คาร์ลิงคัพ หรือลีกคัพ ถ้วยเล็กสุดของอังกฤษในบรรดา 3 รายการหลัก ได้คิวชิงแชมป์เป็นถ้วยแรกของฤดูกาล
ซีซั่นนี้เราจะได้รู้กันว่า อาร์เซนอล หรือเบอร์มิงแฮม ซิตี้ จะคว้าแชมป์ไปครองในการดวลรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ วันอาทิตย์ที่ 27 ก.พ.
ว่ากันตามฟอร์มและชื่อชั้น ปืนใหญ่เหนือกว่าบานตะไท แต่บอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้
ปกติแล้วคาร์ลิงคัพเป็นรายการทดสอบนักเตะตัวสำรองของทีมยักษ์ใหญ่ แต่ปีนี้อาร์เซนอลเอาจริง เอาจังเป็นพิเศษ เพราะห่างเหินแชมป์ทุกรายการมาตั้งแต่ปี 2005 ที่ได้แชมป์เอฟเอคัพ
ถ้วยไหนก็ได้ ขอให้แชมป์ไว้ก่อน สโลแกนของอาร์เซนอลน่าจะเป็นแนวนี้ เป็นเรื่องของขวัญกำลังใจ และเป็นบทพิสูจน์ขุนพลวัยห้าวของอาร์แซน เวงเกอร์ ที่กำลังดีวันดีคืน
เวงเกอร์เคยถูกสบประมาทว่า ทำบอลเด็กเก่ง แต่ยังไม่แกร่งพอ มีปัญหาสภาพจิตใจ และสู้แรงปะทะไม่ไหว หลายครั้งก็ขายนักเตะตัวหลักออกไป
แต่ปัจจุบัน ทรัพยากรนักเตะของเวงเกอร์เป็นที่อิจฉาของทีมอื่นๆ เพราะคัดสรรดาวรุ่งมาแต่ละคนล้วนมีลีลาการเล่นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
รายล่าสุดที่ขึ้นชั้นมาอย่างเต็มตัวแล้วก็คือ แจ๊ค วิลเชียร์ มิดฟิลด์วัย 19 ปี และตกเป็นข่าวกำลังจะฉกเด็กบาร์ซามาอีก 1 ราย
ส่วนเชส ฟาเบรกัส กลายเป็นรุ่นใหญ่ขั้นเทพของทีมไปแล้ว ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น
ฟาเบรกัสเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับอาร์เซนอลตั้งแต่เดือน ก.ย. 2003 ตอนนั้นเขาอายุ 16 ปี เผลอแป๊บเดียว เขาเล่นในอังกฤษมากว่า 7 ปีแล้ว
ฤดูกาล 2004-05 อาร์เซนอลมีปัญหามิดฟิลด์ ตัวหลักบาดเจ็บหลายคน เป็นโอกาสดีของฟาเบรกัสที่ได้สอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริง และลงเล่นเป็น 11 คนแรก ในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพกับแมนฯยู
นัดนั้นรูปเกมของอาร์เซนอลเป็นรองผีแดง แต่ก็ยันเสมอ 0-0 ไว้ได้จนถึงช่วงต่อเวลาครบ 120 นาที ก่อนที่ปืนใหญ่จะยิงจุดโทษชนะ 5-4 เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์เอฟเอคัพที่ได้แชมป์จากการดวลจุดโทษ
นั่นคือเกียรติยศแรกที่ฟาเบรกัสได้สัมผัสกับอาร์เซนอล ปี 2007 ได้ชิงคาร์ลิงคัพกับเชลซี แต่แพ้ 1-2 ธีโอ วัลคอตต์ ยิงให้ปืนใหญ่ขึ้นนำ แต่ดิดิเยร์ ดร็อกบา เหมา 2 ลูก ให้เชลซีแซงกลับมาเข้าวินในที่สุด
และ 1 ปีก่อนหน้านั้นอาร์เซนอลชิงแชมเปียนส์ลีกกับบาร์เซโลนาก็ได้แค่รองแชมป์อีก จึงเป็นการรอคอยที่ยาวนานพอสมควรในความรู้สึกของกองเชียร์ จนถึงบัดนี้ก็ร่วม 6 ปีแล้ว ที่ไร้ แชมป์ติดมือ
น่าเสียดายที่ฟาเบรกัสโชคร้ายสุดๆ บาดเจ็บจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์ที่แพ้สโต๊ก ต้องออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 14
อาร์แซน เวงเกอร์ ยืนยันว่าฟาเบรกัสฟิตไม่ทันแมตช์นี้อย่างแน่นอน เจ้าตัวถึงกับซึม เพราะเขาเติบใหญ่กลายเป็นกัปตันทีมแล้ว แต่กลับไม่มีโอกาสที่จะนำทีมเดินลงสนาม หรือรับถ้วยแชมป์หากทีมคว้าชัย
เป็นเรื่องเกียรติประวัติส่วนตัวของนักฟุตบอลทุกคน โอกาสแบบนี้หาไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะนักเตะอายุน้อยอย่างฟาเบรกัส
แต่ถ้ามองโลกในแง่ดี หากเขายังปักหลักกับอาร์เซนอลต่อไปยังมีโอกาสอีกมาก และอาจไม่ต้องรอนาน
เพราะอาร์เซนอลยังคั่วแชมป์อีกถึง 3 รายการ ในเอฟเอคัพ, พรีเมียร์ลีก และแชมเปียนส์ลีก.
โต้ บ้านแหลม
ΜΜ
未经允许不得转载:综合资讯 » เสียดายแทนฟาเบรกัส