"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล สิ้นสภาพรับศักราชใหม่ไร้ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่งที่โดนโทษแบน 8 นัด แถมแนวรับพลาดซ้ำซ้อนโดน"เรือใบสีฟ้า"แมนชสเตอร์ ซิตี้ กดสองเม็ดในครึ่งแรก เข้าครึ่งหลังนึกว่าจะได้เฮเมื่อลูกทีม โรแบร์โต มันซินี เหลือ 10 คน แต่ก็เศร้าโดนจุดโทษตอกฝาโลงปิดฉากพ่าย 3-0…
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 4 ม.ค. มีการแข่งขันทั้งหมด 3 คู่ คู่ไฮไลท์สำคัญคือเกมการแข่งขันระหว่าง"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ซิตี้ จ่าฝูงของตารางเปิดรัง เอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ของตาราง
เกมนัดนี้กุนซือ เคนนี ดัลกลิช มาพร้อมกับข่าวร้ายเมื่อตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์ในกรณีของ หลุยส์ ซัวเรซ ทำให้โทษแบน 8 นัดมีผลทันทีซึ่งหมายความว่าคืนนี้จะไม่มีดาวยิงอุรุกวัยเป็นแนวบุกเหมือนเดิม ศึกครั้งนี้กุนซือเคนนีส่ง แอนดี แคร์โรลส์ เป็นหัวหอก พร้อม เดิร์ค เคาท์ ,สจ็วร์ต ดาวนิง และ ชารลี อดัม เป็นขุนพลแดนกลางในขณะที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมเป็นตัวสำรอง ฝั่งทีมเรือใบ กุนซือ โรแบร์โต มันชีนี ยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยงกับ มาริโอ บาโลเตลลี ที่มีอาการเจ็บข้อเท้าส่งผลให้ดาวยิงจอมซ่าไม่มีชื่อติดในทีมชุดนี้ แต่เรือใบก็ยังมีแนวรุกครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น เอดิน เซโก,เซร์คิโอ อเกวโร"กุน" แดนกลางมี เจมส์ มิลเนอร์ ,ดาบิด ซิลบา,ยายา ตูเร และ แกเร็ธ เบล
เขี่ยบอลไปได้ไม่ถึง 5 นาทีทั้งสองทีมต่างก็เปิดเกมบุกใส่ จนนาทีที่ 10 ทีมเรือใบก็ได้ขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ โดดเข้าตัดลูกทุ่มของลิเวอร์พูล ไปเข้าเท้า ดาบิด ซิลบา ก่อนจะแทงต่อให้ เซร์คิโอ อเกวโร กดในระยะ 20 หลา ลูกตกรอดแขน เปเป เรนา ตุงตาข่าย 1-0
หลังเสียประตูแรกทีมหงส์แดงเดิมเกมบุกอย่างหนักแต่ก็ยังครองบอลไม่อยู่จนมาถึงนาทีที่ 26 เกมบุกก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น แต่ก็มาเสียประตูให้เจ้าถิ่นอีกครั้งในนาทีที่ 33 จากจังหวะเตะมุมของ ดาบิด ซิลบา โยนบอลเข้ากลางเขตโทษ ยายา ตูเร ฉีกตัวขึ้นโหม่งสะบัดลูกหนีมือ เรนา เป็นประตูทิ้งห่าง 2-0
นาทีที่ 43 ทีมเยือนพลาดโอกาสได้ประตูตีตื้นไปอย่างน่าเสียดายจากจังหวะที่ แอนดี แคร์โรลส์ โขกตั้งบอลกลางกรอบเขตโทษให้ เดิร์ก เคาท์ ยิงจ่อๆแต่ แว็งซองต์ กอมปานี โชว์เซฟล้มตัวบล็อกไว้ได้ จบครึ่งแรกแมนฯซิตี้นำลิเวอร์พูล 2-0
เข้าครึ่งหลังเกมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนในนาทีที่ 56 กุนซือเคนนี ปรับเกมส่ง สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ เคร็ก เบลลามี ลงเติมเกมแดนกลางแทน ชาร์ลี อดัม กับ เดิร์ก เคาท์ ผ่านไป 70 นาทีิลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายได้ครองบอลมากกว่าแต่ยังเจาะกองหลังแมนฯซิตี้ไม่ได้ ในขณะที่แมนฯซิตี้ ใช้สิทธิ์เปลี่ยนตัวครั้งแรกเอา กุน ออกส่ง อดัม จอห์นสัน ลงแทน ผ่านไปไม่ถึงนาทีทีมเจ้าถิ่นก็เหลือ 10 คน เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี โดนใบเหลืองใบที่สองออกจากสนาม
แม้จะเหลือผู้เล่นมากกว่าแต่เกมก็ไม่เข้าข้างทีมเยือนเมื่อในนาทีที่ 75 ทีมเจ้าถิ่นได้ประตูทิ้งห่างจากจังหวะที่ มาร์ติน สเคอร์เทล สกัด ยายา ตูเร ล้มในเขตโทษ เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารเสียบสามเหลี่ยมทิ้งห่างไปอีก 3-0
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สี่จากจังหวะที่แนวรับหงส์แดงเคลียร์บอลไม่ขาด เจมส์ มิเนอร์ ต่อบอลให้ อดัม จอห์นสัน สับไกจากนอกเขตโทษ บอลผ่านมือ เรนา แต่ชนเสา
ก่อนหมดเวลาในนาทีที่ 89 หงส์แดงพลาดโอกาสทำประตูไปอย่างน่าเสียดาย เคร็ก เบลลามี ยิงอัดจากนอกเขตโทษ โจ ฮาร์ท พุ่งปัดไปเข้าเท้า มักซี โรดริเกซ ที่วิ่งเข้ามาซ้ำแต่ยิงเข้าข้างตาข่าย จบการแข่งขัน ทีมเรือใบสีฟ้า โชว์ฟอร์มเข้มถล่ม หงส์แดง 3-0 ส่งผลให้ แมนซิตี้ คว้าคะแนนรวม 48 แต้ม จากการลงแข่ง 20 นัด นำ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อยู่ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ในขณะที่ ลิเวอร์พูลยังคงอยู่อักดับ 6 ต่อไป.
สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำวันที่ 3 ม.ค.
สเปอร์ส 1-0 เวสต์บรอมวิช
วีแกน 1-4 ซันเดอร์แลนด์
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 3-0 ลิเวอร์พูล
ё‐ё‐
未经允许不得转载：综合资讯 » ‘หงส์’กลวงไร้’ซัวเรซ’พ่าย’เรือ’ยับ 3-0