综合资讯
当前位置:综合资讯 > 资讯 > 泰国新闻 > 正文

สุเทพ ส่อดัน วิทยา ทายาทเลขาธิการ ปชป.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส่อดัน วิทยา แก้วภราดัย ขึ้นนั่งเก้าอี้เลขาธิการ ปชป. จับตา “ชวน-บัญญัติ”จับมือหนุนใครสู้ “พิเชษฐ์”ย้ำต้องมีการเสนอให้ครบ 3 เพื่อโหวต…
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคัดเลือกตัวเลขาธิการพรรค จากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ลาออกหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคได้ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการเพื่อรับผิดชอบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของพรรคเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า
ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของสมาชิกพรรคหลายกลุ่ม เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง19คน ต้องลาออกด้วย และมีการวิเคราะห์กันว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามทั้งนี้ ส.ส.ของพรรคยังสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนตำแหน่งเลขาธิการนั้นขณะนี้เชื่อได้ว่ากลุ่มนายสุเทพ ซึ่งกุมเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ภายในพรรค ยังคงมีอำนาจในการบริหารต่อไป แม้นายสุเทพ จะถอนตัว
ทั้งนี้นายสุเทพได้วางทายาทไว้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯแล้ว เบื้องต้น 2 คนคือ 1. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และ 2. นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช โดยในช่วงต้นชื่อของนายอภิรักษ์ ค่อนข้างโดดเด่น ได้มีการขานรับกันมาก สะท้อนผ่านกรณีที่พรรคได้เปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย ที่เสนอชื่อนายอภิรักษ์ ควบคู่กับนายอภิสิทธิ์ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคดีเก่าของนายอภิรักษ์ที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลในกรณีรถดับเพลิงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปลายเดือนนี้ได้ถูกพูดถึงมากขึ้น จนเป็นกระแส และหลายฝ่ายในพรรคต่างกังวลว่ากรณีดังกล่าวจะกลายเป็นจุดอ่อนของนายอภิรักษ์ ดังนั้น ชื่อของนายวิทยา จึงโดดเด่นขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคกลางซึ่งอยู่ในกลุ่มของนายอภิสิทธิ์ ก็รอดูท่าทีภายในพรรคอยู่เช่นกัน โดยยังไม่ประกาศออกตัวเต็มที่ แต่จากคนใกล้ชิดก็ทราบว่ามีการเดินเกม ประสาน ขอแรงหนุนจากกลุ่มคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เช่นเดียวกับกรณีนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ ที่ได้สนับสนุนคุณหญิงกัลยา โสภณพาณิช กรรมการสภาที่ปรึกษา โดยที่กรณีดังกล่าวสะท้อนว่าผู้ใหญ่ภายในพรรคมีความเป็นห่วงอนาคตของพรรค เป็นอย่างมาก และสนับสนุนเปลี่ยนแปลงพรรคจากที่เป็นอยู่ รวมทั้งเปลี่ยนวิธีการเลือกเลขาธิการพรรคใหม่ จากเดิมที่ให้หัวหน้าพรรคเสนอรายชื่อขึ้นมา 3 คน เป็นให้สมาชิกพรรคคัดเลือก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แต่สิ่งที่นายพิเชษฐ์ เสนอนั้น แม้จะเป็นข้อมูลที่แท้จริง แต่ทำได้ยาก เพราะขั้นตอนต้องเสนอผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยจะต้องวางกรอบการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ และกำหนดวันประชุมวิสามัญส.ส.และประธานสาขาพรรคทั่วประเทศเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคเสียก่อน
ดังนั้นบรรยากาศภายในพรรคจึงรอดูทิศทางลมอยู่ และเป็นที่น่าจับตาว่ากลุ่มของนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน จะผนึกกำลังกันต่อรองกลุ่มของนายสุเทพ หรือไม่
