ชัจจ์บินฮ่องกง ฟ้องทักษิณ บิ๊กโอ๋ล้วงลูก

“พล.ต.ท.ชัจจ์” จับมือ ส.ส.เสื้อแดง บินฮ่องกงดอดฟ้อง “ทักษิณ” อึดอัด “สุกำพล” รวบอำนาจกระทรวงคมนาคม แถมยังมีการล้วงลูก ทำการทำงานขาดเอกภาพ ส่งผลให้ไร้ผลงาน…
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับทิศทางในการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่ รวมถึงอุปสรรคปัญหาการทำงานภายในกระทรวงคมนาคม เพราะที่ผ่านมามีอุปสรรคปัญหามาก ซึ่งในส่วนของทิศทาง และนโยบายนั้นไม่ได้เป็นปัญหา แต่ในส่วนของการทำงาน กลับพบว่า ขาดเอกภาพ มีการล้วงลูกข้ามสาย ทำให้ข้าราชการ หรือคนที่จะต้องติดต่อประสานงานไม่รู้ว่า จะต้องคุยกับใครอย่างไรก็ตามยอมรับว่า การทำงานในกระทรวงคมนาคมที่ผ่านมีอุปสรรคปัญหามาก เพราะได้รับกระแสต่อต้านจากนักวิชาการ ข้าราชการ ผู้รับเหมา ส่งผลให้การสั่งการขาดความน่าเชื่อถือ หรือทำให้เกิดความสับสนกับฝ่ายปฏิบัติว่าจะต้องรับฟังคำสั่งจากใคร ส่วนฝ่ายการเมืองด้วยกันเองนั้น ก็มีปัญหาในช่วงแรก แต่ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันแล้ว คาดว่า ปัญหาน่าจะหมดไปแล้ว เชื่อว่าการทำงานหลังจากนี้ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปได้
“ ผมได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการทำงานในส่วนที่ผมได้รับแบ่งงานมาว่า จะทำอย่างไรดี มีอุปสรรค ไม่เป็นเอกภาพ ไม่ราบรื่น และมีปัญหาว่าสั่งงานไม่สะดวก หรือสั่งไม่ได้ จากที่ได้พูดคุยกันแล้ว คิดว่าปัญหาเหล่านี้น่าจะหมดไปได้ ” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวต่อว่า การทำงานในตำแหน่งผู้บริหารกระทรวงคมนาคม รู้สึกตนเองยังทำงานน้อยเกินไป ความคืบหน้าของการทำงานในส่วนที่รับมอบหมายซึ่งถือว่าน้อยมาก ซึ่งอาจมีผลทำให้ถูกมองว่าไม่มีผลงานหรืออาจส่งผลต่อการประเมินการทำงานได้ เช่น เรื่องการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทำงานช้า เพราะต้องรอให้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ลาออกไป การเปลี่ยนถ่ายรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ใช้มา 17 – 18 ปีก็มีความล่าช้ามามาก
ด้าน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม กล่าวว่า การทำงานทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ ซึ่งในคำสั่งการแบ่งงานก็มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ตนในฐานะ รมว.คมนาคม จะต้องเป็นผู้กำหนดนโยบายในการทำงานทั้งหมด  และเป็นผู้รับผิดชอบ ทุกเรื่องที่จะต้องนำเสนอ ครม. ตนจะต้องเป็นผู้ลงนาม ส่วนที่มอบหมายงานให้ รมช.คมนาคม รับไปดำเนินการ แต่ในด้านนโยบาย ถือว่า ตนต้องรับผิดชอบ เรื่องนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากมีปัญหาในส่วนใดก็สามารถที่จะพูดคุยโดยตรงกับตนเองได้ ซึ่งยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านตนยึดในหลักการทุกอย่างเข้ามาดูแลตรวจสอบให้เป็นไปตามขั้นตอน ยึดตามแนวนโยบายของพรรค และก็ทำงานร่วมกับ รมช.คมนาคม ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากคนใกล้ชิด พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า เหตุผลที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ เพราะพล.ต.ท.ชัจจ์ มีความอึดอัดในการทำงานภายในกระทรวงคมนาคม นอกจากได้รับการจัดสรรงานจำนวนน้อยแล้ว ยังพบว่า เมื่อต้องทำงานหรือสั่งการกลับไม่มีอำนาจเต็มที่ ทำให้ผู้บริหารหน่วยงานก็สับสนว่า จะต้องรับคำสั่งจาก รมว.คมนาคม หรือ รมช.คมนาคม ที่กำกับดูแล  รวมทั้งการทำงานก็ไปติดขัดที่ พล.อ.อ.สุกำพล เช่น เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการในหน่วยงานที่ รมช.คมนาคม รับผิดชอบ อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ พล.อ.อ.สุกำพลทั้งสิ้น ทำให้งานทุกอย่างเป็นไปอย่างล่าช้า
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้งภายในกระทรวงคมนาคม เพราะไม่พอใจบทบาทของ พล.อ.อ.สุกำพล จึงเป็นเหตุให้มีคณะของ พล.ต.ท.ชัจจ์ และสส. เพื่อไทยอีกจำนวนหนึ่งต้องขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาจัดการในเรี่องนี้ โดยเฉพาะ 2 รมช.คมนาคม คือ พล.ต.ท.ชัจจ์ และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ เคยพูดคุยปรับทุกข์กันถึงเรื่องการทำงานร่วมกับ พล.อ.อ.สุกำพลว่า นอกจากการแบ่งงานที่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมแล้ว ในการทำงานนั้นปรากฏว่า พล.อ.อ.สุกำพล เข้ามาล้วงลูกทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งบอร์ดต่าง ๆ อำนาจสิทธิขาดจะอยู่ที่ รมว.คมนาคมทั้งหมด และยังสร้างความไม่พอใจให้กับ นายชาญยุทธ เฮงตระกูล เลขานุการ รมว.คมนาคม และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ด้วย
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวว่า ในการเข้าพบหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในครั้งนี้ กลุ่มของพล.ต.ท.ชัจจ์ และมีแรงสนับสนุนจากกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยื่นคำขาดว่าจะเลือกเตรียมทหารรุ่น 10 คนนี้คนเดียว และตัดหางกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้การสนับสนุนพรรคหรือไม่ ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่า เรื่องนี้ได้มีการพุดคุยทำความเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพล.อ.อ.สุกำพล แล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้การทำงานต่างๆจะดีขึ้น

︼︼

未经允许不得转载：综合资讯 » ชัจจ์บินฮ่องกง ฟ้องทักษิณ บิ๊กโอ๋ล้วงลูก