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งที่เสนอมาสูงสุดคือเพิ่มขึ้นประมาณ 20 กว่าบาท ต่ำสุดประมาณ 2 บาทโดยยังห่างจาก 300 บาท ต้องเร่งไปดูจะทำอย่างไร แต่อย่างน้อยต้องหาคำตอบหลักใหญ่ก่อน เช่น ตกลงค่าจ้างเท่ากันทั่วประเทศใช่หรือไม่ เพราะหาเสียงไว้ทุกคนเข้าใจอย่างนั้นถ้าไม่ทำต้องมีเหตุผล อยากให้ดูผลกระทบให้รอบด้าน อย่างที่ตนพูดไว้ตอนหาเสียงที่ไม่เสนอ 300 บาทเพราะไม่มีประโยชน์ที่ค่าจ้างสูงแต่คนตกงานจำนวนมาก อยากให้นายจ้างอยู่ได้ลูกจ้างอยู่ได้ให้คิดถึงผลกระทบการจ้างงาน ค่าจ้างยังต่ำไปเล็กน้อยเราค่อยๆเพิ่มได้ แต่ค่าจ้างสูงคนตกงานจะเดือดร้อนมาทั้งภาระครอบครัว สุดท้ายปัญหาจะเกิดขึ้นกับสังคมและรัฐ เราพยายามทำมา 2 ปีเป้าหมายสูงสุดคือไม่ให้คนว่างงาน
เมื่อถามถึงนโยบายเงินเดือน ข้าราชการปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือนแรกเข้า นักวิชาการวิจารณ์ว่าจะมีปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคุยกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คือเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะปรับขึ้นในอัตราที่เท่ากัน ถ้าจะทำจริงต้องบีบโครงสร้างให้มาใกล้เคียงกันมาก คือแรกเข้าได้ 15,000 แต่หลังจากนั้นจะต้องขึ้นเงินเดือนช้ามาก ไม่เช่นนั้นฐานะการคลังคงรับไม่ไหว ส่วนผลกระทบต่องบประมาณการลงทุนนั้น ต้องดูตัวเลขภาพรวม ซึ่งตนให้ลองให้คำณวนแล้ว ถ้าขึ้นและบีบอัตราเงินเดือนของคนที่สูงอยู่แล้วไม่ให้เพิ่มเลย จะใช้เงินอีก 6-7 หมื่นล้าน โดยจะเพิ่มจากฐานงบประมาณ 10% กว่า ซึ่งทั้งหมดต้องไม่ให้เกิน 40% ของงบประมาณ และต้องไปดูรายได้ที่จัดเพิ่มไว้ 1.7 แสนล้านสุดท้ายจะนำมาใช้กับเรื่องนี้ และจะกระทบงบฯลงทุนเท่าไหร่
“ส่วนนโยบายเรื่องถมทะเลนั้น ถ้าจะทำจริงต้องเข้าข่ายมาตรา 67 วรรค 2 แน่นอน ต้องรับฟังควมคิดเห็นผ่านองค์กรอิสระ ทำอีไอเอและเอชไอเอ ยังไม่ทราบว่าได้ศึกษาอะไรหรือยังที่เสนอโครงการนี้ จะบอกว่าไปหาเสียงมาแล้วจะมาทำ สุดท้ายเสียหายกับสิ่งแวดล้อม มันก็ไม่ได้แก้ปัญหาที่อยากจะแก้ การไปเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์เรื่องทะเลไม่ใช่เรื่องทำกันเล่นๆ ผลกระทบมันเกิดขึ้นต่อระบบภาพรวม และจะไปสร้างความเสียหายในส่วนอื่น ต้องศึกษา คิดว่านโยบายต่างๆ ของรัฐบาลใหม่ที่จะทำต้องเร่งหาข้อยุติ ใช้เวลาที่สภายังไม่เปิดไปจนสิ้นเดือนส.ค. ทุ่มเทกับเรื่องของการศึกษาสิ่งต่างๆ พูดให้เป็นเสียงเดียวกันให้เกิดความเป็นเอกภาพในเชิงนโยบายจะดีที่สุด
ジジ
未经允许不得转载:综合资讯 » ‘อภิสิทธิ์’ ชี้ กนง.ขึ้นดอกเบี้ย รับนโยบาย ‘ยิ่งลักษณ์’