ประธานาธิบดีสหรัฐฯร่วมพิธีไว้อาลัยเหยื่อผู้เสียชีวิตจากพายุทอร์นาโดซัดถล่มพื้นที่รัฐมิสซูรี ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 139 ศพ และผู้สูญหายอีกประมาณ 100 ราย แต่ทีมกู้ภัยยังออกตามหาไม่ย่อท้อ…
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมิสซูรี เซาเทิร์น สเตท ในเมืองจอปลิน รัฐมิสซูรี เมื่อ 29 พ.ค. เพื่อเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยเหยื่อผู้เสียชีวิตจากพายุทอร์นาโดซัดถล่มพื้นที่รัฐมิสซูรี และตรงกับวันครบรอบ 1 สัปดาห์ของเหตุสลดดังกล่าว รัฐบาลส่วนท้องถิ่นจึงได้ประกาศขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ยืนสงบนิ่งพร้อมกันเมื่อเวลา 17.41 น. ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 139 ศพ และผู้สูญหายอีกประมาณ 100 ราย รวมถึงประชาชนอีก 318 คน ยังอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราว เพราะบ้านเรือนพังยับเยิน
ด้านนายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเร่งเก็บกวาดซากปรักหักพังที่โดนพายุทอร์นาโดซัดถล่ม พร้อมระบุอีกว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบรายชื่อผู้บาดเจ็บ และผู้ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกราว 900 คน เพื่อประสานงานกับญาติที่เข้าแจ้งความคนหาย ทั้งยังได้ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือให้ช่วยตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์ของผู้สูญหายอีกแรงหนึ่ง เพื่อค้นหาพิกัดสุดท้ายของผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อกำหนดพื้นที่ในการตามหาตัว
นอกจากนี้ โฆษกสถานีตำรวจรัฐมิสซูรียังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุงัดแงะ ย่องเบา และลักทรัพย์ ที่ลงมือก่อเหตุช่วงประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ได้รวม 17 ราย และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขเตรียมนำวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักไปฉีดให้แก่ชุมชนผู้ประสบภัย รวมถึงตรวจสอบอาการปอดอักเสบในหมู่ผู้สูงอายุ และผู้มีร่างกายอ่อนแอ เช่น เด็กหรือสตรีมีครรภ์ ขณะที่ระบบขนส่งและคมนาคมในพื้นที่ประสบภัยเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ อีกทั้งสัตว์เลี้ยง 126 ตัว จากทั้งหมด 400 ตัว ที่พบกลางซากปรักหักพังถูกนำส่งคืนไปยังเจ้าของที่แท้จริงแล้ว
ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติญี่ปุ่น เผยว่า พายุไต้ฝุ่น “ซงดา” ซึ่งซัดถล่มฟิลิปปินส์ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เคลื่อนตัวขนานตามแนวชายฝั่งทะเลมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มาทางทิศตะวันออกเฉียง เหนือ และมุ่งหน้าขึ้นฝั่งที่เกาะชิโกกุ และเกาะโอกินาวา ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่ความเร็วกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดฝนตกกระหน่ำและลมพายุกระโชกรุนแรง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับลมพายุอีกราว 57 คน โดย 5 คนมีอาการสาหัส
อย่างไรก็ตาม นายทาเคโอะ ทานากะ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นซงดาจะเคลื่อนตัวขึ้นไปยังกรุงโตเกียวและพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงจังหวัดฟูกูชิมะ ซึ่งประสบภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ และวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วไหลตั้งแต่ 11 มี.ค. และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นภายในวันที่ 30 พ.ค. แต่อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนกระหน่ำ และอาจส่งผลให้กัมมันตภาพรังสีที่สะสมอยู่รอบบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ-ไดอิจิ จะถูกน้ำฝนชะลงสู่ทะเลอีกรอบหนึ่ง.
未经允许不得转载:综合资讯 » มะกันไว้อาลัยเหยื่อทอร์นาโด ไม่ล้มเลิกหาคนหาย