นายเฉลิมชัย กล่าวสั้นๆเพียงว่า “วันนี้ยังไม่ขอพูดอะไรมาก ขอให้ประชุมกรรมการบริหารไปก่อน ผมบอกได้เพียงว่าในวันนี้พรรคต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ หากเปรียบไปแล้วก็เหมือนการผ่าตัดใหญ่ เพราะถ้าพูดไปตอนนี้ก็จะเป็นกระแสที่แรง ยิ่งกว่าที่นายพิเชษฐ์ พูดไปก่อนหน้านี้อีก และยังไม่ถึงเวลารอให้ใครเขาวิเคราะห์ไปก่อน”
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ยังมีความคลื่อนไหวที่จะผลักดันให้นายวิฑูรย์ นามบุตร ขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบภาคอีสานแทนนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ขณะที่ในส่วนภาคกลางก็มีชื่อนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่เดินสายขอเสียงสนับสนุนจากเพื่อนส.ส.และประธานสาขาพรรค เพื่อขอก้าวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าภาคกลาง เพื่อชิงกับนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ซึ่งอยู่ในกลุ่มของนายสุเทพ เพื่อขอก้าวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรคด้วย จึงต้องรอดูผลการประชุมกรรมการบริหาร ในวันที่19ก.ค.นี้ว่า จะมีการเปลี่ยนข้อบังคับ เพื่อรองรับเสียงของส.ส.ส่วนใหญ่ อยากให้มีการปรับโครงสร้าง โดยมีการระบุกันว่าหากนายอภิสิทธิ์ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกรอบ ก็ขอให้ฟังเสียง ส.ส.คนอื่นบ้าง ไม่ใช่ฟังแต่คนรอบตัว อาทิ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นางอัญชลี วานิชบุตร นายศิริโชค โสภา
ขณะที่นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส. กระบี่ กล่าวย้ำถึงกรณีข้อเสนอที่ให้ยึดข้อบังคับพรรคในการคัดเลือกเลขาธิการพรรคให้ถูกต้องว่า ครั้งที่ผ่านๆมา ผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคได้เสนอบุคคลขึ้นมา 3 คน ตามที่ข้อบังคับระบุจริง แต่คนที่ถูกเสนอชื่อ 2 ใน 3 ได้ลุกขึ้น ขอถอนตัวจึงเหลือเพียงชื่อเดียวก็มีการสรุปกันว่าไม่มีคู่แข่ง และเป็นเสียงเอกฉันท์ซึ่งวิธีการเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ตามข้อบัคับพรรคที่ระบุเพราะการระบุให้เสนอชื่อผู้เหมาะสม 3 คน หากมีคนถอนตัวไม่ว่า 1 คนหรือ 2คน ในที่ประชุมพรรคก็ต้องมีบุคคลอื่นขึ้นมาแทนให้ครบจำนวน3คน และต้องมีการโหวตลงคะแนนว่าในที่ประชุมลงคะแนนให้ใครบ้าง กี่คน อย่างไร
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หากมีการถอนตัวและเสนอตัว 2 คนใหม่ และถอนตัวใหม่ ก็ต้องเสนอให้ครบ 3 คนอีก ที่พูดเช่นนี้เพราะหากมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือก และไปร้องนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าวิธีการไม่ถูกต้อง ก็เป็นเรื่องขึ้นมาแต่ที่ตนพูดเช่นนี้ไมได้หมายความตนจะเป็นผู้ร้องนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่ต้องการให้สติผู้ที่เกี่ยวข้องว่าควรจะทำให้ถูกตามบทบัญญัติพรรค เช่นเดียวกันกับที่ตนเสนอชื่อคุณหญิงกัลยา ว่ามีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนต่อไป
ตนก็เสนอตามสิทธิ์ที่เป็นสมาชิกพรรค ใคนเห็นด้วยก็สนับสนุน หากเห็นต่างก็ไม่ต้องโหวต ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ อาทิ หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ตนไม่ขอพูดถึง เพียงแต่ตามหลักการจะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรคก็ต้องรู้แล้วว่าหัวหน้าพรรคจะเอาใครมาเป็นเลขาธิการพรรค เพื่อคนในพรรคจะได้รู้ว่าการเสนอต้องเสนอเป็นคู่ๆไป สำหรับตนที่เสนอคุณหญิงกัลยานั้น ไม่ได้มาจากการล็อบบี้ใคร.

﹍﹍

未经允许不得转载:综合资讯 » สุเทพ ส่อดัน วิทยา ทายาทเลขาธิการ ปชป.

赞 (0)
分享到:更多 ()